“...ดังนั้นการที่นายพรชัย สั่งการให้จัดซื้อพัสดุทั้ง 4 โครงการ แต่ละโครงการมีราคาเกิน 2 ล้านบาท โดยวิธีกรณีพิเศษ โดยอ้างระเบียบกระทรวงมหาดไทยฯ ปี 2539 ประกอบมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2519 ซึ่งถูกยกเลิกไปแล้ว จึงเป็นการจัดซื้อโดยวิธีกรณีพิเศษที่ไม่มีกฎหมายหรือมติคณะรัฐมนตรีกำหนดให้จัดซื้อได้ การจัดซื้อทั้ง 4 โครงการดังกล่าวจึงขัดกับระเบียบกระทรวงมหาดไทยฯ และเป็นการเสียหายแก่รัฐ และ อบจ.อุบลราชธานี…”
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานแล้วว่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาจำคุก 20 ปี นายพรชัย โควสุรัตน์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุบลราชธานี กับพวก เป็นจำเลย กรณีจัดซื้อครุภัณฑ์ส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี งบอุดหนุนจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 2550 ที่มีองค์การค้า สกสค. เป็นผู้ขาย โดยคดีดังกล่าวนายพรชัยมิได้รับอนุญาตให้ประกันตัวแต่อย่างใด เนื่องจากศาลอุทธรณ์เห็นว่ามีพฤติการณ์ร้ายแรง (อ่านประกอบ : พฤติการณ์ร้ายแรง! ศาลไม่ให้ประกันตัว'พรชัย'หลังถูกคุก 20 ปีคดีจัดซื้อครุภัณฑ์ สกสค.)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า นอกจากนายพรชัยเป็นจำเลยที่ 1 แล้ว ยังมีนายเกษม กลั่นยิ่ง อดีตเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และรักษาการ ผอ.องค์การค้า สกสค. นายบำเรอ ภานุวงศ์ อดีตรองเลขาธิการองค์การค้า สกสค. เป็นจำเลยที่ 2 และ 3 ด้วย
เพื่อให้สาธารณชนเข้าใจที่มาที่ไปมากขึ้น สำนักข่าวอิศรา สรุปรายละเอียดคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตฯภาค 9 ให้ทราบกัน ดังนี้
ข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแบ่งเป็น 4 โครงการ ได้แก่
หนึ่ง ระหว่างวันที่ 12 ธ.ค. 2549-18 ธ.ค. 2549 นายพรชัย สั่งซื้อสื่อการเรียนการสอนทางวิทยาศาสตร์ให้กับโรงเรียน ในโครงการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ 29 โรงเรียน ภายใต้สังกัด อบจ.อุบลราชธานี กับองค์การค้า สกสค. ที่นายเกษม มีอำนาจรับผิดชอบ จำนวน 686 รายการ วงเงิน 21,630,000 บาท โดยวิธีกรณีพิเศษ โดยสินค้าดังกล่าว สกสค. ไม่ได้ผลิต แต่เป็นสินค้าของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง (บริษัท A นามสมมติ) ที่เป็นเอกชนผู้ทำสัญญาขายฝากและสัญญาความร่วมมือทางการค้ากับ สกสค. โดย สกสค. ได้รับบำเหน็จตอบแทนร้อยละ 5 ของยอดจำหน่าย
สอง ระหว่างวันที่ 26 ธ.ค. 2550-28 ธ.ค. 2550 นายพรชัย สั่งซื้อตามโครงการจัดซื้อครุภัณฑ์ส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับโรงเรียนในสังกัด อบจ.อุบลราชธานี กับองค์การค้า สกสค. วงเงิน 9,985,000 บาท โดยวิธีกรณีพิเศษ มีนายบำเรอ ภานุวงษ์ เป็นผู้มีอำนาจรับผิดชอบ โดยสินค้าดังกล่าว สกสค. ไม่ได้ผลิต แต่บริษัท A เป็นผู้ผลิต ที่เป็นเอกชนผู้ทำสัญญาขายฝากและสัญญาความร่วมมือทางการค้ากับ สกสค. โดย สกสค. ได้รับบำเหน็จตอบแทนร้อยละ 5 ของยอดจำหน่าย
สาม ระหว่างวันที่ 4 ก.พ. 2551-28 ก.พ. 2551 นายพรชัย สั่งซื้อหนังสือสำหรับห้องสมุดตามโครงการพัฒนาห้องสมุดโรงเรียน จำนวน 10 โรงเรียน สังกัด อบจ.อุบลราชธานี กับองค์การค้า สกสค. ที่นายบำเรอ มีอำนาจรับผิดชอบ เป็นสินค้าของเอกชนอีก 2 แห่ง (บริษัท B และบริษัท C นามสมมติ) จำนวน 310 รายการ วงเงิน 21,980,108 บาท โดยวิธีกรณีพิเศษ โดย สกสค. ได้รับบำเหน็จตอบแทนร้อยละ 5 ของยอดจำหน่าย
สี่ ระหว่างวันที่ 19 ก.พ. 2551-7 มี.ค. 2551 นายพรชัย ดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนจำนวน 12 แห่ง ที่สังกัด อบจ.อุบลราชธานี จัดซื้อสมุดและหนังสือยืมเรียน วงเงิน 7,296,000 บาท โดยวิธีกรณีพิเศษ กับองค์การค้า สกสค. ที่นายบำเรอ มีอำนาจรับผิดชอบ เป็นสินค้าของบริษัทเอกชนอีกแห่งหนึ่ง (บริษัท D นามสมมติ) โดย สกสค. ได้รับบำเหน็จตอบแทนร้อยละ 5 ของยอดจำหน่าย
รวมวงเงินทั้ง 4 โครงการ 60,891,108 บาท
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า การจัดซื้อทั้ง 4 โครงการข้างต้น นายพรชัย ใช้อำนาจดำเนินการจัดซื้อโดยชอบตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 และมติคณะรัฐหรือไม่ และนายเกษม และนายบำเรอ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดหรือไม่
การไต่สวนพยานหลักฐานจากการพิจารณาของศาล ประกอบรายงานการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ข้อเท็จจริงจาก ผอ.กองการศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม ที่ อบจ.อุบลราชธานี ว่า ตนเป็นผู้ดำเนินการขออนุมัติจัดซื้อทั้ง 4 กรณี โดยเสนอผ่าน ผอ.กองพัสดุและทรัพย์สินถึงนายพรชัย เพื่อพิจารณาอนุมัติ โดยเสนอเพื่อพิจารณาให้กองพัสดุฯ ดำเนินการตรวจสอบและพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษจากองค์การค้า สกสค.
ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องใน อบจ.อุบลราชธานี ให้ถ้อยคำว่า ก่อนการจัดซื้อพัสดุทั้ง 4 โครงการ นายพรชัย แจ้งให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ ทราบว่ามีนโยบายจัดซื้อพัสดุทั้ง 4 โครงการดังกล่าวด้วยวิธีกรณีพิเศษ กำชับให้จัดซื้อโดยตรงกับองค์การค้า สกสค. อย่างเร่งด่วน และแนะนำให้ติดต่อประสานงานกับบุคลชื่อ ‘แตน’ ผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัท A และบุคคลชื่อ ‘โต้ง’ และชื่อ ‘เกริก’ โดยหัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ แจ้งให้หัวหน้าฝ่ายพัสดุ และเจ้าหน้าที่พัสดุทราบนโยบายของนายพรชัยแล้ว ให้ดำเนินการจัดซื้อให้แล้วเสร็จโดยเร็วตามที่ได้รับคำสั่งจากนายพรชัย จึงรีบดำเนินจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้อง กระทั่งนายพรชัยลงนามในสัญญาซื้อขายกับองค์การค้า สกสค. โดยวิธีกรณีพิเศษทั้ง 4 โครงการ ซึ่งเป็นการจัดซื้อแต่ละโครงการใช้ระยะเวลาการดำเนินการไม่นาน
จากข้อเท็จจริงที่ได้ความดังกล่าว ฟังได้ว่า นายพรชัย สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยยข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างซึ่งมีหัวหน้าเจ้าหน้าที่พัสดุ หัวหน้าฝ่ายพัสดุ และเจ้าหน้าที่พัสดุ ดำเนินการจัดซื้อพัสดุทั้ง 4 โครงการ โดยกำหนดให้จัดซื้อโดยวิธีกรณีพิเศษและดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และให้ติดต่อประสานข้อมูลรายละเอียดของพัสดุที่จะจัดซื้อกับบุคคลที่นายพรชัยแนะนำไว้คือ ‘แตน’ ‘โต้ง’ และ ‘เกริก’
ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุฯ และมติคณะรัฐมนตรี ในการจัดซื้อพัสดุทั้ง 4 โครงการจะต้องจัดซื้อให้เป็นไปตามระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว โดยการจัดซื้อจัดจ้าง 4 โครงการดังกล่าว แต่ละโครงการมีราคาเกิน 2 ล้านบาท ขณะที่ระเบียบกระทรวงมหาดไทยฯ กำหนดว่าการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีประกวดราคาได้แก่ การจัดซื้อหรือการจ้างครั้งหนึ่งที่มีราคาเกิน 2 ล้านบาท ส่วนการจัดซื้อวิธีกรณีพิเศษนั้น คือการซื้อกับหน่วยงานของรัฐ โดยหน่วยงานรัฐดังกล่าวต้องเป็นผู้ผลิตวัสดุหรือทำงานจ้างนั้นเอง
เมื่อพิจารณาจากการจัดซื้อแต่ละโครงการใช้งบเกิน 2 ล้านบาท การจัดซื้อต้องดำเนินการโดยวิธีประกวดราคามิใช่วิธีกรณีพิเศษ แต่หากจัดซื้อโดยวิธีกรณีพิเศษ ต้องให้มีกฎหมายหรือมติคณะรัฐมนตรีกำหนดให้ซื้อหรือจ้าง ดังนั้นการที่นายพรชัย สั่งการให้จัดซื้อพัสดุทั้ง 4 โครงการ แต่ละโครงการมีราคาเกิน 2 ล้านบาท โดยวิธีกรณีพิเศษ โดยอ้างระเบียบกระทรวงมหาดไทยฯ ปี 2539 ประกอบมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2519 ซึ่งถูกยกเลิกไปแล้ว จึงเป็นการจัดซื้อโดยวิธีกรณีพิเศษที่ไม่มีกฎหมายหรือมติคณะรัฐมนตรีกำหนดให้จัดซื้อได้ การจัดซื้อทั้ง 4 โครงการดังกล่าวจึงขัดกับระเบียบกระทรวงมหาดไทยฯ และเป็นการเสียหายแก่รัฐ และ อบจ.อุบลราชธานี
การกระทำของนายพรชัย เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ อบจ.อุบลราชธานี ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต มุ่งหมายมิให้มีการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม เอื้ออำนวยแก่องค์การค้า สกสค. ผิดตาม พ.ร.บ.เกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว) มาตรา 12
นายพรชัย ต่อสู้คดีว่า ก่อนจัดซื้อ 4 โครงการดังกล่าว มี อบจ.แห่งอื่นจัดซื้อจัดจ้างกับองค์การค้า สกสค. โดยวิธีกรณีพิเศษก่อนแล้ว จึงเชื่อโดยสุจริตใจว่า สามารถทำได้ โดยมิได้มีเจตนาหลีกเลี่ยงไม่กระทำตามมติคณะรัฐมนตรี
ศาลเห็นว่า จากข้อเท็จจริงนายพรชัย สั่งการให้เจ้าหน้าที่ อบจ.อุบลราชธานี ดำเนินการจัดซื้อพัสดุโดยวิธีกรณีพิเศษ โดยเจ้าหน้าที่จัดซื้อตามคำสั่งการของนายพรชัย การที่นายพรชัย อ้างว่า เชื่อโดยสุจริตใจว่าสามารถทำสัญญาซื้อขายกับองค์การค้า สกสค. โดยวิธีกรณีพิเศษได้ มิได้มีเจตนานั้น เป็นข้ออ้างไม่น่าเชื่อถือพอที่จะรับฟังให้เป็นคุณว่ามิได้กระทำผิดตามฟ้องแต่อย่างใด
ส่วนนายเกษม และนายบำเรอ เป็นผู้สนับสนุนให้ความช่วยเหลือแก่นายพรชัยในการจัดซื้อพัสดุทั้ง 4 โครงการหรือไม่นั้น จากรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. พบว่า เมื่อ อบจ.อุบลราชธานี ประสงค์จัดซื้อกับองค์การค้า สกสค. จึงดำเนินการขาย ส่วนการจัดซื้อโดยวิธีกรณีพิเศษที่ขัดกับระเบียบกระทรวงมหาดไทยฯนั้น นายเกษม และบำเรอ ไม่ได้เป็นผู้มีส่วนกำหนดในวิธีการดำเนินการทั้ง 4 โครงการดังกล่าวว่าจะต้องใช้วิธีใดในการจัดซื้อจัดจ้าง
แม้ข้อเท็จจริงจากคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. พบว่า นายเกษม และนายบำเรอ มิได้แจ้งให้ อบจ.อุบลราชธานี ทราบว่ามีหนังสือกรมบัญชีกลางยืนยันสิทธิพิเศษขององค์การค้าคุรุสภาว่า หนังสือมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2519 ถูกยกเลิกแล้ว และมิได้แจ้งว่าสินค้าและครุภัณฑ์ที่ อบจ.อุบลราชธานีสั่งซื้อ องค์การค้า สกสค. ไม่ได้เป็นผู้ผลิต หากแต่เป็นสินค้าและผลิตภัณฑ์จากเอกชนทำการฝากขาย การกระทำของนายเกษม และนายบำเรอ ดังกล่าว เป็นแต่เพียงความบกพร่องในหน้าที่ มิใช่เป็นการสนับสนุนให้ความช่วยเหลือนายพรชัย แต่อย่างใด
พิพากษาว่า นายพรชัย มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) พ.ร.บ.ฮั้วฯ มาตรา 12 การกระทำเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษนายพรชัยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวม 4 กระทง ให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ฮั้วฯ ที่เป็นบทที่มีโทษหนักสุด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 4 กระทง เป็นโทษจำคุก 20 ปี ยกฟ้องนายเกษม และนายบำเรอ
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.ฟันซ้ำ! ‘พรชัย’นายก อบจ.อุบลฯ 2 คดี เช่ารถโดยมิชอบ-ซื้อสื่อการสอน
เมียอดีตนายก อบจ. จดทะเบียนซื้อที่ดิน อ.เมืองอุบลฯ 16 แปลง
พบ‘หญิงสาว’ ผู้แทน ‘ลูก’อดีตนายก โผล่‘ถือหุ้นใหญ่’ บ.รับเหมา อบจ.อุบลฯ
‘หุ้นใหญ่’บ.เจ้าของโฉนด 29 แปลง จ.อุบลฯ ที่แท้‘ผู้แทน’อดีตนายกโอนที่ให้ลูกสาว
ตามหาคนขายที่ดินให้ บ.ใกล้ชิดบิ๊ก อบจ.อุบลฯ 'เจ้าของบ้าน'อ้างอยู่อีกหลังแต่'ร้าง'
ขมวด 9 เรื่องฉาว อบจ.อุบลฯ ‘ผล ปย.ทับซ้อน’-รก.นายก ลูกน้องผู้บริหารคนเดิม
เปิดภาพถ่ายชัดๆ ที่ดิน บ.คนใกล้ชิดนักการเมือง ใกล้อ่างเก็บน้ำ จ.อุบลฯ 29 แปลง
ล็อคสอบภาษีบิ๊กธุรกิจ 48 ราย จ.อุบลฯ-บ.เครือข่ายนักการเมือง อบจ.โดนด้วย
เปิด บ.คนใกล้ชิดนักการเมือง ซื้อที่ดิน จ.อุบลฯ บิ๊กลอต 29 แปลงเกือบ 400 ไร่
โฉมหน้า 2 บ.ถูกอ้างอิง 'ราคากลาง' รถชมวิว อบจ.อุบลฯ คันละ 1 ล.-แห่งแรก'บ้านพัก'
ผลสอบลับ! ฉบับผู้ว่าฯ จัดซื้อ 3 โครงการ 142 ล. อบจ.อุบลฯ ‘มีมูลทุจริต’
เปิดโฉนดที่ดิน‘เมีย’ นักการเมือง ใกล้โครงการตัดถนนฉาว 30 ล. อบจ.อุบลฯ
แกะรอย ‘หุ้นใหญ่’ บ.‘คู่เทียบ’ เครื่องสูบน้ำ 89 ล. ที่แท้เครือข่าย‘ลูกจ้าง’อบจ.อุบลฯ
เปิดไส้ใน ‘รถชมวิว’ฉาว อบจ.อุบลฯ คันละ 1 ล. ‘คู่เทียบ’ขายเสื้อผ้า
เผยโฉมรถชมวิว อบจ.อุบลฯ คันละ 1 ล. จาก บ.ขายรถอีแต๋น-ผู้ว่าฯสั่งสอบ
เปิดตัว บ.คู่ค้ากล้อง CCTV. อบจ.อุบลฯ 72 ล.-'หุ้นใหญ่' โต้ สตง.ปัดปลอมผลงาน
สตง.ฟัน อบจ.อุบลฯจัดซื้อกล้อง CCTV -รถดับเพลิง ใช้ผลงานปลอม-ล็อคสเปค
เปิดปม!จัดซื้อกล้อง CCTV อบจ.อุบลฯ 72 ล. จาก บ.ปริศนา ซ่อมคอมฯ
บ.‘คู่เทียบ’จัดซื้อเครื่องสูบน้ำ อบจ.อุบลฯ 338 ล. โยง‘ห้องเรียนอัจฉริยะ’ 280 ล.
อบจ.อุบลฯ จัดซื้อเครื่องสูบน้ำบิ๊กลอต 338 ล. หจก.เครือญาตินักการเมือง
ชัดๆ 9 อปท.จัดซื้อรถบรรทุกจาก บ.ที่ตั้ง'บ้านฝาสังกะสี'- 'เครือข่าย' เป็น'คู่เทียบ'
บ.ที่ตั้ง‘บ้านฝาสังกะสี’ผู้ประกวดราคา อบจ.อุบลฯ คว้าจัดซื้อ อปท. 27 แห่ง 200 ล.
อบจ.อุบลฯโชว์ข้อมูลในเว็บฯสืบ‘ราคากลาง’รถดับเพลิง 40 ล.จากเอกชน 4 ราย
เผยโฉม บ.'คู่เทียบ' รถดับเพลิง อบจ.อุบลฯ 40 ล. ตามประกบ'ผู้ชนะ' หลายแห่ง
เปิดตัว บ.ขายรถดับเพลิง อบจ.อุบลฯ40 ล. เป็นบ้านสังกะสี 'หุ้นใหญ่'เป็น พนง.ห้างฯ
ที่แท้! สืบ‘ราคากลาง’จาก บ.ซ่อมคอมฯ! อบจ.อุบลฯ จัดซื้อรถดับเพลิง 40 ล.
โชว์ชัดๆ!‘ผู้ชนะ’จัดซื้อรถดับเพลิง อบจ.อุบลฯ 40 ล.ใช้ ‘5 ตัวละคร’ เดียว‘คู่เทียบ’
อบจ.อุบลฯ ยันสร้างถนน4เลน ไม่เอื้อปย.'เมีย'ผู้บริหาร-แค่ตัดผ่านที่ดินชายชรา
เปิดโปง! อบจ.อุบลฯจัดซื้อรถดับเพลิง40 ล. ‘ผู้ชนะ-คู่เทียบ’กลุ่มเดียวกัน
ป้ายหมู่บ้านจัดสรรโผล่ปลายถนน30 ล. อบจ.อุบลฯ ชื่อพ้อง‘เมีย’นักการเมืองใหญ่
ชำแหละ พฤติการณ์ อบจ.อุบลฯ ซิกแซกงบฯก่อสร้างถนน30 ล. เอื้อเอกชน
สตง.ส่งหนังสือเบรก! อบจ.อุบลฯตัดถนน 30 ล.ผ่านป่าสงวนฯ เข้าที่ดินนักการเมือง
10 ผู้ถือหุ้นปริศนา!3 บริษัทกลุ่มเครือญาติ“พรชัย”นายก อบจ.อุบลฯ 8.8 ล้าน
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/