“...เมื่อเดือน ส.ค. 2556 ภายหลังคณะรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มอบหมายให้นายสุรนันทน์ ดำเนินโครงการประชาสัมพันธ์โครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านขนส่งของประเทศด้วย โดยนายสุรนันทน์ ได้เชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างไม่เป็นทางการประชุมหลายครั้งภายในบริเวณทำเนียบรัฐบาล โดยปรากฏชื่อนายฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการบริษัท มติชนฯ (ขณะนั้น) และตัวแทนบริษัท สยามสปอร์ตฯ เข้าพบนายสุรนันทน์ เพื่อประสานงานและเตรียมการเป็นผู้รับจัดงานโครงการดังกล่าวด้วย…”
กลายเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงในแวดวงสื่อมวลชนทันที!
ภายหลังนายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงข่าวถึงผลการลงมติอย่างเป็นทางการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี กรณีว่าจ้างเอกชนจัดทำโครงการประชาสัมพันธ์ ‘Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020’ ตามร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ วงเงินจัดจ้าง 240 ล้านบาทโดยมิชอบ
โดยบริษัทสื่อ 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นายฐากูร บุนปาน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท มติชนฯ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) และนายระวิ โหลทอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บริหารบริษัท สยามสปอร์ตฯ ในฐานะผู้รับจ้าง ถูกชี้มูลความผิดด้วยฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ (อ่านประกอบ : ป.ป.ช.แถลงชี้มูล‘ปู-สุรนันทน์-นิวัฒน์ธำรง’ฮั้วสื่อจัดอีเวนต์-มติชน จ่อฟ้องปกป้องชื่อเสียง)
พฤติการณ์สาระสำคัญของคดีนี้ตามการแถลงของนายนิวัติไชย ระบุถึงกรณี ‘การวางแผนกันล่วงหน้า’ ระหว่างนักการเมือง และบริษัทสื่อ เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว โดยมีลักษณะการ ‘ฮั้ว’ กัน (ตามการชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า นักการเมือง และบริษัทสื่อ 2 แห่งข้างต้น ผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 ด้วย)
ตามเอกสารข่าวของสำนักงาน ป.ป.ช. ระบุตอนหนึ่งว่า นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบราคากลางโครงการ Roadshow จังหวัดหนองคายและจังหวัดนครราชสีมา ในวงเงิน 40 ล้านบาท ซึ่งตรงกับข้อเสนอด้านราคาของบริษัท มติชนฯ ที่ได้ยื่นไว้ต่อผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และได้มีการสืบราคาเพิ่มเติมจากสื่อ จำนวน 3 ราย แต่เป็นสื่อในเครือเดียวกับบริษัท มติชนฯ ทั้งสิ้น และในวันเดียวกันบริษัท มติชนฯ ได้ยื่นเอกสารเสนอราคา ซึ่งนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายนิวัฒน์ธำรง ก็เห็นสมควรอนุมัติจัดจ้าง บริษัท มติชนฯ เป็นผู้รับจ้างจัดโครงการ Roadshow 2 จังหวัดดังกล่าว และมอบอำนาจให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลางลงนามในหนังสือสั่งจ้างต่อไป โดยกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจนถึงขั้นตอนการลงนามในหนังสือสั่งจ้างใช้เวลาดำเนินการเพียง 2 วัน เท่านั้น
ต่อมานายสุรนันทน์ และนายนิวัฒน์ธำรง ได้ร่วมกันอนุมัติหลักการจัดโครงการ Roadshow อีก 10 จังหวัดที่เหลือ วงเงิน 200 ล้านบาท โดยครั้งนี้ นายสุรนันทน์ และนายนิวัฒน์ธำรง ได้อนุมัติให้นำราคากลางที่ได้กำหนดตรงกับข้อเสนอด้านราคาของบริษัท มติชนฯ ไว้แล้วมาเป็นราคากลาง โดยแบ่งการจัดจ้างเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 5 จังหวัด โดยตกลงแบ่งงานให้บริษัท มติชนฯ และบริษัท สยามสปอร์ตฯ บริษัทละ 5 จังหวัด โดยในส่วนของบริษัทสยามสปอร์ตฯ มีนายระวิ โหลทอง ลงนามยื่นเอกสารการเสนอราคาด้วยตนเอง ซึ่งนายสุรนันทน์ และนายนิวัฒน์ธรง เห็นสมควรอนุมัติจัดจ้างทั้งสองบริษัทดังกล่าว
กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจนถึงขั้นตอนการลงนามในหนังสือสั่งจ้างใช้เวลาดำเนินการเพียงวันเดียวเท่านั้น โดยครั้งนี้ได้เบิกจ่ายจากงบประมาณประจำปี 2557 ค่าใช้จ่ายในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แต่พบว่าการลงนามในหนังสือสั่งจ้างได้กระทำไปก่อนที่ได้รับเงินประจำงวดจากสำนักงบประมาณ ทั้งที่ส่วนราชการทราบดีว่าการลงนามในหนังสือสั่งจ้างได้ ก็ต่อเมื่อสำนักงบประมาณได้แจ้งจัดสรรเงินงบประมาณมาให้แล้วเท่านั้น (ใบงวด) ตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502
นี่เป็นเหตุผลเพียงส่วนหนึ่งที่นำไปสู่การชี้มูลความผิดดังกล่าว
ทั้งนี้ในการแถลงข่าวของรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้เปิดเผย ‘ไทม์ไลน์’ ที่มาที่ไปของโครงการนี้ด้วย โดยระบุตอนหนึ่งว่า เมื่อเดือน ส.ค. 2556 ภายหลังคณะรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้มอบหมายให้นายสุรนันทน์ ดำเนินโครงการประชาสัมพันธ์โครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านขนส่งของประเทศด้วย โดยนายสุรนันทน์ ได้เชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างไม่เป็นทางการประชุมหลายครั้งภายในบริเวณทำเนียบรัฐบาล
โดยปรากฏชื่อนายฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการบริษัท มติชนฯ (ขณะนั้น) และตัวแทนบริษัท สยามสปอร์ตฯ เข้าพบนายสุรนันทน์ เพื่อประสานงานและเตรียมการเป็นผู้รับจัดงานโครงการดังกล่าวด้วย (ดูเอกสารประกอบ)
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2556 น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี (ขณะนั้น) ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำเนียบรัฐบาล เคาะจัดโรดโชว์โครงการดังกล่าว ประเดิมที่ จ.หนองคายเป็นแห่งแรก ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่บริษัท มติชนฯ และบริษัท สยามสปอร์ตฯ นำเสนอ Presentation และในที่ประชุม หน้าห้องของนายสุรนันทน์ได้นำเจ้าหน้าที่บริษัท มติชนฯ มาแนะนำตัวว่าจะมาเป็นผู้รับจ้างกับ ผอ.สำนักบริหารกลาง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2556 บริษัท มติชนฯ มีหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ขอความอนุเคราะห์ประสานงานให้แต่ละจังหวัดอำนวยความสะดวกในเรื่องต่าง ๆ ระบุว่า บริษัท มติชนฯ และบริษัท สยามสปอร์ตฯ ได้รับมอบหมายจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้จัดนิทรรศการและเสวนา โดยใช้ชื่องานว่า ‘สร้างอนาคตไทย 2020’ ซึ่งจะจัดสัญจรในจังหวัดต่าง ๆ 12 จังหวัดทั่วประเทศ
ถัดมาเพียงวันเดียว 24 ก.ย. 2556 นายสุรนันทน์ อนุมัติหลักการโครงการดังกล่าว 2 จังหวัดที่ หนองคาย และนครราชสีมา เป็นเงิน 40 ล้านบาท
ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2556 กระทรวงมหาดไทย แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด 12 แห่ง ขอให้อำนวยความสะดวกแก่บริษัท มติชนฯ และบริษัท สยามสปอร์ตฯ ในการจัดนิทรรศการ
หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2556 นายกรัฐมนตรี (น.ส.ยิ่งลักษณ์) เป็นประธานเปิดงานแถลงข่าวโครงการโรดโชว์ดังกล่าว ที่จะจัดขึ้นใน 12 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีบริษัท มติชนฯ และบริษัท สยามสปอร์ตฯ มีส่วนในการจัดงานแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย
ก่อนเริ่มกระบวนการจัดจ้างอย่างเป็นทางการ มีเจ้าหน้าที่บริษัท มติชนฯ มาพบ ผอ.สำนักบริหารกลาง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยื่นเอกสารข้อเสนอด้านราคา วงเงิน 40 ล้านบาท
ต่อมาเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2556 บริษัท มติชนฯ ยื่นเอกสารการเสนอราคาและต่อรองราคา แต่งตั้งคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ และกำหนดราคากลางวงเงิน 40 ล้านบาท แต่ไม่ระบุเลขสารบรรณ เนื่องจากจองเลขไว้ แต่จัดทำไม่ทันวันที่ 1 ต.ค. 2556 แต่ต้องลงวันที่ในรายงานเป็นวันที่ 1 ต.ค. 2556 เนื่องจากเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขใน TOR และหนังสือสั่งจ้าง
วันเดียวกันนายสุรนันทน์ เสนอเห็นควรจัดจ้างบริษัท มติชนฯ ให้นายนิวัฒน์ธำรง อนุมัติ โดยนายนิวัฒน์ธำรง อนุมัติตามที่เสนอ
หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 4-6 ต.ค. 2556 หลังจากลงนามสั่งจ้างในวันที่ 1 ต.ค. 2556 บริษัท มติชนฯ ได้จัดนิทรรศการ ณ จังหวัดหนองคายเป็นจังหวัดแรกได้ทันวันที่ 4 ต.ค. 2556 เพราะเตรียมการล่วงหน้าไว้แล้ว
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ต.ค. 2556 นายสุรนันทน์ อนุมัติหลักการจัดโครงการโรดโชว์อีก 10 จังหวัด วงเงิน 200 ล้านบาท ถัดมา 11 ต.ค. 2556 นายสุรนันทน์เสนอไปยังนายนิวัฒน์ธำรง และอนุมัติตามที่เสนอ และวันเดียวกันคณะกรรมการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ เห็นควรจ้างบริษัท มติชนฯ และบริษัท สยามสปอร์ตฯ แบ่งกันจัดงานรายละ 5 จังหวัด วงเงินจังหวัดละ 20 ล้านบาท รวม 200 ล้านบาท
นี่คือไทม์ไลน์เงื่อนปมสำคัญในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการโรดโชว์สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตามสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. ก่อนจะมีการชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องตามมา
อย่างไรก็ดีเมื่อวันที่ 22 ก.ค .2562 คล้อยหลังคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดไม่กี่ชั่วโมง เว็บไซต์มติชน เผยแพร่ข่าวคำให้สัมภาษณ์นายฐากูร บุนปาน รองประธานกรรมการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า การดำเนินการตามโครงการดังกล่าว เป็นไปโดยบริสุทธิ์ ถูกต้องตามกฎหมาย และระเบียบราชการ เช่นเดียวกับการดำนินการอื่นๆ ตามหลักการที่ยึดถือของบริษัทมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาของรัฐบาลใด
นอกจากนั้นแล้ว โครงการดังกล่าว ยังได้รับการตรวจสอบจาก คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ซึ่งมีตัวแทนของ ป.ป.ช. และ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) รวมอยู่ด้วย ตั้งแต่หลังมีการรัฐประหาร 2557 และใช้เวลาไต่สวนกว่า 18 เดือน และรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้อนุมัติให้จ่ายค่าเงินค่าจ้างที่ค้างอยู่ในปี 2559
ทั้งนี้ ในชั้นไต่สวน บริษัทได้ขอชี้แจงในประเด็นดังกล่าวข้างต้น แต่ไม่ได้รับโอกาสจาก ป.ป.ช. อย่างไรก็ดี บริษัทน้อมรับการตรวจสอบ และแก้ไขข้อกล่าวหาตามกระบวนการต่อไป รวมทั้งขอสงวนสิทธิ์ในทางกฎหมาย ที่จะปกป้องชื่อเสียงเกียรติภูมิของตนเองด้วย
ทั้งนี้การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ถือว่าเป็นกระบวนการขั้นต้น ผู้ถูกกล่าวหาทุกรายยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
ดังนั้นคงต้องรอดูในชั้นอัยการสูงสุด (อสส.) ว่าจะดำเนินการส่งสำนวนฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อไหร่ และท้ายที่สุดศาลฎีกาฯจะตัดสินออกมาอย่างไร?
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.แถลงชี้มูล‘ปู-สุรนันทน์-นิวัฒน์ธำรง’ฮั้วสื่อจัดอีเวนต์-มติชน จ่อฟ้องปกป้องชื่อเสียง
ย้อนปม รบ.ยิ่งลักษณ์จัดอีเวนต์ 240 ล.ก่อน ป.ป.ช.ชี้มูล‘สุรนันทน์-ปู-นิวัฒน์ธำรง’ฮั้วสื่อ?
มติ ป.ป.ช.เอกฉันท์ฟัน‘สุรนันท์’-ข้างมากชี้มูล‘ปู-นิวัฒน์ธำรง-2 บิ๊กสื่อ’ฮั้วจัดอีเวนต์ 240 ล.
ป.ป.ช.ชี้มูลผิดคดี'บิ๊ก'รบ.ยิ่งลักษณ์ ฮั้ว 2 สื่อใหญ่จัดอีเวนต์ 240 ล.-สัปดาห์หน้าแถลง
อนุฯ ป.ป.ช.สรุปคดี‘ปู-นิวัฒน์ธำรง-สุรนันทน์’ฮั้ว 2 บิ๊กสื่อจัดอีเวนต์ 240 ล.-กก.ชุดใหญ่ชี้ขาด
ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา ‘ยิ่งลักษณ์-สุรนันท์-นิวัฒน์ธำรง’ พวก 17ราย คดีฮั้วจัดอีเวนต์ 240 ล.
ประมวล“ข้อสังเกต-คำถาม” รัฐบาลยิ่งลักษณ์ จ้างสื่อใหญ่จัดอีเวนต์ 240 ล.
เก็บตก!!ข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจ"ปชป."ชำแหละงบพีอาร์สร้างชาติ 240ล.
"สตง."ตั้งทีมติดตามข้อมูล"รบ.ยิ่งลักษณ์"จ้าง"สื่อเอกชน"จัดอีเวนต์ 240 ล.
พิลึก"รบ."ประกาศราคากลางหลังใช้“วิธีพิเศษ”จ้างอีเวนต์กม.เงินกู้2ล้านล.
ผู้ว่าฯสุราษฎร์ฯเกณฑ์คนร่วมอีเวนต์กม.เงินกู้2ล้านล.ที่ปชป.ยำใหญ่ในสภา
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/