"....หลังใช้ความพยายามสืบหาข้อเท็จจริงเรื่องนี้อยู่นาน สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบข้อมูลยืนยันเป็นทางการว่า มีกรณีการทุจริตของนายทหารไทยดังกล่าวเกิดขึ้นจริง! เป็นเรื่องราวของนายทหารรายหนึ่ง ที่ถูกส่งตัวไปปฎิบัติหน้าที่โรงพยาบาลแพทย์สนามในเซาท์ซูดาน ช่วงเดือนธันวาคม 2562-ธันวาคม 2563 ก่อนที่นายทหารรายนี้ จะถูกสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่และจบภารกิจ เนื่องจากอยู่ในระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงทางวินัยในคดีฉ้อโกง ..."
......................................
"เรื่องวัคซีนนั้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะในปีหน้านั้นทุกคนล้วนแล้วแต่จะมีความต้องการวัคซีนกันทั้งนั้น และวัคซีนนั้นมันก็เป็นสิ่งที่ฉีดแล้วมันก็หายไป ดังนั้นจึงสามารถที่จะทุจริตวัคซีนได้ง่ายมาก"
"ยกตัวอย่างเช่นประเด็นเรื่องการกักตุนวัคซีน การยักย้ายถ่ายเท และเอาวัคซีนปลอม หรือเอาน้ำเกลือมาใส่ให้วัคซีนมาใส่แทนวัคซีนตัวจริงก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีกรณีที่หน่วยงานในประเทศไทยซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่ในต่างประเทศในบทบาทขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แล้วก็ไปทุจริตวัคซีนโดยเอาเกลือแร่ไปฉีดให้กับประชาชน แล้วก็เอาวัคซีนไปขายให้กับพ่อค้า ซึ่งเรื่องนี้เป็นตัวอย่างเทียบเคียงให้เห็นว่าวัคซีนนั้นสามารถจะโกงกันแบบนี้ก็ได้"
คือ หนึ่งในประเด็นสำคัญจากคำให้สัมภาษณ์ของ นายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ที่ให้กับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ถึงบทบาทขององค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT เกี่ยวกับประเด็นการป้องกันการทุจริตวัคซีนโควิด-19 ในช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา
(อ่านประกอบ : มานะ นิมิตรมงคล : ระวังปัญหาทุจริตวัคซีนโควิด-19 ของไทย)
ซึ่งเป็นสัมภาษณ์หลังจากสำนักข่าวอิศรา ได้นำเสนอรายงานขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) ประจำประเทศอังกฤษ ที่ชื่อว่า THE UNSPOKEN COVID-19 VACCINE CHALLENGES - DISTRIBUTION AND CORRUPTION หรือแปลเป็นไทยว่าความท้าทายของวัคซีนโควิด-19 ที่ไม่เคยถูกพูดถึง กับปัญหาเรื่องการแจกจ่ายและการทุจริตให้สาธารณชนได้รับทราบ
(อ่านประกอบ : ความเสี่ยง! การจารกรรม-ทุจริต และใช้วัคซีนโควิดเป็นอาวุธควบคุมภูมิศาสตร์การเมืองโลก)
อันนำมาซึ่งความสงสัยว่า เคยมีกรณีที่หน่วยงานในประเทศไทยซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่ในต่างประเทศในบทบาทขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แล้วก็ไปทุจริตวัคซีนโดยเอาเกลือแร่ไปฉีดให้กับประชาชน แล้วก็เอาวัคซีนไปขายให้กับพ่อค้าดังกล่าวจริงหรือ?
ล่าสุด หลังใช้ความพยายามสืบหาข้อเท็จจริงเรื่องนี้อยู่นาน สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบข้อมูลยืนยันเป็นทางการว่า มีกรณีการทุจริตของนายทหารไทยดังกล่าวเกิดขึ้นจริง!
เป็นเรื่องราวของนายทหารรายหนึ่ง ที่ถูกส่งตัวไปปฎิบัติหน้าที่โรงพยาบาลสนามในเซาท์ซูดาน ช่วงเดือนธันวาคม 2562-ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา
ก่อนที่นายทหารรายนี้ จะถูกสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่และจบภารกิจ เนื่องจากอยู่ในระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงทางวินัยในคดีฉ้อโกงหลอกลวง
โดยเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) จาก office of internal oversight services และกองทัพบก ได้มอบหมายให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ฐานประพฤติชั่วร้ายแรง กับนายทหารรายนี้
หลังได้รับรายงานว่า มีพฤติกรรมหลอกลวงฉ้อโกงเงินกำลังพล ค่าดูแลการส่งกลับสายแพทย์ และหลอกลวงฉ้อโกงผู้บังคับบัญชา และกำลังพลให้ได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ในเขตทวีปแอฟริกา
โดยแอบอ้างคำสั่งของนายแพทย์ประจำการ และได้ทำการฉีดสิ่งอื่นที่ไม่ใช่วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ในเขตทวีปแอฟริกา ด้วย
ซึ่งการกระทำดังกล่าว ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของ ทบ.ในระดับประเทศเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวยืนยันว่า นายทหารรายนี้ ได้ขาดราชการโดยไม่ทราบสาเหตุ ไปตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.2563 จนถึงปัจจุบันแล้ว
ส่วนข้อมูล นายทหารรายนี้ ว่าเป็นใครมาจากไหน สังกัดอยู่ในหน่วยงานใด และความคืบหน้าทางคดีอื่นๆ
สำนักข่าวอิศรา จะติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage