ตำรวจกองปราบ จับกุม ชายเมายาบ้า ในจ.นครศรีธรรมราช หลังก่อเหตุเข้าไปรับลูกวัย 7 ขวบที่ รร.แห่งหนึ่ง สารภาพเสพยาเข้าไป 2 เม็ด และมีปัญหาทะเลาะกับภรรยา ก่อนก่อเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 7 ตุาคม 2565 ที่ กองบังคับการปราบปราม พ.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.ปิยะพร เรียนสุทธิ์ สว.กก.5 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. จำนวน 13 นายปิดล้อมจับกุมชายเมายาบ้าคลุ้มคลั่งพกปืนจะไปชิงตัวลูกวัย 7 ขวบที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.1 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายเหมือนที่ จ.หนองบัวลำภู
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบรถกระบะต้องสงสัย จึงได้ใช้รถยนต์เก๋งจอดประกบทางด้านขวา เพื่อแสดงตัว ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจลงจากรถ คนร้ายได้ถอยรถไปชนกับรถยนต์ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหนึ่งคันที่จอดปิดท้ายไว้ ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย จากนั้นคนร้าย ก็ได้ขับรถไปทางด้านหน้าพุ่งชนรถยนต์เก๋งของทางเจ้าหน้าที่ จึงทำให้รถยนต์ของ คนร้าย ไม่สามารถขับต่อไปได้ จึงเปิดประตูลงจากรถ ซึ่งจังหวะนั้นเองทางเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นคนร้าย ล้วงอาวุธปืนพกสั้นออกจากบริเวณสะเอวขวา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รีบเข้าชาร์จ จนสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ ทราบชื่อคือ นายธีระพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี
จากการตรวจค้นพบของกลางยาบ้า 17 เม็ด อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. พร้อมเครื่องกระสุนปืน 10 นัด อาวุธปืนยาวเดี่ยวลูกกรด .22 พร้อมเครื่องกระสุน 5 นัด เครื่องกระสุนปืน .22 จำนวน 50 นัดและยังพบผู้โดยสารนั่งข้างคนขับอีก 1 คือ นายเชาวลิต อายุ 33 ปี
จากการสอบสวน นายธีระพงษ์ รับสารภาพ ว่า ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้ามาคนละ 2 เม็ด จากนั้นได้ทะเลาะกับภรรยา จึงเกิดความเครียดชวนเพื่อนมารับลูกที่โรงเรียนแต่ถูกจับกุมเสียก่อน เบื้องต้นเจ้าหน้าจึงแจ้งข้อหา ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองฯ, ร่วมกันพาอาวุธปืนฯ, มียาบ้าไว้ในครอบครองฯ, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)และทำให้เสียทรัพย์ ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ร่อนพิบูลย์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กล่าวว่า พฤติกรรมที่เกิดขึ้นนี้ เบื้องต้น เป็นลักษณะการ Copy cat หรือพฤติกรรมเลียนเเบบจากเหตุที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งเมื่อวานนี้ก็เพิ่งเกิดเหตุสลดขึ้น โดยทางตำรวจสอบสวนกลางเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยได้ ซึ่งทันทีที่ได้รับแจ้งจึงรีบสั่งการให้ตำรวจกองปราบปรามซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเข้าตรวจสอบทันที โดยขณะนั้นทางตำรวจ กก.5 บก.ป. กำลังทำกิจกรรมจิตอาสาบริเวณใกล้เคียงอยู่พอดี จนนำมาสู่การระงับเหตุได้ทัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ทราบข่าวว่ามีคนเมายาบ้าถือปืนจะบุกเข้าไปโรงเรียนเผยแพร่ในเฟซบุ๊ก ทำให้บรรดาผู้ปกครองต่างตกใจกลัว รีบเดินทางมารับลูกๆ กลับบ้าน เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุเศร้าสลดเหมือนที่ จ.หนองบัวลำภู