"...ผมก็รู้ว่าอันนี้มันเป็นจุดที่คนจะเอามาตีผมอยู่ตลอดเวลาในจุดนี้ ผมก็เลยตัดสินใจขายไป ก็ขายไปตั้งแต่ประมาณวันที่ 2 ที่ 3 ก.ค. ผมเตรียมไว้หมดแล้วเอกสารอะไรต่างๆ แต่ไม่จำเป็นต้องไปให้ใครดู ใครจะมาถามให้ผมไปแสดงที่ไหนที่ต้องทำตามกฎหมายผมก็พร้อม..."
ดูเหมือนว่า ปัญหาข้อสังเกตเรื่องผลประโยขน์ทับซ้อน ระหว่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขผู้กำกับดูแลกระทรวงคมนาคม กับ บริษัท ซิโน-ไทยเอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทยักษ์ใหญ่ก่อสร้าง ที่ปรากฎชื่อแข่งขันงานโครงการขนาดใหญ่ในกระทรวงคมนาคม หลายสัญญามูลค่านับแสนล้านบาท อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากบริษัท ซิโน-ไทยฯ เป็นธุรกิจในครอบครัว และปัจจุบันชื่อของนายอนุทิน ก็ยังถูกระบุในฐานทะเบียนข้อมูลผู้ถือหุ้น บริษัท ซิโน-ไทยฯ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ยังคงถือครองหุ้นอยู่จำนวน 4.6% หรือ 71,550,128 หุ้น มูลค่านับพันล้านบาท
จะเป็นประเด็นร้อนที่สังคมให้ความสนใจ และจับตามองเป็นอย่างมาก ยิ่งเมื่อ นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ(คตส.) ออกมาชี้เป้า ความเสี่ยงเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนของนายอนุทิน ในสัญญาคมนาคม กรณี บริษัท ซิโน-ไทยฯ ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ก็ยิ่งทำให้เรื่องนี้ ร้อนแรงมากขึ้นไปอีก
แต่ดูเหมือนว่าปัญหานี้ สำหรับนายอนุทิน ชาญวีรกูล จะคลีคลายลงไปแล้ว เมื่อล่าสุด ในระหว่างการสัมภาษณ์ในรายงาน LIVE เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand 17 ต.ค.62 นายอนุทิน ยืนยันชัดเจนว่า ได้ขายหุ้นบ.ซิโน-ไทยฯ ที่ถืออยู่ไปหมดแล้ว
“ผมขายหมดตั้งแต่ เดือน ก.ค. ก่อนที่จะมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เพราะว่าก่อนได้รับตำแหน่งเนี่ย ทางเลขาธิการ ครม. เขาจะส่งแบบสอบถามและแบบปฏิบัติมาให้เราเคลียร์ตัวเอง ว่า หากมีคุณสมบัติใดๆ ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็ไปรีบจัดการให้เรียบร้อย ในส่วนอะไรที่ถือเกิน 5 % ก็ไปตั้งบริษัทจัดการทรัพย์สินมา และก็ยกทรัพย์สินไปให้เขาจัดการ ก็ตามรัฐธรรมนูญทุกอย่าง"
"พอดีผมถือไม่เกิน 5 % แต่ผมก็คิดไปคิดมา คิดแล้วคิดอีก เพราะนี่เป็นสิ่งที่คุณพ่อผม ทำไว้ให้ผม ..ซึ่งผมก็รู้ว่าอันนี้มันเป็นจุดที่คนจะเอามาตี ผมอยู่ตลอดเวลา ในจุดนี้ ผมก็เลยตัดสินใจขายไป ก็ขายไปตั้งแต่ประมาณวันที่ 2 ที่ 3 ก.ค. ผมเตรียมไว้หมดแล้วเอกสารอะไรต่างๆ แต่ไม่จำเป็นต้องไปให้ใครดู ใครจะมาถามให้ผมไปแสดงที่ไหนที่ต้องทำตามกฎหมายผมก็พร้อม"
“ส่วนที่ไปเปิดดูแล้ว ยังเห็นชื่ออยู่ ผมไม่ทราบ ซึ่งเรื่องการปิดทะเบียนผู้ถือหุ้นต้องดูตรงนี้ด้วย คือ นายทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ ก็คือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในช่วงก.ค. จนถึงปัจจุบันนี้ ถ้าบริษัทไหนก็ตาม ยังไม่มีการประชุมผู้ถือหุ้น หรือยังไม่มีการจ่ายเงินปั่นผล หรือไม่มีการประกาศเพิ่มทุน ก็ยังไม่ต้องไปปิดทะเบียน จนกว่าจะมีการประกาศ XP, Sp อะไรพวกนี้ เขาถึงจะมีการปิดทะเบียน ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ตรงนั้น ชื่อผมก็คงจะถูกลบออกไปจากการเป็นผู้ถือหุ้นแล้ว”
(ฟังคำชี้แจงนายอนุทิน เรื่องการขายหุ้นตั้งแต่นาที 10.57 น.)
ขณะที่จากการสืบค้นข้อมูลการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2562 ที่ผ่านมา มีการซื้อขายหุ้นบนกระดานรายใหญ่ (บิ๊กล็อต) ของ บมจ. ซิโน-ไทยฯ 1 รายการ 80,664.46 หุ้น ที่ราคา 26 บาทต่อหุ้น มูลค่า 2,098.8 ล้านบาท ข้อมูลตรงตามที่นายอนุทิน ระบุไว้ (ดูเอกสารประกอบ)
แต่ที่น่าสนใจ คือ การซื้อขายหุ้นบิ๊กล็อต ไม่ได้เป็นการซื้อขายหรือทำรายการตามปกติในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ผู้ซื้อและผู้ขายจะมีการเจรจาตกลงราคากันนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ
เมื่อตกลงกันได้แล้ว จึงมาทำรายการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อจะได้ไม่ต้องมีปัญหาในเรื่องการเสียภาษี
แต่ในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ใครจะมีเงินจำนวนมากถึง 2,098.8 ล้านบาท มาซื้อหุ้นบ.ซิโน-ไทยฯ บิ๊กล็อต ดังกล่าวได้
นายอนุทิน ขายหุ้น บ.ซิโน-ไทยฯ ไปให้ใครกันแน่? ผู้ซื้อเป็นนักลงทุนในประเทศหรือต่างประเทศ?
จึงเป็นปริศนาใหม่ ที่ยังไม่มีคำตอบชัดเจนในห้วงเวลานี้
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/