"...กรณีให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 กับผู้ที่เกี่ยวข้องชดใช้ความเสียหาย เป็นเงิน 1.75 ล้านบาท และดำเนินการทางวินัยตามควรแก่กรณีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง นั้น ผู้รับจ้างได้มีการชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 1.75 ล้านบาท เรียบร้อยแล้วและได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว ผลการสอบสวนโดยสรุปไม่พบหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าคณะกรรมการตรวจรับพัสดุมีพฤติการณ์อันเป็นการทุจริตหรือจงใจประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการและเห็นว่าผู้ควบคุมงานได้ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติงานเยี่ยงวิญญูชนจะพึงมีแล้วเห็นควรยุติการดำเนินการทางละเมิด..."
........................................
การจัดซื้อจัดจ้างที่ทำการปกครองอำเภอแห่งหนึ่ง ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบข้อบกพร่องที่สำคัญ คือ ผู้รับจ้างก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการละเอียดและข้อกำหนดในสัญญาจ้างหลายรายการ พร้อมสั่งให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 กับผู้ที่เกี่ยวข้องชดใช้ความเสียหาย เป็นเงิน 1.75 ล้านบาท และดำเนินการทางวินัยตามควรแก่กรณีกับคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ผู้ควบคุมงาน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และสั่งกำชับให้ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐพ.ศ. 2560 และตามระเบียบแบบแผนของทางราชการโดยเคร่งครัด ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง และมีความละเอียด รอบคอบ เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สืบค้นรายงานผลการตรวจสอบของ สตง. พบว่า มีการเผยแพร่รายงานผลการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างของที่ทำการปกครองอำเภอแห่งหนึ่ง โดยตรวจสอบการปฏิบัติงานของผู้รับจ้าง พบข้อบกพร่องที่สำคัญ คือ ผู้รับจ้างก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการละเอียดและข้อกำหนดในสัญญาจ้างหลายรายการ ดังนี้
1. ตามแบบรูปรายการละเอียดกำหนดงานก่อสร้างผนังคลองดาดคอนกรีต ประกอบด้วยงานวางท่อพีวีซีเพื่อระบายน้ำใต้ดิน โดยตามแบบแผ่นที่ 7/8 ระบุไว้ว่าทุกระยะความยาว 2 เมตรของผนังคลองดาดคอนกรีต จะมีท่อพีวีซีจำนวน 8 จุด แต่จากการตรวจสอบพบว่า การก่อสร้างจริงทุกระยะ 2 เมตรจะมีท่อพีวีซีเพียง 4 จุดเท่านั้น
2 ตามแบบรูปรายการละเอียด กำหนดให้มีงานทาสีราวกันตก ค.ส.ล. โดยมีพื้นที่รวม2,192 ตารางเมตร แต่จากการตรวจสอบพบว่า ราวกันตก ค.ส.ล. ทั้งโครงการไม่มีร่องรอยของการทาสี
3. ความยาวราวกันตก ค.ส.ล. ตอนที่ 1 ตามใบแจ้งปริมาณงานฯ กำหนดความยาว 2,020 เมตร แต่วัดความยาวได้จริง 2,099.40 เมตร และตอนที่ 2 กำหนดความยาว 740 เมตร วัดความยาวได้จริง 636.79 เมตร รวมความยาววัดได้จริงจำนวน 2,736.19 เมตร เมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณงานตามข้อกำหนด รวม 2,760 เมตร ซึ่งวัดความยาวได้จริงต่ำกว่าข้อกำหนด 23.81 เมตร
4. ตามแบบรูปรายการละเอียด กำหนดปริมาณเหล็กตะแกรง (Wire mesh) ไว้จำนวน 13,800 ตารางเมตร หักปริมาณ Wire mesh ทางเท้าออก จำนวน 5,520 ตารางเมตรคงเหลือปริมาณ Wire mesh ของดาดคอนกรีต 8,280 ตารางเมตร จากการตรวจสอบ พบว่า จากการวัดพื้นที่โดยวัดได้จริง 4,429.69 ตารางเมตร ซึ่งวัดได้จริงต่ำกว่าข้อกำหนด3,850.31 ตารางเมตร
5. ตามแบบรูปรายการกำหนดปริมาณคอนกรีตไว้ 1,380 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นพื้นที่ดาดคอนกรีต 8,280 ตารางเมตร หนา 0.10 เมตร คิดเป็นปริมาตรได้ 828 ลูกบาศก์เมตร จากการตรวจสอบ พบว่า วัดปริมาตรได้จริง 442.97 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งวัดได้จริงต่ำกว่า ข้อกำหนด 385.03 ลูกบาศก์เมตร
6. ตามแบบรูปรายการละเอียด กำหนดปริมาณงานปลูกต้นไม้ไว้จำนวน 129 ต้น จากการตรวจสอบพบว่า มีงานปลูกต้นไม้เพียง 110 ต้น ต่ำกว่าสัญญาจำนวน 19 ต้น
7. สภาพของงานก่อสร้างชำรุดหลายจุด เช่น งานดาดคอนกรีต ราวกันตก และงานปูพื้น ทางเท้าซึ่งมีการทรุดตัวเป็นแนวยาว
โดย ที่ทำการปกครองอำเภอแห่งนี้ ชี้แจ้งว่า
1. งานก่อสร้างผนังคลอง การวางท่อพีวีซี ไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการ แผ่นที่ 7/8 เนื่องจากขณะทำการก่อสร้างวางรูระบายน้ำด้านบนเพื่อระบายน้ำขณะก่อสร้างไปก่อนซึ่งทำงานยากกว่ามาเจาะทีหลัง ส่วนที่เหลือจะมาเจาะเพิ่มหลังจากคอนกรีตเซ็ตตัวแล้ว ซึ่งต่อมาระยะทางที่เพิ่มขึ้นก็ทำให้ไม่ได้มีการเจาะรูเพิ่มเติม
2. ไม่มีการทาสีราวกันตก เนื่องจากผู้ควบคุมงานคาดว่าผู้รับจ้างจะปฏิบัติตามรายการก่อสร้าง ส่วนรายการทาสีผู้ควบคุมงานเข้าใจว่าไม่มีงานทาสี เป็นคอนกรีตเปลือย ไม่ทราบว่าใน BOQ ของผู้เสนอราคาได้มีรายการทาสี จึงทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในการปฏิบัติงาน
3. ความยาวราวกันตก ค.ส.ล. วัดได้จริงต่ำกว่าข้อกำหนด 23.81 เมตร เนื่องจากขณะทำการก่อสร้างราวกันตกได้เว้นช่องต้นไม้ที่เว้นเป็นขนาดใหญ่ ซึ่งเห็นว่าสมควรอนุรักษ์ไว้จึงทำให้ระยะขาดไป
4. กรณีปริมาณ wire mesh ของดาดคอนกรีต 8,280 ตารางเมตร ซึ่งวัดได้จริงต่ำกว่าข้อกำหนด 3,850.31 ตารางเมตร และปริมาตรดาดคอนกรีตได้จริงต่ำกว่าข้อกำหนด385.03 ลูกบาศก์เมตร สาเหตุเกิดจากการสำรวจอยู่ในช่วงน้ำขึ้นน้ำลง ซึ่งช่วงเวลาในการสำรวจบริเวณริมคลองเป็นช่วงน้ำลง ซึ่งทำให้มีพื้นที่มากขึ้น แต่ขณะทำงานจริงนั้นระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นจนทำให้ปริมาณ wire mesh และปริมาตรคอนกรีตขาดไป
5. งานปลูกต้นไม้ตรวจนับได้จริงต่ำกว่าข้อกำหนด จำนวน 19 ต้น และมีสภาพยืนต้นตาย 1 ต้น และบางต้นล้มเอนเข้าหาถนน ช่างผู้ควบคุมงานชี้แจงว่า ก่อนการปลูกต้นไม้มีการตรวจนับครบถ้วน แต่ขณะก่อสร้างผู้ควบคุมงานเข้าใจว่าผู้รับจ้างปลูกครบถ้วน ไม่ทราบการขาดหายของต้นไม้
6. สภาพงานก่อสร้างชำรุด สาเหตุของการชำรุดอาจเกิดจากการใช้งาน สภาพภูมิอากาศหรือการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ที่ทำการปกครองอำเภอได้ทำหนังสือแจ้งผู้รับจ้างให้ดำเนินการเข้าซ่อมแซมความเสียหายโดยเร็ว
7. กรณีการตรวจรับงานจ้างได้ดำเนินการตรวจการจ้างตามรายละเอียดแบบแปลนงานก่อสร้างแนบท้ายสัญญาจ้าง ซึ่งตามแบบแปลนไม่มีการกำหนดรายละเอียดเรื่องความกว้างของดาดคลอง และเนื้องานการทาสีราวกันตก และในส่วนของการตรวจงานงวดที่ 4 มิได้กำหนดเนื้องานที่ชัดเจนรวมทั้งมีการเปลี่ยนประธานคณะกรรมการตรวจการจ้าง ซึ่งผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่ประธานตรวจการจ้างแทน ได้รับคำสั่งแต่งตั้ง ตามคำสั่งที่ทำการปกครองอำเภอ ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 และให้ไปตรวจงานในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 ทำให้ไม่มีเวลาในการศึกษารายละเอียด รวมทั้งช่างผู้ควบคุมงานไม่ได้อธิบายเนื้องานตามสัญญาจ้างและไม่มีความรู้ทางวิชาช่าง จึงทำให้การตรวจการจ้างโดยดูจากแบบแปลนแนบท้ายสัญญารายงานช่าง และคำแนะนำของช่างผู้ควบคุมงานเท่านั้น
8. กรณีงานก่อสร้างไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการและใบแจ้งปริมาณงานและราคาซึ่งมีมูลค่าความเสียหาย เป็นเงิน 1.75 ล้านบาท ที่ทำการปกครองอำเภอได้ดำเนินการแจ้งผู้รับจ้างให้ชดใช้เงิน ซึ่งผู้รับจ้างได้ทำหนังสือคำร้องขอประนอมหนี้ เพื่อขอผ่อนชำระในทุกวันที่ 15 ของเดือน จำนวน 9 งวด ชำระครบถ้วนภายในวันที่ 16 มิถุนายน 2563สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน พิจารณาแล้วเห็นว่า การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ควบคุมงานและคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ตรวจรับงานตามคำสั่งของที่ทำการปกครองอำเภอ ลงวันที่ 5 มกราคม 2561 และลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 โดยรายงานว่าผู้รับจ้างได้ทำการปรับปรุงภูมิทัศน์ถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาจ้าง ไม่มีค่าปรับ เป็นการไม่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 176
และ ข้อ 178
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้แจ้งผลการตรวจสอบและข้อเสนอแนะ ให้ที่ทำการปกครองอำเภอ ดำเนินการดังนี้
1. ให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 กับผู้ที่เกี่ยวข้องชดใช้ความเสียหาย เป็นเงิน 1.75 ล้านบาท และดำเนินการทางวินัยตามควรแก่กรณีกับคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ผู้ควบคุมงาน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และสั่งกำชับให้ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐพ.ศ. 2560 และตามระเบียบแบบแผนของทางราชการโดยเคร่งครัด ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง และมีความละเอียด รอบคอบ เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ
2. ให้ผู้รับผิดชอบเร่งรัดติดตามและควบคุมให้ผู้รับจ้างดำเนินการซ่อมแซมความชำรุดบกพร่องโดยเร็ว ให้เป็นไปตามสัญญาจ้างผลการแก้ไขข้อบกพร่องและปรับปรุงการปฏิบัติงานของหน่วยรับตรวจที่ทำการปกครองอำเภอ ได้มีหนังสือแจ้งผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ดังนี้
1. กรณีให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 กับผู้ที่เกี่ยวข้องชดใช้ความเสียหาย เป็นเงิน 1.75 ล้านบาท และดำเนินการทางวินัยตามควรแก่กรณีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง นั้น ผู้รับจ้างได้มีการชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 1.75 ล้านบาท เรียบร้อยแล้วและได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว ผลการสอบสวนโดยสรุปไม่พบหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าคณะกรรมการตรวจรับพัสดุมีพฤติการณ์อันเป็นการทุจริตหรือจงใจประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการและเห็นว่าผู้ควบคุมงานได้ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติงานเยี่ยงวิญญูชนจะพึงมีแล้วเห็นควรยุติการดำเนินการทางละเมิด และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และตามระเบียบแบบแผนของทางราชการโดยเคร่งครัด ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังและมีความละเอียด รอบคอบ เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการในโอกาสต่อไปแล้ว
2. กรณีให้ผู้รับผิดชอบเร่งรัดติดตามและควบคุมให้ผู้รับจ้างดำเนินการซ่อมแซมความชำรุดบกพร่องโดยเร็วให้เป็นไปตามสัญญาจ้าง นั้น ผู้รับจ้างได้ดำเนินการเข้าซ่อมแซมความเสียหายแล้ว
สตง. ระบุว่า จากการตรวจสอบและการแจ้งข้อเสนอแนะให้หน่วยรับตรวจดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าว ส่งผลให้หน่วยรับตรวจมีการปรับปรุงแก้ไขการปฏิบัติงานด้านการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรี รวมทั้งมีการนำเงินในส่วนที่ราชการได้รับความเสียหายส่งคืนเป็นรายได้แผ่นดิน
หมายเหตุ : ในรายงานผลการตรวจสอบเรื่องนี้ของ สตง. มิได้ระบุชื่อ ที่ทำการปกครองอำเภอ ที่ถูกตรวจสอบพบปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างไว้ จึงทำให้ สำนักข่าวอิศรา ไม่สามารถติดต่อไปยังผู้บริหารที่ทำการปกครองอำเภอ เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงอีกด้านได้
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/