'นิโรธ สุนทรเลขา' เผย พปชร.ไม่เอาบัตรใบเดียว แต่ยังกั๊กเอาหาร 500 หรือ หาร 100 ระบุจะดันกฎหมาย ส.ส. ให้จบใน 15 ส.ค. นี้ ปัด 'ประวิตร' ส่งสัญญาณ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 29 ก.ค. 2565 นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์กรณีร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.(ฉบับที่…) พ.ศ. … หรือกฎหมายลูก ที่จะนำกลับเข้ารัฐสภาในวันที่ 2-3 ส.ค. ว่า ตอนนี้กฎหมายว่าด้วยโทษปรับเป็นพินัยคาอยู่ในสภาต้องให้จบก่อน กฎหมายลูกค่อยเข้าต่อ ทั้งนี้ จะพยายามดันให้จบ ภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้ เพราะถ้าทำไม่จบจะเสียหายและเสื่อมเสียมาก
เมื่อถามว่า วิปรัฐบาลจะกำชับพรรคร่วมเรื่องกฎหมายลูกอย่างไรบ้าง นายนิโรธ กล่าวว่า ต้องเดินหน้า เพราะต้องทำหน้าที่นิติบัญญัติ เมื่อฝ่ายนิติบัญญัติเห็นแก้เป็นใช้สูตรคำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อหารด้วย 500 แล้ว ฝ่ายนิติบัญญัติก็ต้องทำกฎหมายมาตราที่เกี่ยวข้องให้จบ เพื่อให้กฎหมายสมบูรณ์ พอจบก็ส่งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) และครม.ส่งต่อไปคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่ากฎหมายที่ฝากเข้าสภาตอนนี้พิจารณาเสร็จแล้วเป็นอย่างนี้เห็นด้วยอย่างไรก็พิจารณาไป และค่อยส่งกลับมาใหม่ เพราะกฎหมายฉบับนี้กกต.เป็นผู้เสนอ
เมื่อถามว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. ได้มีสัญญาณว่าจะให้โหวตกฎหมายลูกไปในทิศทางใดหรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า ไม่มี ต้องทำตามที่ฝ่ายนิติบัญญัติกำหนดมา ที่สภามอบหมายให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ไปพิจารณากฎหมายลูกทั้งสองฉบับ เมื่อกมธ.พิจารณาเสร็จแล้วก็เอากลับเข้ามาสภา ส่วนสภาจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับกมธ.อย่างไร กมธ.ก็ต้องยอมรับเสียงของสภา เพราะถือว่ากมธ.หมดหน้าที่ที่จะมาคุยโต้ ซึ่งตนเข้าใจว่าเขาไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ของเขา เมื่อกมธ.เสนอมา 1 กับ 2 สภาบอกว่าจะเอา1 กมธ.ก็ต้องยอมรับและไปแก้มาให้จบ ฉะนั้นเป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ไม่ได้เป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่จะมาพูดนู่นพูดนี่หรือออกคำสั่งมันไม่มี เป็นเพียงการกล่าวร้ายป้ายสีหัวหน้าพรรคพปชร. เเละด้อยค่าพรรคพปชร. เพื่อผลประโยชน์ของพรรคตัวเอง ตนมองว่าคนพวกนี้ไม่มีจริยธรรมและคุณธรรม ทำให้ประชาชนสับสนบ้านเมืองวุ่นวาย
เมื่อถามย้ำถึงกระแสข่าวที่พรรคพลังประชารัฐ อยากจะย้อนกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งแบบใบเดียว นายนิโรธ กล่าวว่า ไม่มี เป็นเพียงการพูดคุยกันเมื่อรัฐธรรมนูญแก้เป็นบัตรสองใบ และสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อหารด้วย 500 พวกส.ส.ก็มาพูดคุยกันว่าแบบ 500 และ 100 รวมทั้ง คุยถึงบัตรเลือกตั้งแบบใบเดียวและสองใบ ว่าแบบไหนดีกว่ากัน เป็นเพียงการคุยกันในวงว่าใครชอบแบบไหน ไม่ใช่ว่าพรรคพปชร.จะทำอะไร เพราะหากจะย้อนกลับไปใช้บัตรใบเดียวมันไกลมาก จะต้องแก้รัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งกระบวนการก็ยุ่งยากไม่ใช่มาพูดคุยกันและจะทำได้เลยเดียวมันไกลมาก จะต้องแก้รัฐธรรมนูญใหม่ ซึ่งกระบวนการก็ยุ่งยากไม่ใช่มาพูดคุยกันและจะทำได้เลย
ทั้งนี้ กระแสข่าวการให้กลับไปใช้บัตรใบเดียว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้เข้าไปหารือกันในห้องเล็ก ถึงเรื่องร่าง พ.ร.ป. เลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งมีแกนนำรัฐบาลคนหนึ่งได้ส่งสัญญาณกับพรรคร่วมรัฐบาลว่า ต้องการจะกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวเหมือนของเดิมในรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ที่ใช้ในการเลือกตั้ง ทำให้เกิดการโต้เถียงกันเกิดขึ้น