"...ปัญหาจากการติดเชื้อที่เกิดขึ้นในย่านกลางคืนนั้น ทำให้นางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียวจำเป็นต้องหารือกับนายยาสุโทชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่ในเวลาต่อมา นางยูริโกะ จะออกมาตรการเร่งด่วนให้ผู้ที่ทำงานอยู่ในไนท์คลับและธุรกิจบันเทิงต่างๆ ให้เข้ารับการตรวจหาโรคโควิดทั้งหมด ... ประเทศสเปนได้คลายล็อกให้มีการเปิดบริการทั้งดิสโก้และไนท์คลับกันตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ทางรัฐบาลสเปนได้ออกมาตรการว่า ห้ามเต้นในไนท์คลับโดยเด็ดขาด ..."
หนึ่งในประเภทธุรกิจของประเทศไทย ที่ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนเรื่องการผ่อนผันในการเปิดดำเนินธุรกิจช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คือ สถานบันเทิง ร้านนวด ผับ บาร์ เพราะหลายฝ่ายยังคงมีความกังวลว่า อาจจะเป็นจุดเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดรอบใหม่ เนื่องด้วยกิจกรรมธุรกิจในยามราตรีนั้นเป็นเรื่องยากลำบากต่อการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
แต่ทว่าในความเป็นจริง การเลื่อนเปิดธุรกิจสถานบันเทิงยามค่ำคืนเหล่านี้ไปอย่างไม่มีกำหนด ก็ส่งผลทำให้แรงงานในภาคธุรกิจคนกลางคืน ต้องประสบปัญหาการดำรงชีวิตอยู่ไม่น้อย และหลายประเทศก็เริ่มเรียกร้องให้มีการปลดล็อกธุรกิจเหล่านี้กลับมา
น่าสนใจว่าในต่างประเทศ การเปิดดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงยามค่ำคืน ในช่วงสถานการณ์โควิด มีเกิดขึ้นในประเทศไหนบ้าง ผลดีและผลเสียเป็นอย่างไร?
สำนักข่าวอิศรา (www.israranews.org) สืบค้นข้อมูลรายงานข่าวต่างประเทศ พบว่า ในประเทศญี่ปุ่น กำลังเผชิญหน้าปัญหาการติดเชื้อโควิด จากกลุ่มคนที่เกี่ยวกับธุรกิจในยามราตรี
โดยเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ทำการกรุงโตเกียว พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่จำนวน 26 ราย ในจำนวนนี้ 12 ราย เป็นพนักงานชายในบาร์โฮสต์คลับ ย่านชินจูกุ มีอายุตั้งแต่ 20-30 ปี
ต่อมาในวันที่ 7 มิ.ย. ก็มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีกจำนวน 14 ราย 6 รายในนั้น เกี่ยวข้องกับผู้คนที่ทำกิจกรรมย่านกลางคืนในกรุงโตเกียวอีกเช่นกัน
ซึ่งปัญหาจากการติดเชื้อที่เกิดขึ้นในย่านกลางคืนนั้น ทำให้นางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียวจำเป็นต้องหารือกับนายยาสุโทชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่น
ก่อนที่ในเวลาต่อมา นางยูริโกะ จะออกมาตรการเร่งด่วนให้ผู้ที่ทำงานอยู่ในไนท์คลับและธุรกิจบันเทิงต่างๆ ให้เข้ารับการตรวจหาโรคโควิดทั้งหมด
นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า ภายหลังจากที่ญี่ปุ่น ผ่อนปรนมาตรการทางสังคมและการคลายล็อกกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ในช่วงปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ในกรุงโตเกียว ยังพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายใหม่ จาก 'โฮสต์คลับ' (ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้หญิงจ่ายเงินเพื่อให้พนักงานโฮสต์ผู้ชายเป็นเพื่อนนั่งดื่มสุราเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก) เพิ่มเติมอีกด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา กรุงโตเกียว มีประชากรประมาณ 14 ล้านคน มีการวางแผนการปลดล็อกสถานที่ต่างๆเอาไว้เป็น 3 ระดับ โดยการเปิดบูธคาราโอเกะ บาร์ต่างๆนั้นจะเป็นขั้นตอนที่ 3 ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่จัดให้อยู่ในประเภทที่ต้องดำเนินการในที่ปิด มีคนเป็นจำนวนมาก และหลีกเลี่ยงจากการมีความใกล้ชิดกับบุคคลอื่นไม่ได้ เช่น ไนท์คลับ ลานกิจกรรมดนตรี ยังไม่ได้รวมอยู่ในมาตรการ 3 ขั้นตอนของมาตรการคลายล็อกจากการเฝ้าระวังโรคโควิด
แต่แม้จะไม่มีมาตรการคลายล็อกให้กับทั้งร้านโฮสต์คลับ ไนท์คลับต่างๆ แต่ก็มีรายงานว่าสถานบันเทิงเหล่านี้ยังคงเปิดทำการ โดยเฉพาะในย่านคาบุกิโจ และพื้นที่อื่นๆรอบกรุงโตเกียว
โดยเจ้าของสถานที่เหล่านี้ ชี้แจงว่าสาเหตุที่ต้องเปิดทำการทั้งๆที่ยังไม่มีมาตรการคลายล็อกระบุชัดเจน ก็เพราะปัญหาเรื่องการสูญเสียรายได้ที่ไม่สามารถจะยอมรับได้
ภายในโฮสต์คลับของประเทศญี่ปุ่น (อ้างอิงรูปภาพจาก:https://japanese-school-asahi.com/host-clubs/)
ข้ามมาที่ทวีปยุโรปกันบ้าง สถานการณ์ล่าสุด เริ่มมีการทยอดเปิดสถานที่ประกอบการธุรกิจกลางคืนกันแล้ว อาทิ ประเทศสเปนได้คลายล็อกให้มีการเปิดบริการทั้งดิสโก้และไนท์คลับกันตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา
แต่ทางรัฐบาลสเปนได้ออกมาตรการว่า ห้ามเต้นในไนท์คลับโดยเด็ดขาด
โดยกระทรวงสาธารณสุขของสเปนได้ออกคำสั่งชัดเจนว่า สำหรับฟลอร์เต้นที่ยังคงไม่เปิดให้บริการนั้น ให้นำเอาโต๊ะมาและเก้าอี้มาวางไว้สำหรับผู้ใช้บริการ โดยต้องเว้นระยะระหว่างโต๊ะห่างกัน 2 เมตรขึ้นไป
ขณะที่ความจุของไนท์คลับนั้น ก็มีการอนุญาตให้มีลูกค้าเข้าไปใช้บริการได้แค่จำนวน 2 ใน 3 ของช่วงเวลาปกติเท่านั้น แต่อนุญาตให้มีการเปิดพื้นที่ระเบียงเพื่อใช้เป็นพื้นที่บริการได้เพิ่มเติม
ส่วนการให้บริการของไนท์คลับนั้น ได้มีการออกมาตรการว่า ผู้ให้บริการนั้นจะต้องมีการตรวจอุณหภูมิของลูกค้าในทุกกรณี และให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐในการวางระบบติดตามสุขภาพเพื่อจะตามรอยลูกค้าได้ ถ้าหากเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิดในไนท์คลับขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำจากหน่วยงานและบริษัทที่รับผิดขอบเกี่ยวกับไนท์คลับเพิ่มเติม เพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโรคโควิด อาทิ การเสนอให้สวมใส่หน้ากาก การโซนนิ่งพื้นที่ การเสนอให้ดื่มเครื่องดื่มจากหลอด การแยกโซนของดีเจให้ห่างออกจากคนอื่น และการเพิ่มพื้นที่วีไอพีให้มากขึ้นเพื่อให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคม
บรรยากาศไนท์คลับที่สเปนหลังจากการคลายล๊อกมาตรการปิดเมือง (อ้างอิงรูปภาพจากเดลี่เมล์)
ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก็มีความพยายามที่จะฟื้นฟูกิจการไนท์คลับและธุรกิจกลางคืนของบรรดาผู้ประกอบการเช่นกัน
อาทิ คลับ Doornroosje ที่เมือง Nijimegen ได้มีการขยายเวลาสำหรับกิจกรรมดนตรีไปจนถึงในช่วงบ่าย โดยให้ผู้ที่สนใจสามารถจองตั๋วกิจกรรมเข้าชมดนตรีที่คลับได้ โดยจะจำกัดจำนวนผู้เข้าชมไว้ที่ 30 คน เว้นระยะห่างระหว่างที่นั่งชมดนตรีประมาณ 1.5 เมตร ซึ่งมาตรการดังกล่าวนั้นก็ได้รับผลตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดี
โดยลูกค้ารายหนึ่งกล่าวว่า การได้ใช้เวลาฟังเพลง และบรรยากาศ แค่ประมาณ 20 นาที นั้นก็ทำให้มีความสุขแล้ว
อนึ่งก่อนหน้านี้ ทางคลับได้พยายามจะขออนุญาตให้จัดกิจกรรมดนตรี โดยการให้ลูกค้าสามารถยืนได้ แต่ทางเทศบาลเมืองก็ได้ปฏิเสธคำขอของไนท์คลับไปแล้ว
บรรยากาศภายในคลับ Doornroosje (อ้างอิงวิดิโอจากช่อง Doornroosje)
เรียบเรียงจาก:https://www.japantimes.co.jp/news/2020/06/07/national/tokyo-ask-nightclub-workers-take-virus-tests/,https://newseu.cgtn.com/news/2020-06-08/How-will-socially-distanced-nightclubs-run--R8evHwvtCM/index.html,https://internewscast.com/dance-club-hypes-post-coronavirus-social-dis-dancing-layout/
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage