‘ชัชชาติ’ ขอคนกทม.ใส่หน้ากากอนามัย - ฉีดเข็มกระตุ้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด เผยภาพรวม กทม.ติดเชื้อเฉลี่ย 2,000 คน/วัน ห่วงกลุ่ม 608 ป่วยเพิ่ม จ่อฟื้นมาตรการกักตัว Community Isolation ในชุมชนแออัด ด้าน รองผู้ว่าทวิดาย้ำ เตียง-ยา พอมีรองรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 8 กรกฎาคม 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วยนางสาวทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่ากทม. เปิดเผยว่า การควบคุมดูแลสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสถานศึกษา ยังอยู่ในจำนวนที่ให้โรงเรียนจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนได้ ส่วนในเด็กเล็กตั้งแต่อนุบาล-ประถมศึกษา ยังพบผู้ติดเชื้อในจำนวนน้อย โดยกรณีที่แต่ละโรงเรียนพบมีการติดเชื้อเป็นคลัสเตอร์กลุ่มเล็ก สามารถงดการเรียนการสอนในห้องเรียน หรือสลับกันเรียนในแต่ละห้องเรียนได้ ทั้งนี้ ให้งดกิจกรรมที่รวมกลุ่มคนจำนวนมากไปก่อน และได้เตรียมไปถึงการจัดทำ School Isolation กรณีที่มีนักเรียนติดเชื้อจำนวนมากและไม่มีอาการป่วย
ส่วนสถานการณ์ภาพรวม ตอนนี้อยู่ที่ 2,000 คน/วัน โดยจำนวนยาและเตียงที่พร้อมรองรับในโรงพยาบาลสังกัด กทม. ยังมีเพียงพอ โดยเหลือการครองเตียงประมาณ 40-50% ทั้งนี้ สำหรับผู้ป่วยอาการรุนแรง มีอัตราครองเตียงค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯชั้นใน ดังนั้น อาจจะมีบางกรณีที่ต้องส่งตัวออกไปรักษาที่โรงพยาบาลของ กทม. ในแถบพื้นที่รอบนอกบ้าง
“ตอนนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ กลุ่มที่อยู่ในข่าย 608 (โรคประจำตัว-ผู้สูงวัย) ส่วนเด็กและวัยทำงานเมื่อติดเชื้ออาการไม่หนัก แต่อาจจะแพร่เชื้อให้กับผู้สูงวัยในบ้านได้ ซึ่งประเมินว่าจะทำให้อัตราการครองเตียงในโรงพยาบาลกลับมาสูงขึ้นอีก แนวคิดตอนนี้อาจจะฟื้นมาตรการแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation : CI) ขึ้นมาอีกครั้ง โดยกลุ่มชุมชนแออัดจะเป็นพื้นที่เป้าหมายหลัก เพราะส่วนใหญ่จะมีข้อจำกัดด้านการแยกกักตัว ซึ่งมอบหมายรองทวิดาไปดูแล้ว ส่วนเรื่องยา ให้กทม.ประสานกระทรวงสาธารณสุขสต็อกยาไว้แล้ว โดยเฉพาะยายาโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งน่าจะผ่านมาตรฐาน อย. ภายในเดือนนี้ โดยกทม.พร้อมจัดซื้อยาตัวนี้ไว้ และขอเตือนผู้มีความเสี่ยงกลุ่ม 608 ขอให้เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพราะมีความเสี่ยงสูง พร้อมกับขอให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัย เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่จำกัดและเว้นระยะห่างเกิน 1 เมตรไม่ได้” นายชัชชาติกล่าว
มาตรการเดินตาม ศบค.
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า เบื้องต้น มาตรการต่างๆยังต้องเดินตาม ศบค. เพราะนั่นคือประกาศใหญ่ที่คุมทั้งประเทศ แต่ตามงานที่มีการรวมกลุ่มคนมากๆ เช่น กรุงเทพหนังกลางแปลง ดนตรีในสวน ก็ขอแนะนำให้ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมเหล่านี้ สวมใส่หน้ากากอนามัยด้วย ส่วนตัวเองยอมรับว่า มีบางที ก็ประมาทเพลินกันเกินไปด้วย ก็ต้องกลับมาใส่หน้ากากอนามัยให้มากขึ้น
ส่วนกรณีที่ประชาชนตรวจแล้วพบว่าติดเชื้อ หรือสงสัยว่าจะติดเชื้อให้ไปที่ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่หรือคลินิกอบอุ่นใกล้บ้าน เพื่อรับยาตามอาการ และกลับไปดูแลตัวเองที่บ้าน แต่หากเกรงว่าจะนำไปติดที่บ้านก็ต้องเตรียมพร้อม CI ทุกเขตที่Stand by ไว้ ก็ต้องพร้อมเปิดใช้งาน และเมื่ออาการหนัก ก็ให้โทรประสานสายด่วน 1669 เพื่อประเมินและนำส่งรพ.ให้ ปัจจุบันอัตราการรอสาย 1669 อยู่ที่ 10 วินาทีต่อการรอสาย อาจจะมากกว่านี้แต่ขอให้ประชาชนอดทนรอ จะมีเจ้าหน้าที่รับสายแน่นอน จะเพิ่มเจ้าหน้าที่รับสายให้มากขึ้น หากเกิดการโทรเข้าระบบมากขึ้น