กรมอนามัยเผยผล 'อนามัยโพล' พบคนไทย 65% กลัวโควิดระบาด-ปริมาณฝุ่นสูง ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เน้นย้ำประชาชาชนปฏิบัติตามมาตรการ UP (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งลดการเผากระดาษเงิน กระดาษทอง ใช้ธูปสั้น เพื่อลดการเพิ่มปริมาณฝุ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค.2565 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การเฝ้าระวังโรคโควิดอย่างใกล้ชิด และปริมาณค่าฝุ่น PM2.5 ที่คาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) ในช่วงวันที่ 25 - 26 ม.ค. 2565 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และภาคกลาง ประชาชนจึงต้องเฝ้าระวังและป้องกันสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากข้อมูลการสำรวจอนามัยโพล วันที่ 15-21 ม.ค. 2565 พบว่า คนไทย 65% ยังมีความกังวลหากมีการระบาดของโรคโควิด และปริมาณค่าฝุ่น PM 2.5 สูง
โดยเรื่องที่กังวลมากที่สุดคือ กลัวติดเชื้อจากการไปจับจ่ายซื้อของวันไหว้ในตลาด ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาเก็ต 51.8% รองลงมาคือ กลัวการติดเชื้อจากการรวมญาติที่บ้าน หรือสถานที่พักอาศัย 42% และ ห่วงผู้สูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง อาจติดเชื้อได้ง่าย มีอาการรุนแรง 41.2%
ขณะที่ 35% ไม่รู้สึกกังวล เนื่องจากมีการป้องกันตนเองอย่างดีแล้ว 71.9% รู้สึกชินกับสถานการณ์ 33.3% และได้รับวัคซีนครบแล้วตามเกณฑ์ 29.7%
นอกจากนี้ ผลสำรวจอนามัยโพลยังพบว่า หากมีการระบาดของโรคโควิด และสถานการณ์ปัญหาฝุ่น PM2.5 ประชาชน 85.3% จะป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากป้องกันเมื่อไปที่สาธารณะ 72.5% ล้างมือบ่อย ๆ และ 64.3% ติดตามสถานการณ์ฝุ่น และการระบาดของโรคเป็นระยะ ๆ
"ทั้งนี้ ประชาชนที่มีกิจกรรมช่วงวันตรุษจีน เช่น จับจ่ายซื้อของในวันไหว้ ทั้งในตลาด ห้างสรรพสินค้า หรือซูเปอร์มาเก็ต หรือมีการรวมญาติไหว้บรรพบุรุษ รวมถึงการกินอาหารร่วมกันภายในครอบครัว ขอให้ปฏิบัติตามหลัก UP (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดและการแพร่ของโรคโควิด โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคประจำตัว ควรให้ความระมัดระวัง และดูแลเป็นพิเศษ พร้อมทั้งให้ร่วมกันลดปริมาณการเกิดฝุ่น PM2.5 โดยไม่เผากระดาษเงิน กระดาษทอง ไม่เผาขยะ ใช้ธูปสั้น หรือเปลี่ยนไปใช้ธูปไฟฟ้าแทน” นพ.สุวรรณชัย กล่าว