อธิบายความ 13 บริษัท‘ธนาธร’ถือหุ้นสื่อ ในเอกสาร กกต. มีที่มาอย่างไร?

ไขความ 13 บริษัท ‘ธนาธร’ ถือหุ้นสื่อ มิใช่ ‘วี-ลัค มีเดีย’ ที่ กกต.รอดูคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้องก่อน ตามระบุในเอกสารเผยแพร่ฉบับ 46/2563 มีที่มา-ความนัยอย่างไร? หลังฟันอาญาแล้ว 1 คดี รู้อยู่แล้วขาดคุณสมบัติยังสมัคร ส.ส.

pictananrong.16 4 63

สืบเนื่องจากเมื่อ 14 เม.ย. 2563 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. ที่ 46/2563 วันที่ 10 มี.ค.2563 เรื่องการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทยราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ กรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ ถูกร้องว่าเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน รวม 14 บริษัท กรณีของถือหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด นั้น ในระหว่างการไต่สวนศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่ 14/2562 เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2562 ว่า นายธนาธร เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ประกอบกิจการสื่อมวลชนอยู่ ในวันที่ 6 ก.พ. 2562 อันเป็นวันที่พรรคอนาคตใหม่ได้ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยื่นต่อ กกต. เป็นลักษณะต้องห้ามมิให้นายธนาธรใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 98 (3) มีผลให้สมาชิก ส.ส.ต้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3)

ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า นายธนาธรรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อของตนเพื่อสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ มาตรา 151 ประกอบมาตรา 42 (3) ตามคำร้อง จึงมีคำสั่งให้ยุติการไต่สวน และให้ดำเนินคดีอาญาแก่นายธนาธร ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งฯ มาตรา 151 ประกอบมาตรา 42 (3) ส่วนกรณีถือครองหุ้น 13 บริษัท ให้รอผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้องก่อน (อ่านข่าวเกี่ยวข้อง : โชว์คำวินิจฉัย กกต.ฟันอาญา‘ธนาธร’คดีหุ้นสื่อ-อีก 13 บ.เครือไทยซัมมิทฯรอผลศาล รธน.)

ทั้งนี้ ในคำแถลงของ กกต.ฉบับดังกล่าวไม่ได้ระบุรายละเอียดการถือหุ้นสื่อ 13 บริษัท

หลายคนอาจสงสัยว่ากรณีการถือหุ้น 13 บริษัทของนายธนาธร มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร?

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำข้อมูลมารายงานโดยสรุปอีกครั้ง

ในช่วงระหว่างวันที่ 21 มี.ค.2562 - 10 พ.ค.2562 (อ้างอิงจากข้อมูลการนำส่งบัญชีผู้ถือหุ้น หรือ บอจ.5 ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในช่วง วันที่ 21 มี.ค.2562 , 5 เม.ย.2562 , 8 พ.ค.2562 และ 10 พ.ค.2562 ซึ่งเป็นช่วงหลังนายธนาธรลงสมัคร ส.ส.แล้ว ) นายธนาธรได้โอนหุ้นของตนเอง จำนวน 14 บริษัท รวม 50,677,470 หุ้น มูลค่า 661,775,000 บาท (รวมหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของ นางรวิพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ ภรรยา 225,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท) จำแนกเป็น

1.โอนให้นางสมพร 1 บริษัท (หุ้น วี-ลัค มีเดีย จำกัด) ซึ่ง กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว

picdkdkdccccckdkdkdk1 5 19

2.โอนไปให้นิติบุคคล คือ บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด (บริษัทนี้นายธนาธรถือหุ้น 18% โดยรับโอนจากนางสมพร เมื่อ 21 มี.ค.2562) จำนวน 11 บริษัท

3.โอนให้ นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ น้องชาย จำนวน 2 บริษัท

- 11 บริษัทที่นายธนาธรโอนหุ้นให้ บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด รวม 49,693,670 หุ้น มูลค่า 644,395,000 บาท (มูลค่าตามทุนจดทะเบียน) ในจำนวนนี้ 8 บริษัท จดแจ้งวัตถุที่ประสงค์ ของบริษัท ข้อหนึ่งว่า “ประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย และออกหนังสือพิมพ์”ได้แก่ บริษัท ไทยซัมมิท ระยอง โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด, บริษัท ไทยซัมมิท บ้านโพธิ์ จำกัด ,บริษัท ไทยซัมมิท พลาสเทค จำกัด, บริษัท ไทยซัมมิท โอโต เพรส จำกัด , บริษัท ไทยซัมมิท โอโตโมทีฟ จำกัด, บริษัท ไทยซัมมิท พีเค คอร์ปอเรชั่น จำกัด,บริษัท ไทยซัมมิท พีเคเค จำกัด และ บริษัท ไทยซัมมิท พีเคเค เอนจิเนียริง จำกัด ทั้ง 8 บริษัท นำส่งสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ.5) ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท กรมพัฒนาธุรกิจการค้า วันที่ 8 พ.ค.2562 และ 10 พ.ค.2562 โดยระบุ เลขหมายใบหุ้นลงวันที่ 08/01/2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น 08/01/2562

- 2 บริษัทที่โอนไปให้นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ จำนวน 83,800 หุ้น รวมมูลค่า 8,380,000 บาท ไม่ได้แจ้งประวัตถุที่ประสงค์เกี่ยวกับสื่อหรือหนังสือพิมพ์โดยตรง แต่ระบุว่า ประกอบกิจการค้า กระดาษ อุปกรณ์การพิมพ์ สิ่งพิมพ์ หนังสือพิมพ์ ได้แก่ บริษัท จึงพัฒนา โฮลดิ้ง จำกัด วันที่ 8 พ.ค.2562 ส่งสำเนาบัญชีผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 เม.ย.2562 โอนไปให้นายบดินทร์ธร 76,000 หุ้น เลขหมายใบหุ้นลงวันที่ 08/01/2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น 08/01/2562 และ บริษัท ที เอส ฮอโต้ เซลส์ จำกัด 30 เม.ย.2562 โอนไปให้นายบดินทร์ธร 7,800 หุ้น เลขหมายใบหุ้นลงวันที่ 08/01/2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น 08/01/2562

เท่ากับมีบริษัทที่ระบุเลขหมายใบหุ้น และ วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น 08/01/2562 (8 ม.ค.2562) หรือมีการโอนหุ้นในวันดังกล่าว 11 บริษัท (รวม บริษัท วี-ลัค มีเดีย) มูลค่าตามทุนจดทะเบียนประมาณ 394 ล้านบาท จากจำนวนหุ้นที่นายธราธรถือครอง 14 บริษัท (รวม บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด) มูลค่าประมาณ 651 ล้านบาท

รายละเอียดการโอนหุ้นทั้ง 13 บริษัท (ไม่รวมหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด)

1.บริษัท ไทยซัมมิท ฮาร์เนส จำกัด (มหาชน)

วันที่ 21 มี.ค.2562 นายธนาธรโอนหุ้น บริษัท ไทยซัมมิท ฮาร์เนส จำกัด (มหาชน) จำนวน 44,945,000 หุ้น ( 80.25%) มูลค่าหุ้นละ 5 บาท (มูลค่าตามทุนจดทะเบียน) มูลค่ารวม 224,725,000 บาท ให้ บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด (ไม่มีข้อมูลวันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น)

2. บริษัท ที เอส ฮอโต้ เซลส์ จำกัด

วันที่ 30 เม.ย.2562 โอนหุ้น บริษัท ที เอส ฮอโต้ เซลส์ จำกัด จำนวน 7,800 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท รวมมูลค่า 780,000 บาท (มูลค่าตามทุนจดทะเบียน) ไปให้นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ เลขหมายใบหุ้นลงวันที่ 08/01/2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น 08/01/2562

3.บริษัท พรีเมียม สตีล โพรเชสซื่ง จำกัด

วันที่ 30 เม.ย.2562 โอนหุ้น บริษัท พรีเมียม สตีล โพรเชสซื่ง จำกัด 2,100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท รวมมูลค่า 21 ล้าน ไปให้บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด เลขหมายใบหุ้นลงวันที่ 05/04/2562 ( 5 เม.ย.2562) วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น 05/04/2562

4.บริษัท จึงพัฒนา โฮลดิ้ง จำกัด

วันที่ 8 พ.ค.2562 โอนหุ้น บริษัท จึงพัฒนา โฮลดิ้ง จำกัด จำนวน 76,000 หุ้น (20%) มูลค่าหุ้นละ 100 บาท รวมมูลค่า 7,600,000 บาท ไปให้นายบดินทร์ธร จึงรุ่งเรืองกิจ เลขหมายใบหุ้นลงวันที่ 08/01/2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น 08/01/2562

5.บริษัท ไทยซัมมิท โกลด์ เพรส จำกัด

วันที่ 8 พ.ค.2562 โอนหุ้น บริษัท ไทยซัมมิท โกลด์ เพรส จำกัด จำนวน 20,000 หุ้น (20%) มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท รวม 20 ล้าน ไปให้ บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด เลขหมายใบหุ้นลงวันที่ 05/04/2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น 05/04/2562

6.บริษัท ไทยซัมมิท ระยอง โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด

วันที่ 8 พ.ค.2562 โอนหุ้นบริษัท ไทยซัมมิท ระยอง โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด จำนวน 1,500,000 หุ้น (20 %) มูลค่าหุ้นละ 100 บาท รวม มูลค่า 150,000,000 บาท ( 150 ล้าน) ไปให้บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด เลขหมายใบหุ้นลงวันที่ 08/01/2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น 08/01/2562

7.บริษัท ไทยซัมมิท บ้านโพธิ์ จำกัด

วันที่ 8 พ.ค.2562 โอนหุ้นบริษัท ไทยซัมมิท บ้านโพธิ์ จำกัด จำนวน 1,000,000 หุ้น (20%) มูลค่าหุ้นละ 100 บาท รวมมูลค่า 100,000,000 บาท ( 100 ล้านบาท ) ไปให้บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด เลขหมายใบหุ้นลงวันที่ 08/01/2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น 08/01/2562

pidkskdskdksdkdssdk2 10 19

picvippp002 10 19

picvipp66633p2 10 19

picvipp33p2 10 19

8. บริษัท ไทยซัมมิท พลาสเทค จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท ทีเอส พลาสเทค จำกัด)

วันที่ 8 พ.ค.2562 โอนหุ้น บริษัท ไทยซัมมิท พลาสเทค จำกัด จำนวน 40,000 หุ้น (8%) มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท รวมมูลค่า 40 ล้านบาท ไปให้บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด เลขหมายใบหุ้นลงวันที่ 08/01/2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น 08/01/2562

9.บริษัท ไทยซัมมิท โอโตโมทีฟ จำกัด

วันที่ 8 พ.ค.2562 โอนหุ้นบริษัท ไทยซัมมิท โอโตโมทีฟ จำกัด จำนวน 56,000 หุ้น ( 8 %) มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท รวมมูลค่า 56 ล้านบาท ไปให้บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด เลขหมายใบหุ้นลงวันที่ 08/01/2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น 08/01/2562

10.บริษัท ไทยซัมมิท พีเค คอร์ปอเรชั่น จำกัด

วันที่ 8 พ.ค.2562 โอนหุ้นบริษัท ไทยซัมมิท พีเค คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวน 21,000 หุ้น ( 3%) มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท รวมมูลค่า 21 ล้านบาท ไปให้บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด เลขหมายใบหุ้นลงวันที่ 08/01/2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น 08/01/2562

11.บริษัท ไทยซัมมิท พีเคเค จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท ไทยซัมมิท พีเค แหลมฉบัง จำกัด)

วันที่ 8 พ.ค.2562 โอนหุ้นบริษัท ไทยซัมมิท พีเคเค จำกัด จำนวน 9,000 หุ้น ( 3%) มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท รวมมูลค่า 9 ล้านบาท ไปให้บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด เลขหมายใบหุ้นลงวันที่ 08/01/2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น 08/01/2562

12.บริษัท ไทยซัมมิท พีเคเค เอนจิเนียริง จำกัด

วันที่ 8 พ.ค.2562 โอนหุ้น บริษัท ไทยซัมมิท พีเคเค เอนจิเนียริง จำกัด จำนวน 1,500 หุ้น ( 3%) มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท รวมมูลค่า 1,500,000 บาท ไปให้บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด เลขหมายใบหุ้นลงวันที่ 08/01/2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น 08/01/2562

13.บริษัท ไทยซัมมิท โอโต เพรส จำกัด

วันที่ 10 พ.ค.2562 โอนหุ้นบริษัท ไทยซัมมิท โอโต เพรส จำกัด จำนวน 1,170 หุ้น (0.78% ) มูลค่าหุ้นละ 1,000 บาท รวมมูลค่า 1,170,000 บาท ไปให้บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด เลขหมายใบหุ้นลงวันที่ 08/01/2562 วันลงทะเบียนผู้ถือหุ้น 08/01/2562 (อ่านเรื่องเกี่ยวข้อง:INFO: ‘ธนาธร’ กับการโอนหุ้น 14 บริษัท, โอนหุ้น วี-ลัค มีเดีย -14 บริษัท 650 ล. ไฉน! ‘ธนาธร’ไม่แจ้ง มีรายได้ ต่อ ป.ป.ช.? ,ไม่ใช่แค่ วี-ลัค มีเดีย! 8 ม.ค.62 ‘ธนาธร’ต้องได้รับเช็คค่าโอนหุ้นอีก 10 ใบ 387 ล.?,ย้อนข้อมูล‘ธนาธร’โอนหุ้น 14 บริษัทให้‘น้องชาย-ครอบครัว’ หลังแถลงทำ Blind Trust , 8 ม.ค.62 ‘ธนาธร’โอนหุ้น 11 บ. แต่รับเช็คเฉพาะ‘วี-ลัค มีเดีย’แห่งเดียวจาก‘สมพร’)

๕๑๐๖๒ ธนาธร

ก่อนหน้านี้มีนักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านประมาณ 64 ราย ถูกยื่นคำร้องขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. เนื่องจาก ถือหุ้นธุรกิจ โดยบริคณห์สนธิ จดแจ้งวัตถุที่ประสงค์ ของบริษัท ข้อหนึ่งว่า “ประกอบกิจการโรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย และออกหนังสือพิมพ์” ขณะนี้ เรื่องอยู่ในชั้นวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ(อ่านเรื่องเกี่ยวข้อง: ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่! ศาล รธน.รับคำร้อง 32 ส.ส.ฝ่ายค้านปมหุ้นสื่อ-ตีตก 1 ราย, ครบทุกชื่อ! 32 ส.ส. 6 พรรค ศาล รธน. มีมติรับคำร้องไต่สวนปมถือหุ้นสื่อ, รอด 9 ราย! ศาล รธน.รับคำร้อง 32 ส.ส. ปมถือหุ้นสื่อ-ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่)

ดังนั้น ในเอกสารเผยแพร่ กกต. ฉบับที่ 46/2563 กรณีของนายธนาธร เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2563 ระบุว่า “ส่วนกรณีถือครองหุ้น 13 บริษัท ให้รอผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้องก่อน” หมายความว่า กกต.รอผลคดีการถือหุ้นของนักการเมืองรายอื่นดังกล่าวซึ่งมีลักษณะเดียวกับ กรณี 13 บริษัท ของนายธนาธร ก่อนว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย นิยามการถือหุ้นสื่อในประเด็นดังกล่าวอย่างไร ?

ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการถือหุ้นสื่อในความหมาย ต้องประกอบกิจการสื่อจริงๆ แล้วสั่งยกคำร้อง ก็จะมีผลต่อ กกต.ในการพิจารณากรณี 13 บริษัทของนายธนาธร นั่นเอง ?

PIC คำวินิจฉัย กกต ธนาธร 77771