"...ร่างข้อเสนอผ่อนคลายมาตราการครั้งนี้ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 โซน แต่ละโซนจะมีการกำกับดูแลที่แตกต่างกันไป โดยผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจในการปรับมาตรการการควบคุมแบบบูรณาการตามสถานการณ์โรค กฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องได้ทันที..."
.........................................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2564 ศูนย์ปฏิบัติการบริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข (ศปก.สธ.) เปิดเผยร่างการผ่อนปรนมาตราการควบคุมโควิด หลังสถานการณ์การระบาดในหลายจังหวัดมีแนวโน้มดีขึ้น โดยข้อเสนอทั้งหมดจะเสนอให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) พิจารณาในวันที่ 29 ม.ค.2564
นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาการราชการแทน ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ที่ประชุมเตรียมเสนอแนวปฏิบัติเพื่อผ่อนคลายมาตราการการระบาดของโควิดระลอกใหม่ ซึ่งจะดำเนินการในรูปแบบเหมือนเดิม คือต้องมีจังหวัดที่เป็นแนวกันชน และจังหวัดที่มีความเสี่ยงที่จะกระจายเชื้อโควิด โดยจะยังมีการแบ่งพื้นที่และผ่อนคลายมาตราการตามแต่ละพื้นที่ลดหลั่นกันไป ส่วนจังหวัดที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อหรือมีผู้ป่วยจำนวนน้อย จังหวัดสามารถพิจารณาปรับลดหรือเพิ่มความเข้มข้นของมาตราการควบคุมแบบบูรณาการตามเกณฑ์รายอำเภอได้ เพื่อความอ่อนตัวในการบริหารจัดการ
สำหรับร่างข้อเสนอ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 โซน แต่ละโซนจะมีการกำกับดูแลที่แตกต่างกันไป โดยผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจในการปรับมาตรการการควบคุมแบบบูรณาการตามสถานการณ์โรค กฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องได้ทันที
โดยการประกาศโซนพื้นที่ หลังจากนี้ประกอบด้วย
1.พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร
2.พื้นที่ควบคุมสูงสุด ได้แก่ กทม. สมุทรปราการ นนทบุรี และปทุมธานี
3.พื้นที่ควบคุม ได้แก่ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ตาก กาญจนบุรี ชัยนาท อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี อยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม ราชบุรี และเพชรบุรี
4.พื้นที่เฝ้าระวังสูง ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง ชุมพร สุราษฎร์ธานี พังงา สงขลา ยะลา นราธิวาส นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร และสุโขทัย
5.พื้นที่เฝ้าระวัง ได้แก่ นครศรีธรรมราช ภูเก็ต กระบี่ สตูล ตรัง พัทลุง ปัตตานี เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม ศรีสะเกษ อำนาจเจิญ สุรินทร์ และอุบลราชธานี
สำหรับมาตราการที่แต่ละโซนต้องปฏิบัติ มีรายละเอียดดังนี้
1.พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้ปิดสถานที่และเข้มงวดกำกับสถานบริการ ได้แก่ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการผับ บาร์ และคาราโอเกะ สนามมวย สถานที่ออกกำลังกายในร่ม ยิม ฟิตเนส สนามชนไก่ ชนวัว กัดปลา บ่อน สนามพระเครื่อง กิจการอาบน้ำ อาบอบนวด สปา นวดแผนไทย โรงเรียน โรงเรียนกวดวิชา สถานบันการศึกษา สนามเด็กเล่น สวนสนุก เครื่องเล่นเด็ก ตู้เกมส์ ร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต การประชุม งานเลี้ยง กิจกรรมประเพณีที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก การจัดงานแสดงสินค้า และสถานีขนส่งสาธารณะ
สำหรับสถานที่อื่นๆนั้น สามารถเปิดได้ และต้องเข้มงวดในมาตราการป้องกันโรค ดังนี้
ตลาด และตลาดนัด ต้องจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ และกำกับการเว้นระยะห่าง
ร้านอาหาร ให้ซื้อนำกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น และร้านค้าต้องเปิดไม่เกิน 21.00น.
ศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้า ให้ปิดเวลาไม่เกิน 21.00น.
ศูนย์เด็กเล็กและสถานที่พักผู้สูงวัย เฉพาะเข้าพักการประจำ อนุญาตให้เปิดได้
สถานประกอบการ และโรงงาน ต้องมีการกำกับมาตราการป้องกันโรคภายในองค์กรและจัดให้มีระบบติดตามตัวของผู้เดินทางเข้า-ออกทุกคน
2.พื้นที่ควบคุมสูงสุด สำหรับสถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการผับ บาร์ และคาราโอเกะ ให้ปิดสถานที่และให้ซื้ออาหารนำกลับไปบริโภคที่อื่น
ส่วนร้านอาหาร ร้านจำหน่ายอาหาร หรือร้านเครื่องดื่ม ให้นั่งรับประทานอาหารได้ไม่เกิน 23.00น. และต้องจำกัดจำนวนโต๊ะต่อคน มีการเว้นระยะห่าง รวมถึงงดดื่มสุราภายในร้าน
สำหรับห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ สามารถเปิดบริการได้ตามเวลาปกติ งดจัดกิจกรรมที่มีผู้ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากในสถานที่ และจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก
นอกจากนั้น ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม และการจัดนิทรรศการ สามารถเปิดบริการได้ตามปกติและต้องจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมตามขนาดพื้นที่ไม่น้อยกว่า 1 ตารางเมตรต่อคน
3.พื้นที่ควบคุม สำหรับสถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการผับ บาร์ และคาราโอเกะ สามารถให้นั่งทานอาหารและดื่มสุราได้แบบเว้นระยะห่าง จัดแสดงดนตรีได้ แต่ต้องงดการเต้นรำ และต้องปิดภายในเวลาไม่เกิน 23.00น.
ส่วนร้านอาหาร ร้านจำหน่ายอาหาร หรือร้านเครื่องดื่ม ให้นั่งรับประทานอาหารและดื่มสุราได้ไม่เกิน 23.00น.
สำหรับห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ สามารถเปิดบริการได้ตามเวลาปกติ งดจัดกิจกรรมที่มีผู้ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากในสถานที่ และจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมากนอกจากนั้น ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม และการจัดนิทรรศการ สามารถเปิดบริการได้ตามปกติและต้องจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมตามขนาดพื้นที่ไม่น้อยกว่า 1 ตารางเมตรต่อคน
4.พื้นที่เฝ้าระวังสูง สำหรับสถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการผับ บาร์ และคาราโอเกะ สามารถจัดจำหน่าย ให้นั่งดื่มสุราได้ ภายในเวลาไม่เกิน 24.00น.
ส่วนร้านอาหาร ร้านจำหน่ายอาหาร หรือร้านเครื่องดื่ม ให้จำหน่ายและนั่งดื่มสุราได้ไม่เกิน 24.00น.
สำหรับห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ สามารถเปิดบริการได้ตามเวลาปกติ งดจัดกิจกรรมที่มีผู้ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากในสถานที่ และจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก
นอกจากนั้น ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม และการจัดนิทรรศการ สามารถเปิดบริการได้ตามปกติและต้องจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมตามขนาดพื้นที่ไม่น้อยกว่า 1 ตารางเมตรต่อคน
5.พื้นที่เฝ้าระวัง สำหรับสถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการผับ บาร์ และคาราโอเกะ สามารถจัดจำหน่าย ให้นั่งดื่มสุรา แสดงดนตรี และเต้นรำแบบเว้นระยะห่างได้ ภายในเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
ส่วนร้านอาหาร ร้านจำหน่ายอาหาร หรือร้านเครื่องดื่ม ให้จำหน่ายและจัดระเบียบการเข้าใช้บริการได้ ภายในเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
สำหรับห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ สามารถเปิดบริการได้ตามเวลาปกติ งดจัดกิจกรรมที่มีผู้ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากในสถานที่ และจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก
นอกจากนั้น ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม และการจัดนิทรรศการ สามารถเปิดบริการได้ตามปกติและต้องจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมตามขนาดพื้นที่ไม่น้อยกว่า 1 ตารางเมตรต่อคน
ทั้งนี้แม้จะมีการผ่อนคลายมาตราการ แต่ทุกพื้นที่ยังคงต้องเน้นการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ และตรวจวัดอุณหภูมิ ควบคู่ไปกับการลงทะเบียนเข้างานหรือแสกนไทยชนะก่อน-หลังเข้าใช้บริการและร่วมกิจกรรม
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage