‘สรรพากร’ เผยในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบ 65 เก็บภาษีได้ 8.53 แสนล้านบาท เกินเป้า 14% พร้อมเผยอยู่ระหว่างหารือ 139 ประเทศ เจรจามาตรการป้องกัน ‘บริษัทข้ามชาติ’ หลบเลี่ยงภาษี
..................................
เมื่อวันที่ 5 พ.ค. กรมสรรพากร เปิดเผยว่า จากการที่กรมสรรพากรได้ผลักดันแนวคิด ‘สรรพากรยั่งยืน’ โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลและการบริหารงานยุคใหม่มาประยุกต์ใช้ในการจัดเก็บภาษี เพื่อสร้างเสถียรภาพการคลังของไทยให้ยั่งยืน ส่งผลให้ในช่วง 6 เดือนแรก ของปีงบประมาณ 2565 (ต.ค.2564-มี.ค.2565) กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บภาษีได้ 852,505 ล้านบาท เกินเป้า 101,695 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14%
ขณะที่ในช่วง 6 เดือนแรก ของปีงบประมาณ 2565 (ต.ค.2564-มี.ค.2565) รายได้รัฐบาลสุทธิ (Net) อยู่ที่ 1,314,298 ล้านบาท เกินเป้า 83,977 ล้านบาท และหลังจากหักรายการจัดสรรต่างๆ รายได้สุทธิ (Net) อยู่ที่ 1,091,158 ล้านบาท
ที่มา : https://dataservices.mof.go.th/
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ในช่วงเกือบ 4 ปี ที่ผ่านมา กรมสรรพากรนำกลยุทธ์ Digital Transformation มาปรับเปลี่ยนกระบวนงานให้ทันสมัย และนำข้อมูลขนาดใหญ่มาวิเคราะห์ (Data Analytics) เพื่อวางกลยุทธ์จัดเก็บภาษี(Revenue Collection) รวมถึงนำนวัตกรรม (Innovation) และเทคนิคการบริหารงานยุคใหม่ อาทิDesign Thinking, Agile และ Hackathon มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ (Efficiency) ระบบงาน และพัฒนาบุคลากรให้มีคุณธรรม (Value) และมีความรู้เท่าทันโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
จากการวางรากฐานดังกล่าวตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ทำให้การดำเนินงานและการให้บริการประชาชนในช่วงวิกฤติโควิด-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนักและยังสามารถช่วยให้กรมฯ บรรลุเป้าหมายหลัก 3 ด้าน ได้แก่ จัดเก็บภาษีได้‘ตรงเป้า’ ออกนโยบายภาษีช่วยเหลือประชาชนได้ ‘ตรงกลุ่ม’ และบริการผู้เสียภาษีได้ ‘ตรงใจ’
นอกจากกรมสรรพากรจะนำดิจิทัลมาใช้ปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานแล้ว การสร้างฐานรายได้ใหม่ให้กับประเทศเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ที่ผ่านมากรมสรรพากรได้ออกกฎหมายจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการบริการอิเล็กทรอนิกส์จากแพลตฟอร์มต่างชาติ(VAT for Electronic Service: VES) ที่ให้บริการกับผู้ใช้บริการในประเทศไทย
โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 มีมูลค่าบริการ จากต่างชาติสูงถึง 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งกรมสรรพากรสามารถจัดเก็บรายได้ใหม่เข้าประเทศได้ถึงกว่า 4,200 ล้านบาทในช่วงเวลาเพียง 6 เดือน และยังเป็นการสร้างความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการไทย จากการที่ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างชาติต้องมาจดทะเบียนและเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเช่นเดียวกับผู้ประกอบการไทย
ทั้งนี้ การเก็บภาษี e–Service นี้ จะช่วยให้ประเทศไทยมีฐานข้อมูลรายได้ของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่างชาติ ที่จะสามารถนำไปใช้คำนวณเป็นฐานภาษีเงินได้อันจะเป็นฐานรายได้ใหม่ให้ประเทศไทยในอนาคต ขณะนี้กรมสรรพากรกำลังร่วมกับ 139 ประเทศทั่วโลก เจรจามาตรการป้องกันการหลบเลี่ยงภาษีระหว่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วย 2 เสาหลัก
ได้แก่ เสาที่ 1 (Pillar 1) มาตรการกำหนดให้บริษัทข้ามชาติต้องเสียภาษีเงินได้โดยปันส่วนกำไรมาให้กับประเทศผู้ใช้บริการถึงแม้จะไม่มีสถานประกอบการถาวร ในประเทศที่ให้บริการ และเสาที่ 2 (Pillar 2) มาตรการกำหนดให้บริษัทข้ามชาติที่หลบเลี่ยงภาษีโดยถ่ายโอนกำไรไปยังประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำ จะต้องถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นจนเสียอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำที่ 15%
ทั้งนี้ หากการเจรจาต่างๆนี้ สำเร็จลุล่วงได้ตามแผนในปี 2566 ไทยจะมีแหล่งรายได้ใหม่จากบริษัทข้ามชาติที่เคยหลบเลี่ยงภาษี
“การยกระดับศักยภาพของกรมสรรพากร ซึ่งเป็นฟันเฟืองหลักที่จัดเก็บรายได้ถึง 65% ของรายได้รัฐบาลทั้งหมด และการสร้างเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมาก การที่องค์กรแห่งนี้จะยั่งยืนได้ จะต้องมีกระบวนงานที่คล่องตัว (Agile) ต้องนำกระบวนการออกแบบนวัตกรรม (Design Thinking) มาแก้ไขข้อจำกัดต่างๆ ของภาครัฐ และสร้างบุคลากรให้มุ่งมั่นพร้อมที่จะเรียนรู้ (Growth Mindset)
จะเห็นได้ว่า ในช่วงสถานการณ์ของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นนั้น ประเทศต้องใช้งบประมาณจำนวนไม่น้อยในการสนับสนุนด้านสาธารณสุขของประเทศ เพื่อดูแลประชาชนในช่วงโควิด ดังนั้น แนวคิด ‘สรรพากรยั่งยืน’ นี้ จึงเป็นสิ่งจ าเป็นที่จะช่วยให้กรมสรรพากรบรรลุวิสัยทัศน์ การเป็นองค์กรชั้นนำที่จัดเก็บภาษีอย่างโปร่งใสเป็นธรรม ด้วยนวัตกรรมและบุคลากรคุณภาพ เพื่อสร้างเสถียรภาพการคลัง” นายเอกนิติ กล่าว
ทั้งนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ครม.มีมติอนุมัติโอนข้าราชการพลเรือนสามัญในสังกัดกระทรวงการคลังไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง เพื่อการสับเปลี่ยนหมุนเวียน โดยโอนนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิต และโอนนายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง
อ่านประกอบ :
สรรพากรยันไม่ได้มุ่งเก็บภาษีจากผู้ค้าโครงการคนละครึ่ง ชี้รายได้ถึงเกณฑ์ต้องยื่นแบบ
6 เดือน ปีงบ 65 ‘สรรพากร’ เก็บภาษี e-service จาก ‘แพลตฟอร์มต่างชาติ’ กว่า 4.2 พันล.