เปิดชัดๆ หนังสือ สถ.แจ้งผลสอบ สตง. คุมเข้ม อปท.ผลาญงบเสาไฟประติมากรรม ปี 61

picbookjjsasasasakkksssasaas6 216 21 64

"...องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรเลือกพิจารณาเลือกรูปแบบของเสาไฟฟ้าแสงสว่างที่จะนำมาติดตั้งบนถนนให้เหมาะสมกับสภาพภูมิทัศน์ของท้องถิ่น และคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นสำคัญ สำหรับการติดตั้งเสาไฟฟ้าประติมากรรมเพื่อความสวยงามหรือเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมของจุดติดตั้งตามการใช้ประโยชน์ในสวนสาธารณะหรือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ และควรคำนึงถึงความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจด้วยเนื่องจากการติดตั้งเสาไฟฟ้าประติมากรรมมีราคาสูงมากเมื่อเทียบกับราคาเสาไฟฟ้าแบบปกติ..."

.................................

ประเด็นตรวจสอบโครงการจัดซื้อเสาไฟฟ้าแสงสว่าง พร้อมรูปประติมากรรม ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ ที่กำลังอยู่ในความสนใจของสาธารณชนในขณะนี้

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการยืนยันข้อเท็จจริงจาก นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไปแล้วว่า

1. สตง.เริ่มตรวจสอบและพบข้อสังเกตรวมถึงปัญหาการดำเนินงานโครงการเสาไฟฟ้าสาธารณะประติมากรรมลักษณะนี้ มาตั้งแต่ ช่วงปี 2555 ในการดำเนินงานโครงการติดตั้งเสาไฟฟ้าสาธารณะประติมากรรมรูปสิงห์พร้อมอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แห่งหนึ่งในจังหวัดสิงห์บุรี ที่ใช้งบประมาณ กว่า 722,595 บาท จัดทำเสาไฟฟ้ารูปสิงห์ จำนวน 13 ต้น เฉลี่ยต้นละประมาณ 5.5 หมื่นบาทต่อต้นซึ่งสูงกว่าเสาไฟฟ้าทั่วไปประมาณต้นละ 1.5 หมื่นบาท นอกจากนั้นยังพบว่าใช้งานได้เพียงบางส่วนเท่านั้น

2. สตง. ได้ทำหนังสือแจ้งกระทรวงมหาดไทยว่า โครงการติดตั้งเสาไฟฟ้ารูปประติมากรรม กำลังได้รับความสนใจจาก อปท.หลายพื้นที่ทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นกระทรวงมหาดไทย ควรจะต้องกำชับท้องถิ่นให้กำกับดูแลเรื่องการใช้จ่ายเงินให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าและสามารถสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง

3. ต่อมาในปี 2560 สตง.ได้ตรวจสอบโครงการจัดซื้อเสาไฟฟ้าแสงสว่าง พร้อมประติมากรรมรูปกินรี ในส่วนของ อบต.ราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พบว่ามีประเด็นข้อสังเกตหลายประการ เช่น ราคาเสาไฟฟ้าที่จัดซื้อมีราคาสูง การกำหนดราคากลางไม่ถูกต้อง การติดตั้งไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง ปัญหาเรื่องการชำรุด ขาดการดูแล บำรุงรักษา ประกอบกับผลการตรวจสอบในพื้นที่อื่น ๆ มีลักษณะเช่นเดียวกัน สตง.จึงวิเคราะห์ในภาพรวม และได้มีหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบพร้อมข้อเสนอแนะไปยังอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และสำเนาหนังสือส่งปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560 ใน 3 ประเด็นหลัก คือ 1. เรื่องราคาที่สูงมาก รูปแบบความเหมาะสมของพื้นที่ที่จะติดตั้งกับภูมิทัศน์ของท้องถิ่น 2. การติดตั้งเสาไฟฟ้าประติมากรรมไม่เป็นไปตามมาตราฐานไฟฟ้าสาธารณะที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด เช่น การติดตั้งมีความถี่มากกว่าที่กำหนด 3. การชำรุดเสียหาย ไม่สามารถใช้งานได้ ขาดการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง

4. จากนั้นเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2561 กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) ได้มีหนังสือแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้แจ้งกำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ สตง. หากจะดำเนินโครงการติดตั้งเสาไฟฟ้าประติมากรรมเป็นแนวทางปฏิบัติในการดำเนินงานโครงการฯ

(อ่านรายละเอียดประกอบ : เปิดตัว อบต.บางมัญ เจ้าแรกปี 55 โดน สตง. สอบผลาญงบทำเสาไฟรูปสิงห์แพงต้นละ 5.5 หมื่น,ซื้อแพง-ชำรุดไม่ซ่อม! สตง.สรุปผล‘เสาไฟกินรี’อบต.ราชาเทวะชง ป.ป.ช.-ปปง.สอบตั้งแต่ปี61, (คลิป) เจาะปฏิบัติการ สตง.ลั่นกลองรบ ปราบเสาไฟแพงเวอร์ อปท.ทั่วปท. ตอนที่ 1 ) , (คลิป) เจาะปฏิบัติการ สตง.ปราบเสาไฟแพงเวอร์ (2) ข้อพิรุธ อบต.ราชาเทวะ ระดมซื้อ 907 ล.)

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบหนังสือ สถ. ฉบับลงวันที่ 4 กันยายน 2561 ที่แจ้งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ดังกล่าวเป็นทางการแล้ว

โดย สถ. ได้ขอให้จังหวัดแจ้งกำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ สตง. ใน 3 ประเด็นหลัก คือ

1. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรเลือกพิจารณาเลือกรูปแบบของเสาไฟฟ้าแสงสว่างที่จะนำมาติดตั้งบนถนนให้เหมาะสมกับสภาพภูมิทัศน์ของท้องถิ่น และคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นสำคัญ สำหรับการติดตั้งเสาไฟฟ้าประติมากรรมเพื่อความสวยงามหรือเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมของจุดติดตั้งตามการใช้ประโยชน์ในสวนสาธารณะหรือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ และควรคำนึงถึงความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจด้วยเนื่องจากการติดตั้งเสาไฟฟ้าประติมากรรมมีราคาสูงมากเมื่อเทียบกับราคาเสาไฟฟ้าแบบปกติ

2. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรดำเนินการติดตั้งเสาไฟฟ้าแสงสว่างบนถนนให้เป็นไปตามมาตรฐานไฟฟ้าสาธารณะของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และมาตรฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยมุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยในการสัญจรของผู้ใช้ถนนในเวลากลางคืนเป็นหลัก มีรูปแบบการติดตั้งเสาไฟฟ้าสาธารณะตามแนวถนน ทางแยก วงเวียนเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และการออกแบบระยะการติดตั้งเสาไฟฟ้าต้องมีการคำนวณระยะห่างของเสาไฟฟ้าตามสูตรที่กำหนดไว้ในมาตรฐาน เพื่อให้ได้ระยะห่างของเสาไฟฟ้าที่ให้ค่าความส่องสว่างที่เหมาะสมไม่สูงเกินไปกว่าความจำเป็นในการใช้งานในพื้นที่ และมีทิศทางการส่องสว่างของแสงจากไฟส่องสว่างสาธารณะที่เหมาะสม ไม่รุกล้ำไปยังพื้นที่ส่วนบุคคลซึ่งอาจกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณริมถนน

3. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรจัดให้มีการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าแสงสว่างบนถนนตามมาตรฐานไฟฟ้าสาธารณะของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และมาตรฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานไฟฟ้าแสงสว่างบนถนนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำแผนการตรวจสอบสภาพการใช้งานของระบบไฟฟ้าแสงสว่างที่ติดตั้งในพื้นที่ให้ครอบคลุมอุปกรณ์ทุกรายการ มีรอบระยะเวลาการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะสายไฟฟ้าที่อาจเกิดการชำรุด ขาด หรือเสื่อมสภาพ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อประชาชนที่สัญจรผ่านบริเวณนั้น พร้อมทั้งมีการจดบันทึกการตรวจสอบสภาพและปัญหาที่เกิดขึ้น

หากพบว่ามีอุปกรณ์ชำรุดเสียหายต้องดำเนินการแก้ไข ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนใหม่ให้กลับมาอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ตามปกติในทันที และจัดทำประวัติการซ่อมเสาไฟฟ้าแต่ละต้นเพื่อนำมาเป็นข้อมูสในการวางแผนการซ่อมแซมบำรุงรักษาเพื่อให้ระบบไฟฟ้าแสงสว่างอยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพตลอดจนช่วยให้ระบบไฟฟ้าแสงสว่างมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น (ดูรายละเอียดหนังสือท้ายเรื่องประกอบ)

คำถามที่น่าสนใจ คือ หลังจาก สถ. ได้แจ้งขอให้จังหวัดแจ้งกำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ สตง. ใน 3 ประเด็นหลักไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2561 อปท.แต่ละแห่งที่ดำเนินการโครงการฯ นี้ ปฎิบัติตามข้อเสนอแนะเคร่งครัดมากน้อยเพียงใด

โดยเฉพาะในส่วนของ อบต.ราชเทวะ ที่มีการจัดซื้อมากที่สุดวงเงินกว่า 907 ล้านบาท นับตั้งแต่ช่วงปี 2556-2564 ในปัจจุบัน

ส่วนรายละเอียดผลการตรวจสอบของ สตง. ที่แจ้งให้ สถ. รับทราบเป็นทางการ ก่อนที่จะมีหนังสือฉบับลงวันที่ 4 กันยายน 2561 นั้น สำนักข่าวอิศรา จะนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป

pichhggdsdsorftgsxxxxccccsa6 21 64 1