ภูธรภาค 8 ประชุมหารือปมชาวแคนาดา ถูกยิงเสียชีวิตที่ จ. ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 ก.พ. เผยพบข้อมูลผู้ตายแคนนาดาใช้เครื่องบินส่วนตัวเข้าภูเก็ตจากมาเลเซียใช้พาสปอร์ตเป็นชื่อคนอื่น ล่าสุด ผบ.ตร.จ่อติดตามคดีด้วยตัวเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีเมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรฉลองได้รับแจ้งเหตุจากพนักงานทำความสะอาดของโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่าพบร่างของนายซิง แมนดิฟ อายุ 32 ปี สัญชาติแคนนาดา ถูก 2คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าวิลล่าซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังอาคารโรงแรม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง จึงได้เข้ามาตรวจสอบ เบื้องต้นพบถูกกระสุนยิงทั่วร่าง และยังพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 14 ปลอก และกระสุนขนาด.380 จำนวน 7 ปลอก ตกอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบมีการก่อเหตุเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.30 น.ของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 หลังจากผู้เสียชีวิตได้ขับรถมาจอดยังที่เกิดเหตุ จากนั้นได้มีผู้ก่อเหตุเป็นชาย 2 คน คาดว่า จะเป็นชาวต่างชาติออกมาจากพุ่มไม้บริเวณที่จอดรถริมหาดใกล้จุดเกิดเหตุ โดยในช่วงเย็นที่ผ่านมาทาง พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนทุกหน่วยเพื่อสรุปผลการทำงานในช่วงที่ผ่านเพื่อที่จะเร่งคลี่คลายคดีและจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565 นี้ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เปิดเผยก่อนการเข้าประชุม ว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้รองผู้บัญชาการและผู้การฯกองสืบ และผู้การฯภูเก็ต ได้ให้หน่วยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เป็นต้น ตรวจสอบข้อมูล อันแรก คือ ตรวจสอบว่า ผู้ตายเป็นใคร เนื่องจากเบื้องต้นพบว่า ผู้ตายไม่ได้ใช้พลาสปอร์ตที่เป็นชื่อของตัวเองแต่เป็นชื่อของคนอื่นใช้เดินทางเข้ามาจากประเทศมาเลเซียเมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา โดยใช้เครื่องบินส่วนตัว แต่มีข้อมูลว่าเขาได้มาเช่าวิลล่าหลังเกิดเหตุดังกล่าวตั้งแต่เดือนพศจิกายนที่ผ่านมา
ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุมีพยานที่ให้ข้อมูลว่าพบเห็นผู้มีลักษณะคล้ายกับผู้ก่อเหตุ และได้สอบปากคำไปแล้ว นอกจากนี้ยังได้แบ่งงานในการติดตามตรวจสอบกล้องวงจรปิด และตรวจคนเข้าเมือง ตลอดจนตรวจสอบสถานที่พักต่างๆ ว่า มีผู้ที่มีลักษณะคล้ายคนร้ายมาพักหรือไม่ และคนร้ายใช้รถอะไร ซึ่งทุกหน่วยจะต้องมาสรุปผลการปฎิบัติ เพื่อจะได้ทราบข้อมูลที่ชัดเจน ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนอินเดีย ชื่อ จิมมี่ แต่ใช้ชื่อคนอื่นในการเดินทาง นอกจากนี้ยังได้มีการติดต่อสถานทูตทั้งของประเทศแคนาดาและอินเดีย เพื่อประสานข้อมูลด้วยเพื่อจะดูว่าจะมีประเด็นอะไรบ้างตลอดจนตรวจสอบประวัติว่าเป็นอย่างไร มีการหนีคดีหรือเกี่ยวพันกับบุคคลใดบ้าง ทั้งนี้ในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ทางผบ.ตร.จะเดินทางมาติดตามคดีด้วยตนเอง