คกก.โรคติดต่อฯ สมุทรสาคร เห็นชอบวาง 3 มาตรการ เผยหากภายใน 1 สัปดาห์ ยอดติดเชื้อยังไม่ลดลง เตรียมทบทวนแนวคิดปิดเมือง – โรงงาน
.........................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2564 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาคร ณ ห้องประชุมพันท้ายนรสิงห์ ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งการประชุมในครั้งนี้กล่าวถึงปัญหาที่สำคัญคือ เรื่องของการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด ที่พบว่าตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเพิ่มขึ้นต่อวันอย่างรวดเร็วและก้าวกระโดด ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดในการควบคุมโรค คือ การหยุดความเคลื่อนไหว หรือเคลื่อนไหวให้น้อยที่สุดเป็นเวลา 14 วัน และการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลที่จะต้องบังคับใช้อย่างเข้มข้นสูงสุด
นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า จากการประชุมในวันนี้ได้มีข้อสรุปออกมา 3 เรื่องที่สำคัญๆ เกี่ยวกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด ประกอบไปด้วย เรื่องของตลาดนัด, ปิดเมือง และการดำเนินการกับโรงงาน โดยในส่วนของตลาดนัดนั้น มีการถกเถียงกันค่อนข้างเยอะ แต่สรุปได้ว่า ให้เปิดขายได้เฉพาะอาหาร หรือเครื่องบริโภค และเครื่องอุปโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชนเท่านั้น ซึ่งถ้าตลาดไหนไม่มีมาตรการเข้มงวดต่อการคัดกรองบุคคลหรือการสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตนเอง หากพบก็จะต้องถูกดำเนินการพิจารณาสั่งปิดโดยเด็ดขาด
"ขณะที่ประเด็นการปิดเมือง และการสั่งปิดการประกอบกิจการทั้งหมดนั้น เป็นแนวความคิดที่มีการพูดในที่ประชุม แต่ยังไม่มีมติออกมาที่ชัดเจน เนื่องจากจะเกิดผลกระทบกับหลายฝ่าย แต่ทว่านับจากนี้ภายใน 1 สัปดาห์ ต้องดูกันว่าตัวเลขหรือทิศทางจะเป็นไปในทางที่ดีขึ้นหรือไม่ จึงอยากให้ทุกคนในจังหวัดสมุทรสาคร ช่วยกันปฏิบัติตนตามมาตรการบังคับอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเรื่องของการเคลื่อนไหวที่น้อยลง ซึ่งถ้าตัวเลขยังคงสูงขึ้นและทุกคนยังคงใช้ชีวิตกันตามปกติเห็นว่าตนเองสำคัญไม่ร่วมมือกันในการปฏิบัติตามมาตรการเพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิดแล้วนั้น จะต้องนำไปสู่การพิจารณาปิดเมืองต่อไปในการประชุมครั้งหน้า" นายวีระศักดิ์ กล่าว
สุดท้ายคือ เรื่องโรงงานอุตสาหกรรม ที่ทางจังหวัดพยายามส่งเสริมในการดำเนินการเป็นสถานประกอบการที่ดีมี FAI หรือ FQ หรือสถานที่กักตัวพนักงานของสถานประกอบการนั้นๆ นำไปสู่การบังคับโดยปริยายเลยว่า นับแต่วันนี้เป็นต้นไปภายใน 1 สัปดาห์ สถานประกอบการที่มีคนงานตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป จะต้องทำสถานที่กักตัวเตรียมไว้รองรับผู้ติดเชื้อไม่ต่ำกว่า 10% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด หรือต้องให้เพียงพอต่อการรองรับการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ภายในสถานประกอบการนั้น ซึ่งสถานที่กักตัวนี้จะทำภายในหรือภายนอกโรงงานก็ได้ โดยให้เวลา 1 สัปดาห์นับจากนี้ จะต้องแล้วเสร็จ หากสถานประกอบการใดไม่ดำเนินการจะต้องถูกสั่งปิดทันที หรือสถานประกอบการใดดำเนินการแล้ว แต่ไม่มีมาตรการควบคุมที่เข้มข้นก็จะต้องถูกสั่งปิดเช่นเดียวกัน
ส่วนเหตุผลที่ยังไม่สั่งปิดโรงงาน ทั้งๆ ที่คนในโรงงานมีการติดเชื้อเป็นจำนวนมากนั้น เนื่องจากเห็นแก่ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะตามมา จึงได้ให้เวลา 1 สัปดาห์แก่สถานประกอบการโรงงานต่างๆ ให้ได้จัดทำ FAI หรือ FQ ให้แล้วเสร็จ
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ติดเชื้อวันนี้ที่พบมากกว่า 1,000 รายนั้น นายวีระศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองอยากจะบอกว่า โควิดนั้นอยู่ใกล้ตัวมากขึ้นทุกที โดยอย่างเมื่อคืนที่ผ่านมาทางลูกสาวได้โทรศัพท์มาบอกว่า 'เป็นห่วงพ่อ อย่าเป็นผู้ติดเชื้อโควิดอีก หนูดูไม่ไหว' ซึ่งผู้ว่าฯ ก็อยากจะบอกจังเลยว่า 'พ่อก็ไม่อยากเป็นหรอก แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร' ซึ่งในภาวะอย่างนี้ต้องให้ทุกคนช่วยเหลือกัน และดูแลตนเองให้ดีมากที่สุดเลย ส่วนวัคซีนนั้นจะเป็นคำตอบสุดท้ายของประชาชน ที่ประชุมได้มีการหารือถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
สำหรับความพร้อมของศูนย์พักคอยคนสาคร หรือโรงพยาบาลสนามในชุมชน Community Isolation วันนี้ต้องยอมรับว่าดีขึ้น จะดีขึ้นแค่ไหนต้องติดตามโดยใกล้ชิด แต่ดีขึ้นจากเมื่อวาน ซึ่งขณะที่นายวีระศักดิ์ตอบคำถามเรื่องความพร้อมของศูนย์พักคอยฯนี้ มีหยดน้ำตาไหลลงมาจากหางตา ก่อนที่จะกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนยังคงมีขวัญกำลังใจที่ดี เนื่องจากต่างคนต่างเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage