“…ภูเก็ตพร้อมอยู่แล้วทั้งโรงแรม SHA+ การขนส่งต่างๆ โรงพยาบาล เตรียมพร้อมหมดแล้ว แต่ที่เป็นข้อกังวลเรื่องเดียวคือ กฎข้อระเบียบในการเข้าเมืองยุ่งยากหรือไม่ ส่งผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว เพราะสำหรับการท่องเที่ยว ความเชื่อมั่นสำคัญที่สุด…”
-------------------------------------------------
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดทั่วโลกทำให้เกิดวิกฤตทางด้านเศรษฐกิจ ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยเอง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในเรื่องของระบบเศรษฐกิจและเพื่อให้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้แถลงการณ์ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ประเทศไทยจะต้องเปิดประเทศให้ได้ภายใน 120 วัน โดยเริ่มนำร่องที่ จ.ภูเก็ต ที่เตรียมผ่อนคลายบางมาตรการ และเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาแบบ 'แซนด์บ็อกซ์ (Sandbox)' และจะขยายผลในพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ต่อไป
'ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox)' เป็นโครงการที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วสามารถเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน กำหนดการเริ่มในวันที่ 1 ก.ค.2564 ก่อนที่ประเทศจะกลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างเต็มรูปแบบ
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2564 นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยหลักเกณฑ์การรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ในโครงการ ‘ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์’ ดังนี้
1.ผู้เดินทางต้องเดินทางมากจากประเทศเสี่ยงกลาง-ต่ำ ตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุข และศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) กำหนด
2.ผู้เดินทางจะต้องได้รับวัคซีนครบโดสอย่างน้อย 14 วัน ก่อนการเดินทางมีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนจากประเทศต้นทาง โดยวัคซีนจะต้องขึ้นทะเบียนตามกฎหมายของประเทศไทย หรือได้รับการรับรองโดยองค์การอนามัยโลก (WHO)
3.มีผลการตรวจหาเชื้อโควิดด้วยวิธี RT-PCR ก่อนเดินทางไม่เกิน 72 ชั่วโมง และมีกรมธรรม์ประกันสุขภาพที่ครอบคลุมรวมถึงการรักษาที่เกี่ยวข้องกับโควิด ในจำนวนไม่น้อยกว่า 1 แสนเหรียญสหรัฐ ที่ครอบคลุมระยะเวลาทั้งหมดที่เข้ามาในประเทศไทย
4.เมื่อถึงสนามบินภูเก็ตให้ตรวจหาเชื้อโควิดโดยวิธี RT-PCR และเดินทางไปที่พักโดยรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน SHA+ โดยไม่อนุญาตให้ออกจากห้องพักจนกว่าผลการตรวจยืนยันว่าไม่พบเชื้อ
สำหรับ SHA Plus หรือ Safety & Health Administration (SHA) หรือ แนวปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานภาคสมัครใจสำหรับผู้ประกอบการ หรือข้อกำหนดเบื้องต้นที่สถานประกอบการพึงมีเพื่อป้องกันโควิด ซึ่งมาจากมาตรการด้านสาธารณสุขบวกกับมาตรฐานของสินค้าทางการท่องเที่ยว
5.เข้าพักใน โรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA+ ไม่น้อยกว่า 14 คืน โดยสามารถเดินทางไปในพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ตได้ ภายใต้มาตรการป้องกันโรค D-M-H-T-T-A และห้ามออกนอกเขตจังหวัดภูเก็ตก่อนครบ 14 คืน เว้นแต่เดินทางออกนอกประเทศ
6.รายงานตัว และรับการตรวจหาเชื้อ ตามเกณฑ์ที่กรมควบคุมโรคกำหนด คือ วันที่ 6 และวันที่ 13
7.ใช้บริการสถานประกอบการที่ได้มาตรฐาน SHA+ ในจังหวัดภูเก็ต
8.ติดตั้งแอปพลิเคชัน ‘หมอชนะ’ บนสมาร์ทโฟน และอนุญาตให้เข้าถึงตำแหน่ง
9.ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้าประเทศไทยโดยทางเรือ
สำหรับเด็กอายุ 6-18 ปี สามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องกักกัน แต่จะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดที่สนามบินภูเก็จ โดยผู้ปกครองต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี จะต้องเดินทางกับพ่อแม่และผู้ปกครองที่ได้รับวัคซีนเท่านั้น ในกรณีที่พบว่าพ่อแม่หรือผู้ปกครองติดเชื้อ เด็กจะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วันด้วยเช่นกัน
@ เอกชนกังวลมาตรการเข้ม นักท่องเที่ยวอาจจะไม่มา
นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวในโครงการ 'ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์' ว่า การเปิดประเทศ ถือว่าเป็นนิมิตรหมายอันดี สำหรับการท่องเที่ยว รวมถึงการฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจ สำหรับ 'ภูเก็ต' ตนคิดว่ามีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะกลุ่มภาคเอกชนได้มีการเตรียมตัวมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว อีกทั้งมีการจัดสรรวัคซีนสำหรับประชาชนในพื้นที่แล้วด้วย
แต่ก็มีข้อกังวล เกี่ยวกับมาตรฐานที่เข้มข้น เช่น การตรวจหาเชื้อโควิดสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ต้องตรวจอย่างน้อย 3 ครั้ง ในระยะเวลาที่ท่องเที่ยวอยู่ ซึ่งไม่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว อาจจะเป็นอุปสรรค หรือปัจจัยทำให้นักท่องเที่ยวชะลอการตัดสินใจเดินทางมาได้
"ภูเก็ตพร้อมอยู่แล้วทั้งโรงแรม SHA+ การขนส่งต่างๆ โรงพยาบาล เตรียมพร้อม แต่ที่เป็นข้อกังวลเรื่องเดียวคือ กฎข้อระเบียบในการเข้าเมืองยุ่งยากหรือไม่ ส่งผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว เพราะสำหรับการท่องเที่ยว ความเชื่อมั่นสำคัญที่สุด" นายชำนาญกล่าว
(นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย)
ทางด้าน นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ภาคเอกชนในกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตยืนยันว่ามีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 ก.ค.นี้ โดยที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA+ จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไปแล้วกว่า 800 แห่ง รวมถึงคมนาคมขนส่งต่างๆ ด้วยเช่นกัน ยังมีข้อกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับมาตรการสำหรับนักท่องเที่ยว
นายธเนศ อธิบายเพิ่มเติมว่า ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การออกกฎระเบียบนั้น ควรจะเป็นกฎที่มีทั้งความปลอดภัย และความสะดวก เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว แต่มาตรการของ 'ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์' นั้น ค่อนข้างเข้มงวดและมีหลายขั้นตอน ด้วยระเบียบขนาดนี้ อาจจะไม่เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมากนัก แค่เฉพาะกระบวนการตรวจหาเชื้อก็หลายครั้ง และมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง อาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว แต่ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าอย่างไรก็ตามก็จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างแน่นอน
"สมมติว่านักท่องเที่ยวจองมาเที่ยวเมืองไทย 1 เดือน ต้องตรวจหาเชื้อ 4 ครั้งเป็นอย่างน้อย ไม่นับรวมขากลับอีก ส่วนค่าใช้จ่าย RT-PCR อยู่ที่ประมาณ 2 พันปลายจนถึง 3 พันกว่า คิดเป็นตัวเลขกลมๆ 100 เหรียญ รวมแล้วก็จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 3-4 ร้อยเหรียญ อาจจะเป็นปัจจัยการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวได้" นายธเนศ
ทั้งนี้ นายธเนศ กล่าวเน้นย้ำว่า โครงการ 'ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์' ถือว่าเป็นการเปิดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย แบบวิถีใหม่ (New normal) แต่ทั้งนี้ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศอย่างเดียวเท่านั้น ภูเก็ตยังให้ความสำคัญกับที่นักท่องเที่ยวไทยด้วยเช่นกัน ภูเก็ตยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวไทยเสมอ
@ ททท.คาดเดือนแรกจะรับนักท่องเที่ยวไม่เกินหลักหมื่นคน
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา ว่า การเปิดภูเก็ต แซนบ็อกซ์ เป็นนำร่องก่อนการเปิดประเทศเพื่อขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ โดยในเดือนแรก คือ เดือน ก.ค.ที่จะมาถึงนี้ เป็นการทดสอบระบบที่ได้มีการเตรียมการวางแผนไว้ คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวอาจจะไม่มากนัก ประมาณหลักหมื่นคน
"เดือนแรกเป็นการทดสอบระบบ อย่างไรก็ตามก็ต้องเปิดประเทศ เหมือนเช่นกับประเทศอื่นๆ ในเดือนแรก นักท่องเที่ยวอาจจะไม่มากมายมหาศาล แต่เราก็จำเป็นต้องเปิดประเทศ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามา เพื่อทดสอบระบบก่อนจะขยายผลเปิดในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป" นายศิริปกรณ์กล่าว
@ มั่นใจ ภูเก็ตพร้อม-ปลอดภัย
นายศิริปกรณ์ กล่าวว่า ถึงแม้ว่าในช่วงแรก นักท่องเที่ยวจะไม่มาก แต่มาตรการที่วางไว้ก็จะต้องคุมเข้ม ไม่มีการลด หรือผ่อนปรนเพื่อความปลอดภัยของตัวนักท่องเที่ยวเอง เมื่อนักท่องเที่ยวปลอดภัยแล้ว ในส่วนพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเอง ที่ถือว่าเป็นเจ้าบ้านนั้น ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจคัดกรองเชิงรุก รวมถึงการปูพรมฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งขณะนี้มีการฉีดไปแล้วไม่น้อยกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งในส่วนภาคเอกชน โรงแรม รถสาธารณะต่างๆ กิจการท่องเที่ยวเอง ก็ได้มีการเตรียมความพร้อม และปฏิบัติติตามมาตรการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด จึงมั่นใจได้ถึงความพร้อมที่จะรับนักท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต
"ในส่วนความเข้มข้นของมาตรการ ยอมรับว่าตึงในช่วงแรก เพื่อให้มั่นใจกับทุกฝ่าย ส่วนความพร้อมของภูเก็ต ก็ถือว่าพร้อมมาก แต่อาจจะไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะ 100 เปอร์เซ็นต์จะเกิดขึ้นจากการลงพื้นที่ตรวจความพร้อมอีกครั้ง ในวันที่ 25 มิ.ย.นี้" นายศิริปกรณ์กล่าว
(นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย)
@ โอกาสดีสำหรับต้อนรับแฟนพันธุ์แท้เมืองไทย
นายศิริปกรณ์ กล่าวถึงข้อกังวลใจของผู้ประกอบการเกี่ยวกับมาตรการที่เข้มข้น อาจส่งผลให้ต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว ว่า จะต้องขอชื่นชมนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้า ถึงแม้ว่าจะมีมาตรการที่เข้มข้น แต่ก็ตัดสินใจมาท่องเที่ยว ถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่เรียกว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ของภูเก็ต ของประเทศไทย พิสูจน์ได้จากสายการบินที่ยังมีเข้ามาอยู่ และการจองที่พักต่างๆ ยังคงมีมาเรื่อยๆ
นายศิริปกรณ์ กล่าวยืนยันว่า สำหรับคนไทยที่เดินทางจากต่างประเทศ สามารถเข้าร่วมโครงการ 'ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์' ได้ แต่ทั้งนี้จะต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดไว้เช่นเดียวกับชาวต่างชาติ
@ เปิดทั่วประเทศ เดือน ก.ย.นี้
สำหรับแผนการเปิดพื้นที่ท่องเที่ยวต่อไป นายศิริปกรณ์ เปิดเผยว่า จากแผนที่วางไว้ในระยะที่ 1 ตามเป้าหมายเดิมที่อนุมัติไว้ 10 พื้นที่ คือ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ พัทยา จ.ชลบุรี หัวหินและชะอำ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กทม. และบุรีรัมย์ โดยจะเริ่มจากพื้นที่เกาะก่อน เพราะสามารถควบคุมได้ง่าย อย่างเช่น ภูเก็ต สมุย เกาะพีพี และไล่เรียงไปยังพื้นที่อื่นๆ โดยเริ่มต้นในวัน 1 ก.ค. ที่ภูเก็ต วันที่ 15 ก.ค. ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และพื้นที่ทางบกอื่นๆ ในเดือน ก.ย.เป็นต้นไป
ทั้งหมดนี้ คือมุมมองของผู้ประกอบการอุตสหกรรมท่องเที่ยว และภาครัฐ ถึงความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศในโครงการ 'ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์'ต้องติดตามกันต่อไปว่าหลังจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 ก.ค.ที่จะถึงนี้ การท่องเที่ยวทั้งในภูเก็ต และประเทศไทยจะเป็นอย่างไร
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage