พฤติกรรมลูกอดีต ส.ส. ใช้บัญชีเงินฝากกลุ่มการพนันจ่ายค่าขนยาเสพติดส่งไปมาเลเซีย

พลิกคำสั่ง ปปง. อายัดทรัพย์ 98.9 ล้าน พฤติกรรม‘ปิติพล เอกอุรุ’ลูกชาย อดีต ส.ส. สงขลา เป็นตัวการใหญ่พันขบวนการค้ายาเสพติดภาคใต้ส่งออกมาเลเซีย ใช้บัญชีเงินฝากค่าลำเลียง จ่ายเงินค่าจ้างรถยนต์ เปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ แม่ให้การมัดทำมา 4-5 ปี มีลูกจ้าง อุปกรณ์คอมฯ จํานวนมาก

..............................

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2564 สํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สํานักงาน ปปง.) มีคําสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย. 79/2564 เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดไว้ชั่วคราว ราย นายปิติพล เอกอุรุ บุตรชาย นายประพร เอกอุรุ อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และ น.ส.นันท์นภัส เอกอุรุ บุตรสาว กับพวก จํานวน 36 รายการ รวมมูลค่า 98,941,836.19 บาท มีพฤติการณ์กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือกฎหมายว่าด้วยมาตรการในการปราบปรามผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและความผิด เกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน เฉพาะความผิดเกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นการพนัน ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (เรื่องเกี่ยวข้อง: โชว์คำสั่ง ปปง.ยึดอายัด 98.9 ล. ลูกอดีต ส.ส.สงขลา ฟอกเงินค้ายา เปิดบ่อนออนไลน์)

มาดูพฤติกรรมของนายปิติพล เอกอุรุ กับพวก ตามที่ปรากฏในคําสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย. 79/2564 ในการยึดและอายัดทรัพย์สิน นายปิติพล

ด้วยสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สํานักงาน ปปง.) ได้รับรายงาน จากตํารวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามหนังสือที่ ตช 0023(สฎ).(12)/51 ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 เรื่อง รายงานการกระทําความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน รายนายปิติพล เอกอุรุ กับพวก ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์ แห่งการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือกฎหมายว่าด้วยมาตรการในการปราบปรามผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและความผิด เกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน เฉพาะความผิดเกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นการพนัน ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ กล่าวคือ

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2563 เจ้าพนักงานตํารวจสถานีตํารวจภูธรพุนพิน ได้ตั้งจุดตรวจบริเวณถนนสาย 41 ขาล่อง หมู่ที่ 3 ตําบลหนองไทร อําเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบนายสุวิทย์ นุ่นสงค์ ขับรถยนต์บรรทุก ยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 70-3579 ตรัง โดยมีนายสมศักดิ์ สุนทรนนท์ โดยสารมาด้วย จากการตรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) จํานวน 30 ถุงใหญ่ น้ำหนักประมาณ 1,199 กิโลกรัม จึงทําการจับกุมและยึดของกลางส่งดําเนินคดีตามกฎหมาย ตามคดีอาญาที่ 527/2563 พนักงานสอบสวนได้สรุปสํานวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาในข้อหาร่วมกันมียาเสพติด ให้โทษในประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจําหน่ายโดยผิดกฎหมาย สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด (ฐานมียาเสพติดให้โทษ ในประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจําหน่าย) และมีการกระทําความผิดเกี่ยวกับ ยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

ต่อมาเจ้าพนักงานตํารวจ ชุดขยายผลและยึดทรัพย์สินคดียาเสพติดรายสําคัญตํารวจภูธรภาค 8 และตํารวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ร่วมกันขยายผลเพิ่มเติมพบว่า คดีนี้เป็นเครือข่ายยาเสพติดมีรูปแบบการกระทําความผิดในลักษณะองค์กร ยาเสพติด โดยมีพยานหลักฐานยืนยันได้ว่า นายสมพร ไชยภักดี นายสุวิทย์ นุ่นสงค์ และนายสมศักดิ์ สุนทรนนท์ เป็นผู้ลําเลียงยาเสพติดจากภาคกลางลงไปภาคใต้ นายหวันเอน เหมปันดัน และนางสาวแดหนาบ ยาหวัง เป็นผู้ลําเลียงยาเสพติดจากภาคใต้ออกไปยังประเทศมาเลเซีย มีการถือและใช้บัญชีเงินฝากธนาคารเพื่อรับโอนค่าจ้างลําเลียงยาเสพติดหลายบัญชี โดยเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดมาจากบัญชีเงินฝากธนาคารกลุ่มการพนันออนไลน์ซึ่งมีนายปิติพล เอกอุรุ และนางสาวนันท์นภัส เอกอุรุ เป็นตัวการใหญ่

โดยมีพยานผู้เปิดบัญชีเงินฝากให้นายปิติพล เอกอุรุ ใช้งาน ยืนยันจํานวนหลายปาก ทั้งนี้ บัญชีเงินฝากธนาคารของนายอิทธิพล พุ่มเกตุ เป็นบัญชีเงินฝากธนาคารที่ใช้สําหรับโอนเงินค่าลําเลียงยาเสพติดและจ่ายเงินค่าจ้างรถยนต์ที่ใช้ ลําเลียงยาเสพติด โดยต่อมาพนักงานสอบสวนสถานีตํารวจภูธรพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ดําเนินคดีกับนายปิติพล เอกอุรุ กับพวก เป็นคดีอาญาที่ 73/2564 คดีอาญาที่ 74/2564 คดีอาญาที่ 75/2564 และคดีอาญาที่ 83/2564 ในข้อหาฟอกเงินหรือสนับสนุนฟอกเงินมูลฐานความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เจ้าพนักงานตํารวจได้นําหมายค้นของศาลจังหวัดสงขลาที่ 50/2564 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ค้นห้องพักเลขที่ 201 หอพักอัมพวัลย์ ตําบลบ่อยาง อําเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ของนายปิติพล เอกอุรุ ผลการตรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีน จํานวน 66 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนัก 20.08 กรัม อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน จึงร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดําเนินคดีกับ นายปิติพล เอกอุรุ ในข้อหามียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนและยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง เพื่อจําหน่าย ตามคดีอาญาที่ 229/2564 ของสถานีตํารวจภูธรเมืองสงขลา ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่าง การสอบสวนของสถานีตํารวจภูธรพุนพิน

นอกจากนี้ นางนนทิพา เอกอุรุ มารดาของนายปิติพล เอกอุรุ และนางสาวนันท์นภัส เอกอุรุ ยังให้การว่า บุคคลทั้งสองมีพฤติการณ์เปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ มาประมาณ 4 - 5 ปีแล้ว โดยมีลูกจ้างที่ดําเนินกิจการดังกล่าวจํานวนมากและมีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์สําหรับการดําเนินกิจการเปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์จํานวนมากเช่นกัน ซึ่งสอดคล้องกับพยานอีกหลายคนที่ให้การว่า นายปิติพล เอกอุรุ และนางสาวนันท์นภัส เอกอุรุ เปิดสํานักงานเพื่อดําเนินกิจการพนันออนไลน์เว็บไซต์ชื่อ pussy 999 และ 198 kiss ซึ่งเปิดพนันออนไลน์ชนิดบาคาร่า สล็อตและยิงปลา และยังมีพฤติการณ์ว่าจ้างให้บุคคลอื่นเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารเพื่อนําไปใช้ในการเล่นพนันออนไลน์อีกด้วย

กรณีดังกล่าวมีการดําเนินการแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตํารวจภูธรเมืองสงขลา เพื่อให้ดําเนินคดีกับนายปิติพล เอกอุรุ กับพวก ในความผิด ฐานเป็นผู้จัดให้มีการเล่นหรือทําอุบายล่อ ช่วยประกาศ โฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าในการเล่นการพนันออนไลน์ ซึ่งมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ อันเข้าลักษณะ เป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (1) และ (9) ความผิดฐานฟอกเงิน ตามมาตรา 5 และความผิดฐานสนับสนุน การกระทําความผิดฐานฟอกเงิน ตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านายปิติพล เอกอุรุ กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทํา ความผิดดังกล่าว

ในการนี้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 ที่ประชุมมีมติมอบหมาย พนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อดําเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ประกอบ กับคําสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ลับ ที่ ม. 124/2564 ลงวันที่ 10 มีนาคม 2564 เรื่อง มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทํา ความผิด รายนายปิติพล เอกอุรุ กับพวก พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดําเนินการตรวจสอบรายงานการทําธุรกรรม หรือข้อมูลเกี่ยวกับการทําธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวแล้ว ปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่านายปิติพล เอกอุรุ กับพวก มีพฤติการณ์แห่งการกระทําอันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (1) และ (9) ความผิดฐานฟอกเงิน ตามมาตรา 5 และความผิดฐานสนับสนุนการกระทําความผิดฐานฟอกเงิน ตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 หรือเป็นผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทําความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงิน และจากการตรวจสอบข้อมูลการทําธุรกรรม หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิด รวมทั้งจากการรวบรวมพยานหลักฐาน

ปรากฏว่าบุคคล ดังกล่าวได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิด จํานวน 36 รายการ พร้อมดอกผล และเนื่องจาก ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดในคดีนี้ ประกอบด้วยสังหาริมทรัพย์ประเภทเงินสด อันเป็นทรัพย์สิน ที่มีสภาพคล่อง สามารถปกปิด ซ่อนเร้น หรือโอนเปลี่ยนมือได้โดยง่าย ประเภทเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร อันเป็นทรัพย์สินที่สามารถโอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นได้โดยง่าย ประเภทรถจักรยานยนต์ อันเป็นทรัพย์สิน ที่ปรากฏหลักฐานในทางทะเบียน ในการควบคุมการเสียภาษีหรือการเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สินดังกล่าว

โดยผู้มีชื่อเป็นผู้ครอบครองอาจดําเนินการโอนเปลี่ยนแปลงชื่อผู้มีสิทธิครอบครองในทางทะเบียนได้โดยง่าย และอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินตามโฉนดที่ดิน อันเป็นทรัพย์สินที่ปรากฏหลักฐานในทางทะเบียนในการ เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ โดยผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อาจดําเนินการทางนิติกรรมโอนเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ ในทางทะเบียนได้ หากมิได้มีการออกคําสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราว เมื่อเจ้าของ หรือผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดําเนินการโอน จําหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สิน ดังกล่าวไปเสีย และหากต่อมาศาลได้มีคําสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน สํานักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านายปิติพล เอกอุรุ กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดและอาจมีการโอน จําหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 34 (3) และมาตรา 48 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มติคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุม ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 และระเบียบคณะกรรมการธุรกรรมว่าด้วยการรับเรื่อง การตรวจสอบ การพิจารณาดําเนินการ และการควบคุมตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2556 ข้อ 25 คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีคําสั่งยึดและอายัดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดไว้ชั่วคราว จํานวน 36 รายการ พร้อมดอกผล กล่าวคือ มีคําสั่งให้ยึดทรัพย์สิน จํานวน 22 รายการ ได้แก่ รายการที่ 1 ถึงรายการที่ 22 และมีคําสั่งให้อายัดทรัพย์สิน จํานวน 14 รายการ ได้แก่ รายการที่ 23 ถึงรายการที่ 36 มีกําหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการ ธุรกรรมมีมติ กล่าวคือ นับตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2564 ถึงวันที่ 6 มิถุนายน 2564 โดยมีรายการทรัพย์สิน ที่ยึดและอายัดปรากฏตามบัญชีทรัพย์สินแนบท้ายคําสั่งนี้

ทั้งนี้ ให้รวมถึงเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการจําหน่าย จ่าย โอนด้วยประการใด ๆ ซึ่งทรัพย์สิน ดังกล่าวหรือสิทธิเรียกร้องหรือผลประโยชน์หรือดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินดังกล่าวด้วย

ในกรณีผู้ซึ่งถูกยึดและอายัดทรัพย์สินตามคําสั่งนี้หรือผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์สินดังกล่าว ประสงค์จะขอให้มีการเพิกถอนคําสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าวนั้น ให้ยื่นคําขอเป็นหนังสือต่อเลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพร้อมด้วยหลักฐานที่เกี่ยวข้องที่แสดงว่าเงินหรือทรัพย์สิน ที่ถูกยึดและอายัดดังกล่าวนั้น มิใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ ได้รับแจ้งคําสั่งเป็นหนังสือ

อนึ่ง การยักย้าย ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย ทำให้สูญหายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานยึดหรืออายัดไว้หรือที่ตนรู้หรือควรรู้ว่าจะตกเป็นของแผ่นดินอาจมีความผิดทางอาญาและต้องระวางโทษตามนัยมาตรา 65 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

สำหรับ นางนนทิพา เอกอุรุ มารดาของนายปิติพล เอกอุรุ และนางสาวนันท์นภัส เอกอุรุ ถูก ปปง.ยึดเงินสด  44,896,000 บาท รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮาเลย์เดวิดสัน สีเขียวดำ 1 คัน ราคา 50,000 บาท

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/