ศาลปกครอง พิพากษาเพิกถอนประกาศบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร ในตำแหน่ง ‘ปลัดเทศบาล’ ปมให้คะแนนมิชอบ พร้อมสั่งยกเลิกประกาศเดิม พร้อมแนะนำให้ประมวลคะแนนต่างๆใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 23 กันยายน 2565 ศาลปกครองนครศรีธรรมราช ได้อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ บ.29/2565 หมายเลขแดงที่ บ.35/2565 ระหว่าง นางสาวนิภาภัทร เงินถาวร (ผู้ฟ้องคดี) กับประธานคณะอนุกรรมการสรรหาพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร (อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ในฐานะผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และคณะอนุกรรมการสรรหาพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร ในฐานะผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2
ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า การดำเนินการภาคความเหมาะสมในส่วนของการให้คะแนนประวัติการรับราชการ ซึ่งเป็นระยะเวลาการรับราชการไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีคำขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนหรือชะลอการเรียกรายงานตัวตามประกาศพิพาท ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองดำเนินการให้คะแนนความเหมาะสมแก่ผู้ฟ้องคดีให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง ให้จัดลำดับการขึ้นบัญชีใหม่ตามผลแบบที่ได้รับดำเนินการตามระเบียบ และคำขออื่น
ผู้ฟ้องคดีมีคำขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับใช้ประกาศฯ ฉบับพิพาท ศาลมีคำสั่งเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 ให้ทุเลาการบังคับคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่2 ตามประกาศดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษาจนกว่าศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ลดคะแนนความดีความชอบ ผิดประกาศ
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ประกาศคณะอนุกรรมการสรรหาพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร เรื่อง การขึ้นบัญชีและการยกเลิกบัญชีพนักงานเทศบาลผู้ผ่านการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร ลงวันที่ 10 มกราคม 2565 เฉพาะบัญชีรายชื่อแนบท้ายประกาศดังกล่าว ซึ่งนำระยะเวลาในการปฏิบัติงานทวีคูณของการที่ผู้ฟ้องคดีหรือเคยปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสตูล และจังหวัดสงขลา เฉพาะพื้นที่อำเภอเทพา อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอนาทวี และอำเภอจะนะ มาคำนวณคะแนนในส่วนของประวัติรับราชการของผู้สมัครเข้ารับราชการส่วนของพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร
และคำนวณค่าคะแนนประวัติการรับราชการในส่วนของความดีความชอบย้อนหลัง 5 ปี ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ลดคะแนนความดีความชอบย้อนหลัง 5 ปี ซึ่งมีคะแนนเต็ม 5 คะแนน ซึ่งคำนวณในรอบวันที่ 1 เมษายน (รอบการประเมินตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 ถึง 30 กันยายน 2563) เป็นการนำผลการประเมินความดีความชอบมาคำนวณ โดยที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ลดรอบการประเมินจาก 10 รอบการประเมินเหลือ 9 รอบการประเมิน ซึ่งมีผลทำให้คะแนนประวัติการรับราชการในส่วนของความดีความชอบลดลงจาก 5 คะแนนเหลือ 4 คะแนน
อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักเกณฑ์ที่กำหนดในข้อ 4.3 ของประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาล ก.ท. เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการนับระยะเวลาทวีคูณในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อประโยชน์ในการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2551 และข้อ 5.2.4 (4) ของประกาศคณะอนุกรรมการสรรหาพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร เรื่อง รับสมัครสรรหาพนักงานเทศบาล ให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 มีคำสั่งตามประกาศคณะอนุกรรมการสรรหาพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร เรื่อง ยกเลิกบัญชีรายชื่อพนักงานเทศบาลผู้ผ่านการสรรหาให้ดำรงตำแหน่ง สายงานผู้บริหารเฉพาะบัญชีรายชื่อของตำแหน่งปลัดเทศบาล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับสูง) และขึ้นบัญชีรายชื่อพนักงานเทศบาลผู้ผ่านการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร เฉพาะบัญชีรายชื่อของตำแหน่งปลัดเทศบาล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับสูง) ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2565
จึงเป็นการแก้ไขประกาศของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ตามประกาศคณะอนุกรรมการสรรหาพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร เรื่อง การขึ้นบัญชีและการยกเลิกบัญชีพนักงานเทศบาลผู้ผ่านการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร ลงวันที่ 10 มกราคม 2565 เฉพาะบัญชีรายชื่อของตำแหน่งปลัดเทศบาล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับสูง) ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงมีผลให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองต้องคำนวณระยะเวลาการรับราชการใหม่ โดยไม่อาจนำระยะเวลาการรับราชการทวีคูณมาคำนวณเป็นอายุราชการเพื่อเป็นฐานในการคำนวณ ซึ่งมีคะแนนเต็ม 15 คะแนน และต้องคำนวณค่าคะแนนประวัติการรับราชการในส่วนของความดีความชอบย้อนหลัง 5 ปี ในรอบตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2558 - 30 กันยายน 2563
การประเมินผลการปฏิบัติงาน ซึ่งมีคะแนนเต็ม 5 คะแนน และดำเนินการให้เป็นไปตามข้อ 4.3 ของประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาล เรื่อง มาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการนับระยะเวลาทวีคูณในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และข้อ 5.2.4 (4) ของประกาศคณะอนุกรรมการสรรหาพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร เรื่อง รับสมัครสรรหาพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร รวมทั้งประกาศและระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเร็วเพื่อความเป็นธรรม ซึ่งอาจจะมีผลต่อการจัดลำดับผู้สมัครการสรรหาตามบัญชีการสรรหาแนบท้ายประกาศ (รายชื่อประกาศแนบ) จำนวน 686 คน และจำเป็นต้องแก้ไขหรือบรรเทาความเดือดร้อนหรือเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากความล่าช้าในการปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลด้วย
พิพากษาเพิกถอนประกาศของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ตามประกาศคณะอนุกรรมการสรรหาพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร เรื่อง การขึ้นบัญชีและการยกเลิกบัญชีพนักงานเทศบาลผู้ผ่านการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร ลงวันที่ 10 มกราคม 2565 บางส่วน เฉพาะบัญชีรายชื่อแนบท้ายประกาศดังกล่าว ตำแหน่งปลัดเทศบาล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับสูง)
และเพิกถอนประกาศคณะอนุกรรมการสรรหาพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร เรื่อง ยกเลิกบัญชีรายชื่อพนักงานเทศบาลผู้ผ่านการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหารเฉพาะบัญชีรายชื่อของตำแหน่งปลัดเทศบาล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับสูง) และขึ้นบัญชีรายชื่อพนักงานเทศบาลผู้ผ่านการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหารเฉพาะบัญชีรายชื่อของตำแหน่งปลัดเทศบาล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับสูง) ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ออกประกาศดังกล่าว ส่วนคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก และให้คำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง มีผลบังคับต่อไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุดหรือศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น
โดยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับแนวทางหรือวิธีการดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาว่า ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองชอบที่จะดำเนินการคำนวณคะแนนและประมวลการสรรหา เพื่อจัดลำดับการขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหาในตำแหน่งปลัดเทศบาล (นักบริหารงานท้องถิ่น ระดับสูง) ให้เป็นไปตามคำพิพากษา และตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว เพื่อเป็นการแก้ไขหรือบรรเทาความเดือดร้อนหรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลแล้วประกาศรายชื่อพนักงานเทศบาลผู้ผ่านการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหารเฉพาะบัญชีรายชื่อของตำแหน่งปลัดเทศบาล (นักบริหารท้องถิ่น ระดับสูง) ซึ่งจะมีผลเป็นการแก้ไขเฉพาะบัญชีรายชื่อ และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่มีประกาศคณะอนุกรรมการสรรหาพนักงานเทศบาลให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร เรื่อง การขึ้นบัญชีและการยกเลิกบัญชีพนักงานเทศบาลผู้ผ่านการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งสายงานผู้บริหาร ลงวันที่ 10 มกราคม 2565