'ตรีนุช' พอใจโครงการ 'พาน้องกลับมาเรียน' เฟสแรก 52,760 ราย เดินหน้าต่อเฟส 2 ตั้งเป้านำเด็กการศึกษาภาคบังคับกลับเข้าระบบ 100% ภายในเดือน ก.ย. นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2565 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ติดตามการขับเคลื่อนนโยบาย 'โครงการพาน้องกลับมาเรียน' ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 35 จังหวัดพังงา โดยกล่าวว่าโครงการนี้รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนอย่างเต็มที่
ด้วยแนวคิดที่ว่า 'การศึกษาไทยต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง' ผ่านการบูรณาการระหว่างหน่วยงานทั้งในและนอกสังกัด ศธ. ในการค้นหาและติดตามเด็กตกหล่นและออกกลางคันให้มีโอกาสกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอีกครั้ง ซึ่งที่จังหวัดพังงามีเด็กหลุดออกจากระบบ จำนวน 149 คน พบตัวแล้ว 127 คน และกลับมาเรียนแล้ว 64 คน ซึ่งถือเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกับจังหวัดได้ดี
น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อไปว่า จากการดำเนินโครงการ 'พาน้องกลับมาเรียน' ในเฟสแรกตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ข้อมูลล่าสุดวันที่ 10 มิ.ย. 2565 จากจำนวนนักเรียน นักศึกษา นักเรียนพิการ และผู้พิการ ที่ตกหล่นและออกกลางคัน รวม 121,642 คน ในจำนวนนี้เป็นนักเรียน นักศึกษา กลุ่มปกติ ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) รวมทั้งสิ้น 67,129 คน พบตัวแล้ว 52,760 คน
ในจำนวนที่พบตัวนี้กลับเข้าระบบ 31,446 คน ไม่กลับเข้าระบบ 21,314 คน อยู่ระหว่างการติดตาม 5,628 คน และติดตามแล้วไม่พบตัว 8,741 คน ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มนักเรียนพิการ สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.) สพฐ. และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักศึกษา กศน.อายุเกิน 18 ปี ที่เกินวัยการศึกษาภาคบังคับและมีความต้องการประกอบอาชีพ
น.ส.ตรีนุช กล่าวด้วยว่า ถึงแม้ว่าผลการติดตามตัวพบนักเรียนเด็กกลุ่มปกติเป็นจำนวนที่น่าพึงพอใจ แต่เมื่อดูตัวเลขการตัดสินใจไม่กลับเข้าสู่ระบบ ก็มีจำนวนถึง 21,314 คน โดยในจำนวนนี้เป็นเด็กที่อยู่ในวัยการศึกษาภาคบังคับ หรือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5,625 คน
ศธ.จะเดินหน้าต่อพาน้องกลับมาเรียน เฟส 2 โดยเน้นช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาในวัยการศึกษาภาคบังคับที่ตามตัวพบแล้วแต่ยังไม่กลับเข้าสู่ระบบให้ได้กลับมาเรียนอีกครั้ง ตั้งเป้าหมายดำเนินการพากลับมาได้ 100% ภายในเดือน ก.ย.นี้ รวมถึงเด็กกลุ่มอื่นที่ยังไม่กลับเข้าระบบและตามตัวไม่พบด้วย ขณะเดียวกันในกลุ่มเด็กที่กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาแล้ว จะมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนและป้องกันการหลุดจากระบบการศึกษาซ้ำ
โดยโรงเรียนรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล จำแนกกลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง กลุ่มมีปัญหา เพื่อการดูแลช่วยเหลือตามสาเหตุ เช่น จัดหาทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่มีฐานะยากจน บิดามารดาเสียชีวิต หรือ กรณีเรียนรู้ช้าก็ปรับวิธีการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับระดับความสามารถ สอนซ่อมเสริม เป็นต้น
"ดิฉันขอขอบคุณทุกภาคส่วน โดยเฉพาะครูและบุคลากรทางการศึกษา และบุคลากรของ ศธ. ทุกคน ที่ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันตามหาตัวนักเรียนนักศึกษาและส่งต่อให้ได้มีโอกาสกลับมาเรียน ตัวเลขการค้นพบนักเรียนนักศึกษากว่า 5 หมื่นคนนับเป็นผลความสำเร็จของการดำเนินงานพาน้องกลับมาเรียน" น.ส.ตรีนุช กล่าว