'หมอมนูญ' เปิดข้อมูลจากนักระบาดวิทยา ชี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดสะสมทั่วโลกน้อยกว่าความเป็นจริง 10 เท่า เหตุยังมีคนจำนวนมากไม่ได้รับการตรวจหาเชื้อ ทั้งที่มีอาการและไม่มีอาการ ย้ำเร่งฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยง ตามด้วยกลุ่มประชาชนทั่วไป ลดอาการป่วยหนักและเสียชีวิต แล้วโรคนี้จะเป็นเหมือนไข้หวัดใหญ่
.......................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2564 พ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดสะสมที่รายงานทั้งโลกน้อยกว่าความเป็นจริง 10 เท่า นักวิทยาศาสตร์ด้านระบาดวิทยาให้ความเห็นว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดที่รายงานเหมือนกับยอดภูเขาน้ำแข็ง เพราะมีคนจำนวนมากที่ไม่ได้รับการตรวจถึงแม้จะมีอาการ และมีคนอีกมากมายที่ไม่มีอาการ ไม่ได้รับการตรวจ จำนวนนี้อยู่ใต้น้ำมองไม่เห็น มากกว่ายอดจำนวนผู้ติดเชื้อภูเขาน้ำแข็งที่เรามองเห็น ขณะนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมทั้งโลกยืนยันแล้ว 215 ล้านคน แท้จริงแล้วอาจจะมีผู้ติดเชื้อมากถึง 2,150 ล้านคน หรือประมาณหนึ่งในสี่ของประชากรโลก การระบาดของโควิดยังคงดำเนินต่อไป
มีหน่วยงาน 4 แห่งที่ทำแบบจำลอง คำนวณหาตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด ายวันที่แท้จริงของแต่ละประเทศ อย่างในประเทศสหรัฐอเมริกา หลายหน่วยงานเห็นพ้องต้องกันว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่แท้จริงของสหรัฐฯน่าจะสูงกว่าตัวเลขที่รายงานประมาณ 4 เท่า จากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่รายงาน 39 ล้านคน ตัวเลขที่แท้จริงน่าจะเป็น 156 ล้านคนซึ่งก็ยังน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ มีการทำกราฟตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯรายวันที่คำนวณสูงกว่าที่รายงานทุกวันประมาณ 4 เท่า
สำหรับประเทศไทยก็เช่นกัน บางวันที่มีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดสะสม 2 หมื่นราย ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันที่คำนวณ ดูในกราฟสูงถึง 1.2 แสนราย หรือมากกว่า จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมยืนยันขณะนี้ 1.13 ล้านคน เป็นไปได้ที่ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อจริงอาจสูงถึง 9 ล้านคน คิดเป็น 13% ของประชากรไทย
คนไทยไม่ต้องตกอกตกใจเมื่อเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงถึง 9 ล้านคน ควรจะดีใจด้วยซ้ำที่มีผู้ติดเชื้อโควิดไปแล้วตั้ง 9 ล้านคน โดยที่คนเกือบ 8 ล้านคนที่ติดเชื้อ ไม่มีอาการหรืออาการน้อย คนที่ติดเชื้อหายแล้วจะไม่รับเชื้อสายพันธุ์ที่กำลังระบาดขณะนี้ และจะไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่นอีก นอกจากนี้แล้วยังทำให้คนไม่ต้องหวาดกลัวกับโควิดมากเกินไป เพราะโรคนี้อัตราตายหรือสัดส่วนการเสียชีวิตต่อผู้ติดเชื้อจะลดลงถึง 8 เท่า แทนที่อัตราตายจะเป็นคนเสียชีวิต 10,587 ราย หารด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อ 1.13 ล้านคน หรือ 0.9% จะเปลี่ยนเป็น 10,587 ราย หารด้วย 9.0 ล้านคน หรือ 0.12%
เราคงต้องอยู่กับโรคโควิด ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ถ้าคนไทยกลุ่มเสี่ยงคือคนสูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัว 7 โรค และหญิงตั้งครรภ์ได้รับวัคซีนให้เร็วที่สุดทุกคน และตามมาด้วยคนทั่วไป เมื่อติดเชื้อหลังฉีดวัคซีนจะป่วยไม่รุนแรงถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิต โรคนี้ก็จะเป็นเหมือนไข้หวัดใหญ่ เราต้องเรียนรู้อยู่กับมัน ไม่ต้องกลัวโควิด อยู่อย่างมีสติ ป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือ ปีหน้าคงมียาต้านโควิด ตัวใหม่ให้ทุกคนได้ใช้ และวิถีชีวิตก็คงจะกลับมาใกล้เคียงกับภาวะปกติมากที่สุด
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage