'ธรรมนัส'ยัน'เศรษฐกิจไทย'ยังอยู่ ย้ำชัดมีโลกใบใหม่ ไม่กลับ พปชร.เด็ดขาด

‘เศรษฐกิจไทย’ เตรียมประชุมเลือก กก.บห.ชุดใหม่ 7 มิ.ย. ‘ธรรมนัส’ ปัดพรรคแตก แค่ ‘บิ๊กน้อย’ ลาออกคนเดียว เผยใช้ระบบทหารปกครองนักการเมืองไม่ได้ ย้ำชัดมีโลกใบใหม่ ไม่กลับ พปชร.เด็ดขาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2565 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย กล่าวถึงสถานการณ์ของพรรคเศรษฐกิจไทย ภายหลัง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรค และ กรรมการบริหาพรรค 15 คนลาออกเพื่อนำไปสู่การปรับโครงสร้างพรรค ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 2-3 วันก่อน ตนไม่ได้อยู่ไทย ติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ แต่ทราบจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หลายคนโทรศัพท์มาหา ซึ่งตนบอกว่า ถ้ากลับมาแล้วจะหาเวลาคุยกับผู้ใหญ่พร้อมกับ พล.อ.วิชญ์ เพื่อหาทางออกให้ชัดเจน แต่เนื่องจากเกิดเหตุการณ์บานปลายไม่สามารถควบคุมได้ ส.ส.หลายคนไม่สบายใจจึงตัดสินใจลาออก ตนเองก็เคารพการตัดสินใจดังกล่าว

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้ได้เรียกประชุม ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยทั้ง 18 คน ก็กำหนดกันชัดเจนว่าจะมีการประชุมใหญ่วันที่ 7 มิ.ย.เพื่อหากรรมการบริหารพรรค หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิกพรรค รวมถึงนายทะเบียนพรรคใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า พร้อมเป็นหัวหน้าพรรคเองหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า “ผมขอกราบเรียนว่า แล้วแต่ท่านจะเห็นสมควร ผมพร้อมทำทุกหน้าที่ ไม่มีปัญหาอะไร”

“ผมพาพี่น้อง 18 ชีวิตออกมา ผมรับปากว่าผมจะดูแลพวกเขาทุกเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกลับมาเป็น ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ดังนั้น 18 ชีวิตที่ออกมา ฝากความหวังไว้กับผม ผมกราบเรียนสื่อมวลชนทุกครั้งที่มีการประชุมว่า กรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบันคือชุดเฉพาะกิจ ซึ่งผมจะมีการหารือว่าจะปรับเปลี่ยนกันอย่างไร รวมถึงตำแหน่งสำคัญภายในพรรค ที่ต้องทำให้มีจุดขายที่ชัดเจน จุดยืนที่เป็นความหวังของประชาชน ตามที่เราได้รับปากกับประชาชนไว้” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

เมื่อถามว่า พล.อ.วิชญ์ มีความไม่สบายใจเพราะไม่ได้รับความสำคัญภายในพรรค ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า มีหลายเรื่องที่ พล.อ.วิชญ์ อาจไม่คุ้นเคยกับการเมือง เพราะชีวิตอยู่แต่ในกรม ในกอง แต่สังคมการเมือง ไม่สามารถใช้ระบบทหารมาปกครองนักการเมืองได้ ตรงนี้เป็นสาระสำคัญมาก อาจจะทำให้ท่านไม่สบายใจ

"กราบเรียนว่า โครงสร้างพรรคเศรษฐกิจไทย ท่านหัวหน้าท่านลาออกไปท่านเดียว คณะกรรมการทุกท่านอยู่ที่เดิม ว่าที่ผู้สมัครทุกท่านอยู่ที่เดิม ดังนั้นไม่กระทบอะไรทั้งนั้น ผมเห็นสื่อหลายสำนักบอกว่า แตก เราไม่ได้แตก เรามากันเป็นโครงสร้างแบบแน่น มั่นคง เพียงแต่เชิญท่านมานั่งอยู่ข้างบน ถึงจุดยืนวันหนึ่งท่านไม่สบายใจ เราก็เคารพในการตัดสินใจของท่าน" ร.อ.ธรรมนัส

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐจะเชิญกลับมาอยู่ที่พรรค ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า "พปชร. มีโครงสร้างหมดแล้ว จะกลับไปจะไปทำอะไร หรือกลับไปจะไปทะเลาะกันเหมือนเดิม ผมออกมาแล้ว ผมมีโลกใบใหม่ของผมแล้ว ถ้ากลับไปยังเป็นสังคมเดิมๆ ผมไม่กลับอย่างเด็ดขาด"

ร.อ.ธรมนัส ยังกล่าวถึงจุดยืนของพรรคเศรษฐกิจไทยด้วยว่า เราจุดยืนชัดเจนว่าอยู่ข้างประชาชน ทุกเรื่องในสภาผู้แทนราษฎร เราจะยึดประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล จุดยืนเราเหมือนเดิมว่าจะพิจารณาเป็นรายประเด็นว่าบุคคลที่ถูกฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรา ส.ส. 18 คน ขณะนี้ทำหน้าที่ในสภา 16 คน มีทิศทางเดียวกันคือจะดูสาระสำคัญเป็นที่ตั้ง เรื่องไหนเกิดประโยชน์กับประชาชนเราจะไม่คัดค้าน แต่สิ่งไหนที่เป็นการทุจริตคอร์รัปชันทำให้ประเทศชาติเสียประโยชน์ เราจะไม่เห็นด้วยอย่างเด็ดขาด

เมื่อถามว่า ยังยืนเคียงข้างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า หากรัฐบาลทำสิ่งที่ถูกต้อง เราก็พร้อมสนับสนุนรัฐบาล แต่หากไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้สถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างนี้ที่พี่น้องประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า เรามีความจำเป็นต้องประกาศจุดยืนของพรรค

เมื่อถามถึงกระแสข่าวไปร่วมกับพรรคฝ่ายค้าน เพื่อล่มนายกรัฐมนตรีในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “ผมว่าสถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้บอบช้ำมากพอแล้ว การที่จะทำอะไรโดยไม่มีเหตุมีผล เอาแต่อารมณ์ตัวเองไม่ได้เด็ดขาด อนาคตประเทศชาติเป็นเรื่องสำคัญ หากฝ่ายค้านเห็นว่าไม่ถูกต้องและมีข้อมูลสนับสนุนข้อเท็จจริง เราจะคุยกัน แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลทุกเรื่อง

เมื่อถามถึงจุดยืนในการโหวตร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีพ.ศ. 2566 ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องมาดูว่าการจัดงบมีรายละเอียดอย่างไร เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนหรือไม่ ไม่ใช่ว่าล้มอย่างเดียว