กรรมาธิการงบปี 66 สแกนงบ ‘กระทรวงต่างประเทศ’ ห่วง 2 ประเด็น การเข้าร่วม CPTPP ต้องรอบคอบ เพราะความเห็นยังหลากหลาย และกัญชาถูกกฎหมาย อาจส่งผลกระทบภาพลักษณ์ประเทศ หลัง ‘จีน-เกาหลีใต้’ เริ่มประกาศเตือนนักท่องเที่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 30 มิถุนายน 2565 น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายบัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เปิดเผยว่า คณะ กมธ. ใช้เวลาในการพิจารณางบประมาณมาแล้วทั้งหมด 15 วัน รวม 136 ชั่วโมง
ซึ่งมีหน่วยงานที่ผ่านการพิจารณาไปแล้ว รวม 6 กระทรวง 4 หน่วยงาน 5 กองทุน คิดเป็นร้อยละ 22.2 ของหน่วยงานที่ต้องพิจารณาทั้งหมด
โดยกระทรวงที่ผ่านการพิจารณาแล้ว คือ1. กระทรวงการคลัง2. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม3. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์4. กระทรวงคมนาคม5. กระทรวงพาณิชย์ 6. กระทรวงการต่างประเทศ
ถามคืบหน้าร่วม CPTPP
โดยเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 65 เป็นการประชุมครั้งที่ 17/2565 ซึ่งคณะ กมธ. ได้พิจารณางบประมาณของกระทรวงการต่างประเทศ และภาพรวมของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงหน่วยงานในสังกัดทั้งหมด 4 หน่วยงาน สำหรับการพิจารณางบประมาณของสำนักปลัดกระทรวงการต่างประเทศ วงเงิน 7,556 ล้านบาท ที่ประชุมได้สอบถามความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ CPTPP
เพราะได้ทราบข่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มอบหมายให้คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) ซึ่งมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน เพื่อศึกษาถึงผลกระทบและติดตามความคืบหน้าในการจัดทาแผนการปรับตัวของราชการ โดยมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาถึง 8 คณะ จึงต้องการทราบถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ และหน่วยงานได้เตรียมงบประมาณสาหรับข้อตกลงนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 หรือไม่
ผู้แทนของกระทรวงการต่างประเทศ ได้ชี้แจงว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้เป็นประธาน กนศ. เพื่อขับเคลื่อนเกี่ยวกับความตกลง CPTPP โดยมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นเลขานุการของคณะกรรมการฯ
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน คณะกรรมการฯ กำลังรอให้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์ นำข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับตัวของหน่วยงานต่างๆ และนำร่างกรอบเจรจาเข้าสู่ที่ประชุม กนศ. สรุปผลเพื่อเสนอ ครม. ต่อไป
จากคำชี้แจงดังกล่าว กรรมาธิการบางท่านจึงมีความเห็นเพิ่มเติมว่า ยังมีความเห็นที่หลากหลายในสังคมไทยถึงข้อดีและข้อเสียของการเข้าร่วมความตกลง CPTPP และความพร้อมของประเทศไทยที่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากความตกลงเสรีทางการค้าฉบับนี้
อย่างไรก็ตาม กนศ. กำลังจะมีการประชุม เร็วๆนี้ จึงเป็นที่น่าจับตาว่า ที่ประชุม กนศ. ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน จะมีมติให้ประเทศไทยเข้าร่วมการเจรจาความตกลง CPTPP หรือไม่
จี้ทำความเข้าใจนานาประเทศปมกัญชา
นอกจากนี้ มีกรรมาธิการได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับข่าวในต่างประเทศเกี่ยวกับการเปิดเสรีกัญชาในประเทศไทย ซึ่งอาจกระทบกับภาพลักษณ์และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศได้ ทั้งนี้ มีข่าวว่า สถานทูตของประเทศจีนได้ขึ้นเว็บไซต์เตือนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาในประเทศไทยว่า หากบริโภคสินค้าที่มีส่วนผสมของกัญชา แล้วกลับไปประเทศจีน และมีการตรวจพบสารจากกัญชาจะได้รับโทษหนัก
หรือกรณีที่มี สำนักข่าวในประเทศเกาหลีใต้ ได้ออกข่าวเตือนชาวเกาหลีใต้ว่า แม้ว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศที่สามารถหากัญชามาบริโภคได้ทุกที แต่ประเทศเกาหลีใต้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย และจะได้รับโทษหากบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชา
ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว จึงเสนอให้หน่วยงานประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทาความเข้าใจกับต่างประเทศเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวของประเทศ หรือรักษาภาพลักษณ์ของประเทศ