'หมอธีระ'ยกงานวิจัยจากแอฟริกาใต้ ชี้โควิดสายพันธุ์โอไมครอน หนีภูมิคุ้มกันจากวัคซีนไฟเซอร์ 41 เท่า แต่ในกลุ่มคนเคยป่วยโควิดแล้วได้รับวัคซีนไฟเซอร์ ยังจัดการเชื้อกลายพันธุ์ใหม่นี้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2564 นพ. นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า ทะลุ 267 ล้านไปแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 551,538 คน ตายเพิ่ม 6,905 คน รวมแล้วติดไปรวม 267,284,709 คน เสียชีวิตรวม 5,285,221 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ อเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมัน สหราชอาณาจักร และรัสเซีย
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็น 92.69% ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 93.55%
ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นมากถึง 61.6% ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็น 59.71% เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 13 ใน 20 อันดับแรกของโลก
สำหรับสถานการณ์ไทยเรา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 3,525 คน สูงเป็นอันดับ 28 ของโลก หากรวม ATK อีก 752 คน ก็ขยับเป็นอันดับ 27 ของโลก ยอดรวม ATK จะเป็นอันดับ 8 ของเอเชีย
ขณะที่อัปเดตโควิดสายพันธุ์โอไมครอน กับเรื่องภูมิคุ้มกันจากวัคซีน ล่าสุด Alex Sigal จาก African Health Research Institute ประเทศแอฟริกาใต้ และคณะวิจัยได้เผยแพร่ผลงานวิจัยเบื้องต้น แต่มีความสำคัญมาก
สรุปสาระได้ดังนี้
-
โอไมครอนอาศัยตัวรับ ACE2 ในการติดเชื้อเข้าสู่เซลล์ปอดของมนุษย์ เฉกเช่นเดียวกับสายพันธุ์อื่นๆ ก่อนหน้านี้
-
ในการศึกษาเรื่องผลของภูมิคุ้มกันจากวัคซีนพบว่า Omicron โดยเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ G นั้น พบว่าภูมิคุ้มกันจากวัคซีนไฟเซอร์ (BNT162b2) จะจัดการเชื้อโอไมครอนได้ลดลง 41 เท่า
อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มคนที่เคยมีประวัติติดเชื้อโควิดมาก่อน แล้วได้รับวัคซีน BNT162b2 ไป จะยังคงจัดการเชื้อได้
นี่เป็นงานวิจัยชิ้นแรกที่ได้รับการเผยแพร่ออกมา และคาดว่าจะมีงานวิจัยอื่นๆ ทยอยออกตามมาในไม่ช้า เพื่อให้เราเข้าใจโอไมครอนได้ลึกซึ้งขึ้น มองผลการศึกษาดังกล่าว เน้นย้ำให้เราทราบว่า มีแนวโน้มสูงที่โอไมครอนจะดื้อต่อภูมิคุ้มกันจากวัคซีน แต่จะมากจะน้อย คงต้องรองานวิจัยอื่นๆ จากทั่วโลกด้วยว่าออกมาสอดคล้องกันหรือไม่ เพราะวัคซีนไฟเซอร์ ถือเป็นวัคซีนชนิด mRNA ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง กระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันได้สูงกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ การลดลงของประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันนั้นหากเป็นจริงก็ยิ่งชี้ให้เห็นความจำเป็นของการฉีดเข็มกระตุ้น
นอกจากนี้ ด้วยความรู้ปัจจุบันโอไมครอนนั้นเป็นสายพันธุ์ที่สามารถติดเชื้อในคนที่เคยติดเชื้อมาก่อน โดยพบการติดเชื้อซ้ำ (reinfection) ได้มากกว่าสายพันธุ์อื่น 2.4 เท่า บ่งชี้ว่าภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อตามธรรมชาตินั้นน่าจะไม่พอที่จะป้องกัน แต่งานวิจัยของ Sigal นี้ชี้ให้เห็นว่าภูมิคุ้มกันในคนที่ติดเชื้อมาก่อนแล้วได้รับวัคซีนไป จะยังสามารถจัดการเชื้อโอไมครอนได้ ดังนั้นจึงมีความสำคัญยิ่งที่เราต้องเน้นย้ำให้คนที่เคยติดเชื้อโควิดไปรับวัคซีนด้วย โดยไทยเราตอนนี้มีคนติดเชื้อไปกว่า 2 ล้านคน
ภาพรวมโอไมครอนแพร่ง่ายขึ้นชัดเจน มีแนวโน้มดื้อต่อภูมิคุ้มกันจากวัคซีนมากกว่าสายพันธุ์ G 41 เท่า การติดเชื้อดูเหมือนจะมีอาการป่วยรุนแรงน้อยลงกว่าเดิม แต่พอมีคนติดจำนวนมากก็กระทบต่อระบบสาธารณสุขของประเทศนั้นๆ อย่างมากทีเดียว ส่วนเรื่องการเสียชีวิตนั้นน่าจะประเมินกันได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ถัดจากนี้ แต่เรื่องภาวะอาการคงค้างหรือ Long COVID จากโอไมครอนนั้นยังไม่มีข้อมูล เพราะต้องติดตามระยะยาว
ขอให้ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่างจากคนอื่นเกินหนึ่งเมตร ระวังเรื่องการระบาดเป็นกลุ่มก้อนใหญ่จากการปาร์ตี้สังสรรค์ตามสถานที่ต่างๆ ด้วยรักและห่วงใย
อ้างอิง :