คลายสงสัย 'อดีตนายกฯ บางบัวทอง' หายตัวปริศนา เหตุติดคุก 9 ปี คดีทุจริตจริงหรือ?

"..ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 ซึ่งเป็นบทเฉพาะจึงไม่จำเป็นต้องปรับบทตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบททั่วไปอีก และการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152 สั่งลงโทษจำคุก 5 ปี และให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท.504/2560 คดีหมายเลขแดงที่ อท.30/2562 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางด้วย ..."

picdkdkdskkddkdkdkd10 5 63

ปรากฎเป็นข่าวไปเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า คนในพื้นที่ อ.บางบัวทอง ออกมาตั้งข้อสังเกตเรื่องการหายหน้าหายตัวไปของ ดร.อาวุธ เจริญนนทสิทธิ์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบางบัวทอง ที่ไม่ค่อยออกงานสังคมหรือไปปรากฎตัวในพื้นที่ย่านบางบัวทอง หลังจากงานบวชลูกชาย ในช่วงเดือนก.พ.2563 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะข้อมูลปรากฎว่า ดร.อาวุธ เจริญนนทสิทธิ์ ถูกศาลตัดสินจำคุก 9 ปี ไม่รอลงอาญาในคดีทุจริต และถูกส่งตัวเข้าไปอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมี.ค.2563 ที่ผ่านมา

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สืบค้นข้อมูลคดีทุจริตที่เกี่ยวกับ ดร.อาวุธ เจริญนนทสิทธิ์ พบว่า เมื่อวันที่ 27 ส.ค.2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อท.211/2561 คดีหมายเลขแดง ที่ อท.178/2562 ตัดสินลงโทษจำคุก 5 ปี ดร.อาวุธ เจริญนนทสิทธิ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกเทศมนตรีเมืองบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี กรณีเรียกรับเงินเป็นค่าตอบแทนในการจ่ายเช็คค่าจ้างโครงการก่อสร้างยกระดับถนน พร้อมวางท่อระบายน้ำ ค.ส.ล. และบ่อพัก ค.ส.ล. ถนนเทศบาล 13 (ข้างส้วมสาธารณะ) หมู่ที่ 5 ตำบลโสนลอย ซึ่งถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 , 152 และ 157 ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 พ.ค.2562

โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผดิ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 ซึ่งเป็นบทเฉพาะจึงไม่จำเป็นต้องปรับบทตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบททั่วไปอีก และการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152

สั่งลงโทษจำคุก 5 ปี และให้นับโทษจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท.504/2560 คดีหมายเลขแดงที่ อท.30/2562 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางด้วย

เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมลงมติเมื่อวันที่ 27 พ.ย.2562 ไม่เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุดจะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาเห็นควรอุทธรณ์ในส่วนมาตรา 152 ที่ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันยังสืบค้นไม่พบข้อมูลเป็นทางการว่า ภายหลังจากที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติค้านความเห็นของอัยการสูงสุดที่จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวแล้ว ความคืบหน้าคดีต่อจากนั้น เป็นอย่างไร?

และโทษของดร.อาวุธ ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท.504/2560 คดีหมายเลขแดงที่ อท30/2562 มีจำนวนกี่ปี?

จึงทำให้ ณ ขณะนี้ สามารถยืนยันข้อมูลที่ชัดเจนได้เพียงแค่ว่า ศาลฯ ได้ตัดสินคดีทุจริตของ ดร.อาวุธ เจริญนนทสิทธิ์ บางคดีไปแล้วจริง และรับโทษจำคุกอย่างน้อย 5 ปี ในขณะนี้

สำหรับข้อมูลคดีทุจริตที่เกี่ยวกับ ดร.อาวุธ เจริญนนทสิทธิ์ นั้น ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดไปแล้วก่อนหน้านี้ มี 2 กรณี คือ (1) เรียกรับเงินจากผู้รับจ้าง เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการสั่งจ่ายเงินค่าจ้างก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. ป้องกันน้ำท่วมบริเวณริมคลองบ้านกล้วยฝั่งทิศใต้ของเทศบาลเมืองบางบัวทอง อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี (2) เรียกรับเงินจากผู้รับจ้าง เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการคืนเงินค่าปรับตามมติคณะรัฐมนตรี

และยังเป็นหนึ่งในผู้บริหารหน่วยงานท้องถิ่นหลายรายที่ถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่ง ระงับการปฏิบัติราชการหรือหน้าที่ในเทศบาลเมืองบางบัวทองเป็นการชั่วคราวโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน ในช่วงเดือนก.ย.2560 ด้วย

ขณะที่ในช่วง เดือนพ.ค.2562 สำนักข่าวอิศรา เคยติดตามตรวจสอบข้อมูล กรณีดร.อาวุธ เจริญนนทสิทธิ์ ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) กรณีพ้นจากตำแหน่ง นายกเทศมนตรีเมืองบางบัวทอง วันที่ 20 ธ.ค.2561 แจ้งว่ามีเงินลงทุน 8 รายการ มูลค่า 7,895,000 บาท ในจำนวนนี้ คือ บริษัท เวิล์ดวาย-เคเบิ้ล ทีวี จำกัด จำนวน 95,000 หุ้นมูลค่า 950,000 บาท

ทว่า จากการตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่บริษัทนำส่งนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กลับไม่พบชื่อนายอาวุธ เป็นผู้ถือหุ้นในช่วงปี 2561-2562 ที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน แต่มีชื่อเครือญาตินายอาวุธเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว

(อ่านประกอบ : ชัดๆ บ.เคเบิ้ล ทีวี นายกฯบางบัวทอง โอนหายปี 54 -แจ้ง ป.ป.ช.เป็นเจ้าของ 95,000 หุ้น)

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/