องค์การเภสัชกรรมส่งจดหมายเปิดผนึกถึง 'พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง' ยันไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายวัคซีนซิโนแวค เผยจัดซื้อตามความต้องการกรมควบคุมโรค สอดคล้องกับมติ ครม. นำเข้าและขึ้นทะเบียน เพื่อกระจายให้หน่วยบริการ-เร่งฉีดให้ประชาชนฟรี
------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2564 องค์การเภสัชกรรมส่งจดหมายเปิดผนึก แถลงการณ์กรณีการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค โดยระบุว่า ตามที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบ (สส.) บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ได้กล่าวอภิปรายในสภาฯ รวมถึงได้โพสต์เฟซบุ๊ก ในประเด็น องค์การเภสัชกรรม เป็นผู้แทนการขายให้บริษัทผู้ผลิตวัคซีนซิโนแวค น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายและจริยธรรมองค์การเภสัชกรรม และความตอนหนึ่งว่าการที่รัฐบาลยอมให้องค์การเภสัชกรรม เป็นตัวแทนของบริษัทยาเอกชนจากประเทศจีน ให้บริการวัคซีนที่มีคุณภาพด้อยที่สุดเมื่อเทียบกับวัคยีนอื่น จึงไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมายและจริยธรรม ทั้งนี้เพราะองค์การเภสัชกรรมเป็นรัฐวิสาหกิจ ตาม พ.ร.บ.องค์การเภสัชกรรม พ.ศ. 2509 มีวัตถุประสงค์ผลิตยาและเวซภัณฑ์ที่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของรัฐและประชาชน มาตรา 31 หน้าที่หลัก คือ การเตรียมความพร้อมทางต้านเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ในการช่วยเหลือประชาชนให้เข้าถึงยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ ในราคาที่เป็นธรรมโดยไม่ได้มุ่งเน้นแสวงหากำไรใดๆเพื่อช่วยเหลือประชาชนในยามเกิดวิกฤติและฉุกเฉิน เงินที่นำไปซื้อวัคนเป็นภาษีประชาชนต้องนำไปซื้อสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ให้ประชาชนมีความคุ้มค่ มีการใช้จ่ายอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ
องค์การเภสัชกรรมขอเรียนขี้แจงว่า องค์การเภสัชกรรมไม่ได้เป็นตัวแทนของบริษัทยาเอกชนจากประเทศจีน ตามที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ได้กล่าวไว้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
องค์การเภสัชกรรมดำเนินการจัดหาวัคซีนซิโนแวค ตามที่กรมควบคุมโรค แจ้งความต้องการมา และเป็นไปตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบกรอบและวงเงินในการจัดหาตามที่กระทรวงสาธารณสุขนำเสนอ ซึ่งวัคซีนซิโนแวคเป็นหนึ่งในห้าชนิดของวัคนป้องกันโรคโควิต-19 ที่ภาครัฐมีนโยบายในการจัดหาและนำเข้ามาฉีดให้กับประชาชนฟรีและเมื่อย้อนไปดูมติ ครม.เมื่อวันที่ 5 ม.ค.2564 ได้เห็นชอบให้มีการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพิ่มเติม เพื่อให้ครอบคลุมประชากรไทยในปี 2564 โดยมีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนหลัก และให้มีการจัดหาวัคชีนจากแหล่งอื่นเพิ่มเติม โดยกระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาความเร่งต่วนเพื่อให้ได้มีวัคซีนมาฉีดในช่วงต้นปี 2564 จึงได้เจรจาซื้อวัคซีนซิโนแวคกับบริษัท Sinovac Life Sciences Co.Ltd. People's Republic of China ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดเดียวที่สามารถส่งให้ประเทศไทยอย่างเร่งด่วนได้ ภายในช่วงต้นปี 2564 จำนวน 2 ล้านโดส
องค์การเภสัชกรรมได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุขให้เป็นตัวแทนภาครัฐ ในการเป็นผู้นำเข้าและยื่นขึ้นทะเบียนวัคนซิโนแวค จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยได้รับอนุมัติทะเบียนให้ใช้ในประเทศไทยได้ในภาวะฉุกเฉิน (Emergency use) เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2564 ซึ่งวัคซีนชิโนแวคทั้งหมดที่องค์การฯนำเข้า ได้ส่งให้กรมควบคุมโรคจัดสรร และกระจายให้หน่วยบริการต่างๆ ฉีดฟรีให้กับประชาชน โดยองค์การฯ ไม่ได้จำหน่ายโดยทั่วไป และไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่อย่างใด เนื่องจากนำเข้าวัคซีนในช่วงเวลานี้ เป็นการนำเข้าเพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน ไม่ได้นำเข้าเพื่อการพาณิชย์ องค์การฯจึงไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายวัคซีนชิโนแวคล็อตแรกนำเข้ามาเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2564 และนำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นไปตาม แผนการควบคุมและป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข นับถึงวันที่ 24 ส.ค. 2564 ได้มีการนำเข้าวัคซีนซิโนแวคแล้ว จำนวน 19.5 ล้านโดส และเมื่อรวมที่ประเทศจีนบริจาคให้อีกจำนวน 1 ล้านโดส รวมเป็นทั้งสิ้น 20.5 ล้านโดส
องค์การเภสัชกรรม เป็นรัฐวิสาหกิจ มีหน้าที่ตามพระราชบัญญัติองค์การเภสัชกรรม พ.ศ. 2509 คือ ผลิตยาและเวชภัณฑ์ ส่งเสริมให้มีการศึกษาและวิจัย การผลิต การวิเคราะห์ ยาและเวชภัณ วัตถุดิบ ดำเนินการซื้อ ขายแลกเปลี่ยนและให้ซึ่งยาและเวชภัณฑ์ ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตยาและเวชภัณฑ์ นอกจากนั้นองค์การเภสัชกรรมดำเนินงานภายใต้ วิสัยทัศน์ "เป็นองค์กรหลักเพื่อความมั่นคงทางยาและเวชภัณฑ์ของประเทศที่มีนวัตกรรมที่สร้างคุณค่าและยั่งยืน" และได้ปฏิบัติภารกิจให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ เน้นย้ำในการทำหน้าที่เชิงสังคมให้มากยิ่งขึ้นในเรื่องผลิต จำหน่ายและบริการยาและเวชภัณฑ์ ที่มีคุณภาพมาตรฐานสากลผลิตยาที่จำเป็นและสำรองยาในยามฉุกเฉิน เพื่อความมั่นคงของชาติรวมถึงยาที่มีความจำเป็นต่อระบบสาธารณสุขของประเทศ ดำเนินธุรกิจให้มีศักยภาพในการแข่งขันในอาเชียนและสามารถพึ่งตนเองได้และมีธรรมาภิบาล รักษาระดับราคายาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นต่อสังคมไทยเพื่อประชาชนสามารถเข้าถึงได้ ตลอดจนสร้างนวัตกรรมทางยาและเวชภัณฑ์ใหม่ๆรวมถึงผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อตอบสนองความต้องการ และความจำเป็นต่อสังคมไทย
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage