‘อนุทิน’กางโพย ส.ส.ขั้วรัฐบาล 260 เสียง เชียร์ ‘ประยุทธ์’ อยู่ครบเทอม ขณะที่ ‘ประภัตร’ เชื่อไม่มีใครอยากเลือกตั้งตอนนี้ ตอบปมถูกขอคืนเก้าอี้รัฐมนตรี พรรคชาติไทยพัฒนา ลั่นเราไม่ได้มาแบบเขาให้มา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ก.พ.2565 นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงเสถียรภาพพรรคร่วมรัฐบาล หลังเกิดปัญหาสภาล่มบ่อยครั้ง ว่า เรื่องสภาล่ม เรื่องนับประชุม เป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า ไม่มีใครอยากให้สภาล่ม แต่ฝ่ายค้านเองอาจจะอยากประลองกำลังจริง ๆ
"ส่วนเรื่องที่ถามกันมากว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีปัญหาอะไรกันหรือไม่นั้น ผมยืนยันว่าไม่มี เพราะไม่มีใครอยากจะให้ยุบสภา อันนี้ผมกล้าท้าได้ในฐานะผู้อาวุโสทางการเมือง เพราะการเลือกตั้งแต่ละครั้งนั้น มันยากและลำบาก และการแก้ไขปัญหาช่วงนี้ ยิ่งจะต้องช่วยกันแก้ ดังนั้น ถ้าคิดว่าจะมีการยุบสภา ไม่มีใครได้ประโยชน์เลย ชาวบ้านลำบากไปอีกอย่างน้อย 1 ปี กว่าจะมีการเลือกตั้ง กว่าจะมีรัฐบาล” นายประภัตร กล่าว
นายประภัตร กล่าวถึงการอภิปรายเป็นการทั่วไป ตามมาตรา 152 ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 17-18 ก.พ.นี้ว่า เป็นธรรมดาที่ฝ่ายค้านจำเป็นจะต้องรุกไล่ หาจุดอ่อนของรัฐบาล เพื่อจะผสมผสานกับเรื่องที่ทำให้เกิดการเลือกตั้ง ตนเชื่อว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านจะพูดนั้น นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคนเต็มใจที่จะตอบ เพราะเป็นโอกาสเดียวที่จะชี้แจงให้ประชาชนได้ทราบอย่างทั่วถึง ส่วนตัวคิดว่าดี ไม่ใช่เรื่องเสียหาย กรณีเรื่องที่ตนจะถูกอภิปรายเรื่องโรคลัมปี สกิน ที่เกิดขึ้นในโคกระบือ ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า มีการจ่ายเงินเยียวยาล่าช้า ก็จะชี้แจงให้เห็นว่า ขั้นตอนเป็นอย่างไร ติดขัดตรงไหน และดำเนินการแก้ไขไปอย่างไรแล้วบ้าง ขณะนี้เกิดปัญหาว่า บางจังหวัดได้ก่อน บางจังหวัดยังไม่ได้ ส.ส.ก็เป็นห่วง อยากให้ชาวบ้านได้รับการเยียวยา ทั้งนี้ยืนยันว่า กรมปศุสัตว์และตนคอยติดตามให้อยู่ตลอด แต่ด้วยขั้นตอนที่มีมาก จากชาวบ้านมายังกรมปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ไปยังกระทรวงการคลัง จากนั้นไปที่สำนักงบประมาณ กว่าจะกลับมาที่กระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ จึงกินเวลาหลายเดือน
เมื่อถามถึง ข้อพิพาทเรื่องโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวกับพรรคภูมิใจไทย จะส่งผลกระทบต่อเอกภาพรัฐบาลหรือไม่ นายประภัตร กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้กระทรวงมหาดไทยชี้แจงข้อสังเกตของกระทรวงคมนาคมแล้ว เชื่อว่าเริ่มมีความเข้าใจกันแล้ว
เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวของพรรคเศรษฐกิจไทยจะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ นายประภัตร กล่าวว่า เท่าที่ได้สัมผัสกับพรรคเศรษฐกิจไทย เขาบอกว่ายังยินดีสนับสนุนรัฐบาลอยู่ ไม่เห็นมีอะไร อย่างการนับองค์ประชุมคราวก่อนเขาก็สนับสนุนรัฐบาล
เมื่อถามว่า เสียงในสภาจะเป็นปัญหาให้กับรัฐบาลหรือไม่ นายประภัตร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีบอกแล้วว่า เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกัน ขอให้พูดคุยปรึกษาหารือกัน มีอะไรก็ช่วยกัน ดูแลซึ่งกันและกัน แต่ถ้าจะบอกว่าดูแล้วไม่ราบรื่นมันก็มีส่วน เพราะกระแสการเมืองนั้นเป็นเรื่องธรรมดา ที่ทุกคนต้องแสดงออกทางความคิดเห็น แต่ส่วนตัวแล้วไม่มีอะไรกัน ตนเชื่อว่าอยู่ได้
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าพรรคเศรษฐกิจไทยจะต่อรองขอเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคชาติไทยพัฒนา นายประภัตร กล่าวว่า ขณะนี้เราไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเรา แต่เรื่องการปรับ ครม.อยู่ที่นายกรัฐมนตรี และต้องย้อนกลับไปด้วยว่า เราไม่ได้มาแบบเขาให้มา เพราะตอนตั้งรัฐบาลเสียงมีไม่พอ ตอนนั้นพรรคชาติไทยพัฒนามี ส.ส. 10 กว่าคน นายกรัฐมนตรีเลยให้กำลังใจมา อีกทั้งเราทำงานไม่แพ้พรรคอื่น รัฐมนตรี 2 คนทำงานไม่หยุดเลย
เมื่อถามย้ำว่า หากเขาจะมาขอโควตาคืน จะทำอย่างไร นายประภัตร หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ก็ต้องมาคุยกัน แต่ตอนนี้คิดว่าทุกคนรู้แล้วว่าสถานการณ์ที่จะต้องช่วยกัน เรื่องที่จะมาขัดกัน ไม่มีใครอยากทำ บอกตรง ๆ เพราะอยู่กันปีที่ 3 แล้ว ถ้ามันแตก มันต้องไปนานแล้ว
‘อนุทิน’เชียร์ ‘ประยุทธ์’อยู่ครบเทอม กางโพยขั้วรัฐบาล 260 เสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งมีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแ ละ รมว.กลาโหม ได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย , นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข , นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม , นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ซึ่งเป็นการหารือเกี่ยวกับการแก้ปัญหาการทำงานของสภาผู้แทนราษฎร
โดยช่วงหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ เปรยว่า สถานการณ์ที่เป็นอยู่ นายกรัฐมนตรีมีทางเลือกไม่มา โดยนายอนุทิน กล่าวสวนขึ้นมาว่า “ท่านนายกรัฐมนตรี มีทางเลือกเดียวคืออยู่ครบเทอม และไม่ต้องห่วง จำนวน ส.ส.ในสภา หากมีการซักฟอก ฝ่ายค้านจะรวมเสียงได้ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง และเสียงสนับสนุนนายกรัฐมนตรีจะสามารถหาได้ไม่น้อยกว่า 260 เสียงอย่างแน่นอน”
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นายอนุทิน ได้นำกระดาษที่มีการจดจำนวน ส.ส.ของฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลที่พกติดตัวออกมาแสดงให้นายกรัฐมนตรีดูด้วยว่า จำนวน 260 เสียงมาจากส่วนใดบ้าง โดยไม่ได้นับรวมเสียงของพรรคเศรษฐกิจ ที่เพิ่งแยกตัวออกจากพรรคพลังประชารัฐ
(ที่มา : ไทยโพสต์)