‘ออมสิน’ ส่งทนายแจ้งกองทุนหมู่บ้าน ‘บ้านบัลลังก์’ อ.โนนไทย คืนเงินกู้ 3.35 ล้านบาท หลังไม่ผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญา ขณะที่ ‘ปธ.สถาบันการเงินชุมชนฯ’ ปัดแจงความคืบการแก้ปัญหาสถาบันการเงินฯ บอกอยู่ระหว่างตรวจสอบ
...................................
สืบเนื่องจากกรณีที่มีผู้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ ร.ต.ฐนนท์ธรณ์ กวีกิจรัตนา นายกเทศมนตรีตำบลบัลลังก์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานสถาบันการเงินชุมชนตำบลบัลลังก์เมื่อปี 2555 กรณีชักชวนให้กองทุนหมู่บ้าน 16 แห่ง นำเงินของกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเงินกู้เบิกเกินบัญชี (บัญชี 3) จากธนาคารออมสิน ไปให้สถาบันการเงินชุมชนตำบลบัลลังก์บริหาร รวม 45 ล้านบาท
แต่ต่อมาในปี 2561 กรรมการของกองทุนหมู่บ้านทั้ง 16 แห่ง ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ดังกล่าว ถูกธนาคารออมสินทยอยฟ้องร้องดำเนินคดี เนื่องจากสถาบันการเงินชุมชนตำบลบัลลังก์ไม่ได้ชำระคืนหนี้เงินกู้ให้กับธนาคารออมสิน และจากข้อมูลล่าสุดพบว่ามียอดหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยที่กองทุนหมู่บ้านค้างกับธนาคารออมสินอย่างน้อย 10.7 ล้านบาท นั้น (อ่านประกอบ : ร้องสอบ'นายกเทศมนตรี' ต.บัลลังก์ ปมลงขัน'สถาบันการเงินชุมชนฯ’-เจ้าตัวแจงไม่ได้ทำลำพัง)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทนายความ ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากธนาคารออมสิน ได้ทำหนังสือถึง กองทุนหมู่บ้าน บ้านบัลลังก์ หมู่ 11 ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย แจ้งยกเลิกสัญญาเงินกู้ ‘สินเชื่อพัฒนาชนบท (กองทุนหมู่บ้าน)’ กับกองทุนหมู่บ้าน บ้านบัลลังก์ และขอให้กองทุนหมู่บ้าน บ้านบัลลังก์ และผู้ค้ำประกัน ชำระคืนเงินกู้และดอกเบี้ยรวม 3.35 ล้านบาท ให้กับธนาคารออมสิน สาขาโนนไทย เนื่องจากที่ผ่านมากองทุนฯผ่อนชำระต้นเงินและดอกเบี้ยให้กับธนาคารเพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งเป็นการผิดนัดตามสัญญา
ทั้งนี้ กองทุนหมู่บ้าน บ้านบัลลังก์ เป็น 1 ใน 16 กองทุนหมู่บ้านใน ต.บัลลังก์ ที่นำเงินของกองทุนฯไปให้สถาบันการเงินชุมชนตำบลบัลลังก์บริหารเป็นเงิน 3 ล้านบาท และเนื่องจากสถาบันการเงินชุมชนฯไม่ได้ชำระหนี้คืนธนาคารออมสิน ทำให้ธนาคารออมสินต้องยกเลิกสัญญาเงินกู้กับกองทุนหมู่บ้าน บ้านบัลลังก์ และเรียกให้กองทุนฯชำระคืนเงินหนี้เงินกู้ทั้งหมดดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา กองทุนหมู่บ้าน บ้านน้อย หมู่ที่ 5 ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย กับพวก รวม 8 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสมาน เอื้อสันเทียะ ประธานสถาบันการเงินชุมชนตำบลบัลลังก์ และพวก ต่อศาลจังหวัดนครราชสีมา โดยกล่าวหาว่า นายสมาน และพวก เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นและยักยอกทรัพย์
สำหรับคดีนี้ โจทก์ (กองทุนหมู่บ้าน บ้านน้อย และพวก) บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2557 โจทก์ที่ 1 (กองทุนหมู่บ้าน บ้านน้อย) ได้ทำสัญญากู้ยืมเบิกเงินเกินบัญชี (OD) จากธนาคารออมสิน 3 ล้านบาท โดยมีโจทก์ที่ 2-8 เป็นผู้ค้ำประกัน เพื่อเป็นวงเงินให้จำเลยที่ 1 (นายสมาน เอื้อสันเทียะ) และพวก นำไปบริหารจัดการตามวัตถุประสงค์ของโจทก์ที่ 1 ในนามสถาบันการเงินตำบลบัลลังก์ ตามที่จำเลยทั้ง 2 กับโจทก์ทั้ง 8 ตกลงกันไว้ เช่น การให้บริการเงินกู้ให้แก่สมาชิกของกองทุนหมู่บ้าน บ้านน้อย หรือการชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ของโจทก์ที่ 1 เป็นต้น
โดยในวันเดียวกัน โจทก์ทั้ง 8 ได้ตกลงเบิกถอนเงินจากบัญชีกู้ยืมเบิกเงินเกินบัญชี 2.09 ล้านบาท เพื่อนำไปชำระหนี้ให้กับธนาคารออมสินตามความประสงค์ของจำเลยที่ 1 (นายสมาน เอื้อสันเทียะ) ซึ่งเป็นกิจการอย่างหนึ่งตามที่ตกลงกันไว้ ส่วนเงินที่เหลือตามสัญญากู้ยืมเบิกเงินเกินบัญชีข้างต้นนั้น โจทก์ทั้ง 8 ได้ตกลงสั่งจ่ายเช็คของธนาคารออมสิน เลขที่ 6918771 โดยยังไม่ได้ระบุชื่อผู้รับเงินและจำนวนเงิน มอบให้แก่จำเลยที่ 1 เพื่อนำไปเบิกถอนและนำเงินมาให้บริการเงินกู้แก่สมาชิกของโจทก์ที่ 1 หรือเพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์อื่นๆของโจทก์ที่ 1
ต่อมาวันที่ 16 ก.ย.2557 จำเลยและพวก บังอาจกระทำผิดต่อกฎหมาย กล่าวคือ จำเลยที่ 1 (นายสมาน เอื้อสันเทียะ) ซึ่งครอบครองเช็คพิพาทที่โจทก์ลงลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายไว้แล้ว ได้กรอกข้อความลงในเช็คดังกล่าว โดยระบุชื่อจำเลยที่ 1 (นายสมาน เอื้อสันเทียะ) เป็นผู้รับเช็ค จำนวน 1 ล้านบาท แล้วนำเช็คฉบับดังกล่าวไปเรียกเก็บเงินในชื่อของจำเลยที่ 1 และธนาคารออมสินได้จ่ายเงินตามเช็ค จำนวน 1 ล้านบาท ให้แก่จำเลยที่ 1 เรียบร้อยแล้ว จากนั้นจำเลยที่ 1 ได้นำเงินดังกล่าวฝากเข้าบัญชีของจำเลยที่ 2 โดยทุจริต
ดังนั้น การกระทำของจำเลยทั้ง 2 ข้างต้น เป็นการเอาไปเสียหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งเช็คอันเป็นเอกสารของโจทก์ทั้ง 8 ซึ่งธนาคารออมสินได้ออกให้เพื่อประโยชน์ในการเบิกถอนเงินของโจทก์ที่ 1 และเป็นการเบียดบังเอาเช็คพิพาทไปโดยทุจริต โดยโจทก์รู้เรื่องความผิดและทราบการกระทำของจำเลยทั้ง 2 ดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2565
นอกจากนี้ กองทุนหมู่บ้าน บ้านทำนบพัฒนา หมู่ที่ 17 ต.บัลลังก์ อ.โนนไทย กับพวก รวม 6 คน ได้ยื่นฟ้องนายสมาน และพวก ต่อศาลจังหวัดนครราชสีมา โดยกล่าวหาว่านายสมานและพวก เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่น, ยักยอกทรัพย์ โดยนำเช็คของโจทก์ที่ 1 ซึ่งโจทก์และจำเลยทั้ง 2 ตกลงกันว่าจะนำไปบริหารจัดการตามวัตถุประสงค์ของโจทก์ที่ 1 ในนามสถาบันการเงินตำบลบัลลังก์ ไปขึ้นเงินจากธนาคารออมสินในชื่อจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 1 ล้านบาท และจำเลยที่ 1 ได้นำเงินดังกล่าวไปฝากเข้าบัญชีจำเลยที่ 2 โดยทุจริต
ทั้งนี้ ศาลจังหวัดนครราชสีมานัดไต่สวนมูลฟ้องทั้ง 2 คดี ในวันที่ 29 ส.ค.2565 และวันที่ 5 ก.ย.2565 อย่างไรก็ดี เนื่องจากคดียังไม่มีการไต่สวนมูลฟ้อง ดังนั้น ผู้ถูกกล่าวหายังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ จนกว่าจะมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดจากศาล
สำนักข่าวอิศราโทรศัพท์ไปสอบถาม นายสมาน เอื้อสันเทียะ ประธานสถาบันการเงินชุมชนตำบลบัลลังก์ เกี่ยวกับความคืบหน้าการในแก้ปัญหาของสถาบันการเงินชุมชนตำบลบัลลังก์ โดยเฉพาะกรณีเงินขาดบัญชี ซึ่งนายสนามตอบเพียงสั้นๆว่า “เรื่องนี้กำลังตรวจสอบอยู่ และขอให้ฝ่ายบัญชีเป็นให้ข่าว” แล้ววางหูไป
อ่านประกอบ :
ร้องสอบ'นายกเทศมนตรี' ต.บัลลังก์ ปมลงขัน'สถาบันการเงินชุมชนฯ’-เจ้าตัวแจงไม่ได้ทำลำพัง