เบื้องหลัง! รวบแก๊งค้าหน้ากากอนามัยมือ 2 อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ตร.สนธิกำลังตรวจค้นบ้านพัก พบกลุ่มวัยรุ่นคัดแยก-ซัก-รีด บรรจุพร้อมส่งขายผ่าน Facebook เบื้องต้นโดนข้อหาฉ้อโกง เผยเบื้องลึกรับซื้อจากร้านค้าของเก่า เจ้าของชื่อ เสี่ย บ. เครือญาตินักการเมืองท้องถิ่น เหมายกลอตจาก รง.ดังย่าน ปทุมธานี
สร้างความตกตะลึงให้กับสังคมไทยอย่างมาก!
เมื่อปรากฎข่าวว่า ในช่วงวันที่ 2 มี.ค.2563 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธร (สภ.)วิหารแดง จังหวัดสระบุรี ได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่งใน อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ซึ่งเปิดเป็นร้านรับซื้อของเก่า พบกลุ่มชายวัยรุ่น จำนวน 5 ราย กำลังแบ่งหน้าที่คัดแยกหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว เพื่อนำมารีไซเคิลไปขายใหม่บนช่องทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมีมารดาของวัยรุ่นชาย 1 ใน 5 นี้ เป็นผู้ดำเนินการ
น่าสนใจว่า ขบวนการค้าหน้ากากอนามัยมือ 2 มีที่มาและวิธีการทำธุรกิจอย่างไร?
พ.ต.อ.ไพโรจน์ ตีรโสภณ ผกก.สภ.วิหารแดง เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ถึงรายละเอียดผลการเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังนี้ เพื่อทลายขบวนการค้าหน้ากากอนามัยมือ 2 ดังกล่าวว่า บ้านหลังนี้ เป็นของ นางจินตนา นามวิชัย อายุ 47 ปี ผู้เป็นมารดาของวัยรุ่นชาย 1 ใน 5 ราย ที่กำลังแบ่งหน้าที่คัดแยกหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว เพื่อนำมารีไซเคิลไปขายใหม่บนช่องทางเครือข่ายสังคมออนไลน์
ทั้งนี้ ในช่วงเข้าตรวจค้นดังกล่าว ไม่พบตัวนางจินตนา ภายในบ้าน เนื่องจากนางจินตนาออกไปทำธุระข้างนอก
อย่างไรก็ดี จากการสอบสวนลูกชาย ทราบว่า นางจินตนาผู้เป็นแม่ ทำหน้าที่เป็นผู้รับซื้อหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วมา แต่ไม่ทราบแหล่งที่ซื้อว่ามาจากที่ไหน
ส่วนลูกชายและเพื่อนอีก 4 ราย มีหน้าที่คัดแยก นำไปซักรีด โดยมีไม้ไผ่ตั้งยึดกับแท่นไม้ทแยงเป็น 4 มุมเพื่อดึงสายคาดหน้ากากอนามัยให้ตึงและใช้เตารีดรีดหน้ากากอนามัยให้เรียบก่อนนำบรรจุใส่กล่อง และประกาศขายผ่าน Facebook
@ ภาพประกอบจาก https://xn--72cac3eaq9bcv5cya9dxa1bzjl0kh6f.com/2020/03/03
เมื่อมีคนสนใจหรือสั่งซื้อก็จะทำการส่งของไปให้
พ.ต.อ.ไพโรจน์ ยังให้ข้อมูลด้วยว่า ภายหลังจากโทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลจากนางจินตนา มีการอ้างว่าไปรับซื้อหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วมาจากร้านค้าแห่งหนึ่งในเขตเดียวกัน
โดยรับซื้อมาแบบชั่งกิโล จากนั้นจะนำมาคัดแยกเพื่อนำเหล็กที่ประกอบอยู่ในหน้ากากอนามัยไปหลอมละลายนำแร่เหล็กไปขาย
"เจ้าหน้าที่พบว่าคำให้การของนางจินตนาและลูกชายไม่ตรงกัน และยังพบว่ามีผู้ร่วมกระบวนการกับนางจินตนาอีก 2 คน คือ ญาติและเพื่อน ซึ่งอ้างว่าเริ่มทำได้ 20 กว่าวัน"
"ส่วนลูกชายของนางจินตนาและเพื่อนรวม 5 คน ยังไม่ถือว่ามีความผิดเนื่องจากกรณีดังกล่าวกลุ่มวัยรุ่นนั้นทำไปเพราะรับจ้างเพื่อแลกกับเงินและไม่รู้เรื่องเนื่องจากนางจินตนาเป็นผู้ควบคุมดูแลเองทั้งหมด" พ.ต.อ.ไพโรจน์ระบุ
พ.ต.อ.ไพโรจน์ ให้ข้อมูลต่อว่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นางจินตนาและผู้ร่วมกระบวนการอีก 2 คน ตามมาตรา 271 ว่าด้วย ผู้ใดขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใด ๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพหรือปริมาณแห่งของนั้น อันเป็นเท็จ ถ้าการกระทำนั้นไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะนำคำให้การไปขยายผลการสอบสวนต่อว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิดอีกหรือไม่ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน
@พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ส่วน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า ได้รับรายงานเพิ่มเติมจาก สภ.วิหารแดง ซึ่งในกรณียังสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้อีกตาม พ..ร.บ.ควบคุมการขายทอดตลาด พ.ศ. 2474 มาตรา 4 ว่าด้วย “ห้ามมิให้ผู้ใดประกอบอาชีพขายทอดตลาดหรือค้าของเก่าเว้นแต่จะได้รับอนุญาต” ประกอบกับมาตรา 12 ว่าด้วย “ผู้ใดประกอบอาชีพขายทอดตลาดหรือค้าของเก่าโดยไม่ได้รับอนุญาต” โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
"ส่วนความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 หรือไม่นั้น ทางตำรวจจะประสานการปฏิบัติกับพาณิชย์จังหวัดเพื่อตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป" รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุ
มีข้อมูลระบุว่า บ้านที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม รับซื้อมาจากร้านขายของเก่าอีกแห่ง ชื่อ บ.ค้าของเก่า ใน อ.วิหารแดง และในวันนี้ 3 มี.ค.2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้าไปตรวจค้นที่ร้านรับซื้อของเก่า บ. เจ้าของชื่อ เสี่ย บ. เป็นเครือญาตินักการเมืองท้องถิ่น อ้างว่าขายให้นางจินตนาอย่างเดียว ไม่ทราบว่า นางจินตนาจะนำไปขายต่อ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีข้อมูลระบุว่า ร้านเสี่ย บ.รับซื้อมาจาก โรงงานชื่อดังย่านบางปะอิน ซึ่งโรงงานดังกล่าวมีพนักงานจำนวนมากใช้แล้วทิ้ง ร้านเสีย บ.รับซื้อมาทั้งโรงงาน รวมกับของเก่าอื่นๆด้วย
ท่ามกลางวิกฤตความหวาดกลัวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส 'โควิด-19' การจับกุมขบวนการค้าหน้ากากอนามัยมือ 2 จึงนับว่าเป็นเรื่องใหญ่ และสร้างความตกตะลึงให้กับคนในสังคมเป็นอย่างมาก
ส่วนขบวนการนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะสาวลึกไปเจอผู้ร่วมขบวนการรายอื่นเพิ่มเติมได้อีกหรือไม่ คงต้องติดตามดูกันต่อไปแบบห้ามกระพริบตาโดยเด็ดขาด
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage
หมายเหตุ ภาพประกอบเรื่องจาก https://www.thaipost.net/main/detail/58684