"...คณะกรรมการดำเนินการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ได้ร่วมตรวจสอบเพียงเอกสารที่ผู้เสนอราคาเสนอมาเท่านั้น โดยไม่ผิดสังเกต ทั้งๆ ที่ตั้งของบริษัททั้ง 3 บริษัทตั้งอยู่ในหมู่และตำบลและอำเภอเดียวกัน โดยพิจารณาคุณสมบัติของผู้เสนอราคา ทั้ง 3 บริษัทว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม นอกจากนี้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุตรวจรับและรับรองว่าผู้ขายได้ส่งมอบรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัยแบบกระเช้าบันไดชนิด 10 ล้อ ถูกต้องตามสัญญา ทั้ง ๆ ที่การส่งมอบรถยนต์ดังกล่าวมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามคุณลักษณะเฉพาะตามที่กำหนดไว้ในสัญญาและยังมีการนำอุปกรณ์เก่ามาประกอบรถยนต์ดังกล่าวด้วยจึงไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้..."
นับเป็นคดีจัดซื้อจ้างสำคัญที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
สำหรับการจัดซื้อรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัยแบบกระเช้าบันได ชนิด 10 ล้อ วงเงิน 29 ล้านบาท ในช่วงปี 2555 ของเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์
เพราะถ้าหากใครยังจำได้ คดีนี้ถูกระบุว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ ผู้บริหารระดับสูงของเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์รายหนึ่ง ถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจมาตรา 44 ออกคำสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีกำหนด ส่งผลทำให้ผู้บริหารระดับสูงของเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์รายนี้แสดงความไม่พอใจ ยื่นใบลาออกในเวลาต่อมา พร้อมยืนยันว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์
จากนั้นเรื่องราวก็เงียบหายไป
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบฐานข้อมูลการสอบสวนคดีของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พบว่า มีการระบุรายละเอียดการสอบสวนคดีการจัดซื้อรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัยแบบกระเช้าบันได ชนิด 10 ล้อ ของเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ไว้ดังนี้
จากการสอบสวนของ สตง. พบว่า เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ส่งประกาศประกวดราคาซื้อรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัยฯด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้หน่วยงานราชการและเอกชนจำนวน 18 หน่วยโดยมีหลักฐานให้ตรวจสอบไม่ครบถ้วน และมิได้ส่งประกาศดังกล่าวไปประกาศในเว็บไซต์ของสำนักงานท้องถิ่นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ตามประกาศกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ลงวันที่ 30 กันยายน 2553 เรื่อง หลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้างโดยการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
ขณะที่ คณะกรรมการดำเนินการประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ได้ร่วมตรวจสอบเพียงเอกสารที่ผู้เสนอราคาเสนอมาเท่านั้น โดยไม่ผิดสังเกต ทั้งๆ ที่ตั้งของบริษัททั้ง 3 บริษัทตั้งอยู่ในหมู่และตำบลและอำเภอเดียวกัน
กลับไปพิจารณาคุณสมบัติของผู้เสนอราคา ทั้ง 3 บริษัทว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
นอกจากนี้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุตรวจรับและรับรองว่าผู้ขายได้ส่งมอบรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัยแบบกระเช้าบันไดชนิด 10 ล้อ ถูกต้องตามสัญญา ทั้ง ๆ ที่การส่งมอบรถยนต์ดังกล่าวมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามคุณลักษณะเฉพาะตามที่กำหนดไว้ในสัญญาและยังมีการนำอุปกรณ์เก่ามาประกอบรถยนต์ดังกล่าวด้วยจึงไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
จากการตรวจสอบพบว่า อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้น้ำมันไฮโดรลิครั่วซึม สลักเท้าช้าง และโครงการอุปกรณ์เชื่อม ไม่มีคุณภาพ บันไดกู้ภัยหมุนไม่ได้ 360 องศาการทำงานกระเช้าฉีดน้ำ เท้าช้างควบคุมด้วยมืออุปกรณ์บันไดกู้ภัยและระบบฉีดน้ำดับเพลิงไม่สามารถทำงานพร้อมกัน การสาธิตการใช้นำ้ยาโฟมไม่สามารถดับเพลิงได้อย่างรวดเร็ว มีแต่น้ำออกมา น้ำยาโฟมออกน้อยมาก การสาธิตใช้ผงเคมีไม่สามารถดับเพลิงได้อย่างรวดเร็วสายท่อยางไม่สามารถดึงออกมาได้เนื่องจากไม่มีลูกรอกในการเคลื่อนสาย ดึงได้ 12 เมตร จากทั้งหมด 50 เมตร
เมื่อตรวจสอบการใช้งานอุปกรณ์ทั่วไปพบว่า ท่อสูบน้ำมีสภาพเก่าและปูดบวมสายท่อยางส่งน้ำยาโฟมไม่มีมอก.หัวฉีดผงเคมีดับเพลิงไม่ได้คุณภาพและมีสภาพเก่า ก้นถังไฮโดรเจนดับเพลิงมีสนิมขึ้น ประกอบกับวิศวกรเครื่องกลชำนาญการพิเศษ สำนักมาตรการป้องกันสาธารณภัย(ผู้เชี่ยวชาญรถยนต์ดับเพลิง) ได้มีความเห็นว่าถังบรรจุน้ำ/โฟมได้กำหนดมาตรฐาน มอก.แต่ไม่มีระบุรหัสจึงไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ และถังบรรจุน้ำ ทำด้วยเหล็กไม่มีการเคลือบกันสนิม เครื่องสูบน้ำดับเพลิงระบบดับเพลิงด้วยเคมีและอุปกรณ์ในระบบไฮดรอลิคและหน้าปัดแผงควบคุมเชื่อว่าอุปกรณ์ผ่านการใช้งานมาแล้ว รอยเชื่อมอุปกรณ์ไม่มีคุณภาพ เช่น ตีนขับ กระบอกไฮดรอลิครั่วซึม ระบบการทำงานต่างๆ เช่น อุปกรณ์บันไดกู้ภัย , ระบบดับเพลิงไม่เป็นแบบอัตโนมัติและทดสอบการหมุนของบันไดกู้ภัยไม่สามารถทำงานได้ตามข้อกำหนด (หมุนได้ 360 องศา) และรถยนต์ดับเพลิงกู้ภัยฯ ส่งมอบวันที่ 5 ตุลาคม 2555 ถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2556 (7 เดือนกว่า) มีการซ่อมแซมจำนวน 3 ครั้ง ทำให้ทางราชการได้รับความเสียหายเป็นเงิน 29.99 ล้านบาท
เบื้องต้น สตง. ได้มีการชี้มูลให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องแจ้งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้วซึ่งผลการดำเนินการทางอาญาได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีอาญาแล้วสำหรับผลการดำเนินการทางแพ่ง ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดและผลการดำเนินการทางวินัย มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงผู้บริหารระดับสูงของเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์
ส่วนความคืบหน้าผลสรุปการสอบสวนคดีนี้เป็นอย่างไร ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนเป็นทางการในขณะนี้
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/