กาง กม.ป.ป.ช.ไขปมฟัน‘นาที’ แจ้งบัญชีเท็จ-ผิดจริงห้ามเล่นการเมืองตลอดชีพ?

“…หากศาลฎีกาฯพิพากษาว่าผิดจริง นางนาทีจะต้องถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง แม้มาตรา 81 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งสูงสุดไม่เกิน 10 ปี แต่ในวรรคสอง บัญญัติชัดว่า ผู้ใดถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง จะไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ ไม่ว่าระดับชาติ หรือท้องถิ่นอีกตลอดไป...”

PIC nateenatee 3 7 62 1

นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ภรรยา ‘ว่าที่’ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬาคนใหม่ (นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ สามี) กำลังตกที่นั่งลำบาก ภายหลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด กรณีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ เมื่อครั้งยื่นบัญชีทรัพย์สินกรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2556 เป็นทรัพย์สินบ้าน จ.พัทลุง 2 ล้านบาท และหนี้สินจากการกู้ยืมเงิน และขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของนายพิพัฒน์ 93 ล้านบาทเศษ ส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยนัดไต่สวนครั้งแรก 9 ก.ค. 2562 (อ่านประกอบ : ไม่แจ้งบ้าน จ.พัทลุง 2 ล.-หนี้‘สามี’ 93 ล.! ป.ป.ช.แจงปมฟัน‘นาที’ยื่นบัญชีเท็จ)

ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2562 นางนาที รัชกิจประการ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า ศาลฎีกาฯได้นัดพิจารณาในวันที่ 9 ก.ค.นี้เป็นนัดแรก ทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ซึ่งในส่วนตัวแล้วจะทำหน้าที่ส.ส.ต่อไปจนกว่าศาลฎีกาฯจะมีคำสั่งพิจารณาเป็นที่สิ้นสุด

เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่รับแล้วตำแหน่ง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ใช่หรือไม่ จนต้องให้นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ สามีมารับตำแหน่งดังกล่าวแทน นางนาที กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะตนก็เพิ่งทราบว่าได้รับคำสั่งศาลฎีกาฯ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนตัวหนักใจหรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะตนลืมยื่นข้อมูลต่อ ป.ป.ช. จนทำให้ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด อย่างไรก็ตามสุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลฎีกาฯ เป็นผู้พิจารณา

“ดิฉันลืม ลืมจริง ๆ ค่ะ เพราะปกติเป็นคนช่วยเหลือคน แต่ก็ไม่รู้สึกกังวลหากศาลตัดสินอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้นายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยได้รับทราบแล้ว แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเป็นดุลยพินิจของศาล ที่ผ่านมาเมื่อเกิดเรื่องก็มีแต่คนโทรศัพท์มาให้กำลังใจ ซึ่งก็ขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจด้วย” นางนาที กล่าว

ต่อมานายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้ว่า ไม่น่าเป็นห่วงอะไร ถ้าหากมีการตัดสิทธิ์นางนาทีขึ้นมา ก็จะมีการขยับรายชื่อบัญชี ส.ส.ขึ้นมารับตำแหน่งต่อไป (อ่านประกอบ : 'นาที' รับลืมจริง ปมยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ป.ป.ช. ลั่นทำหน้าที่ ส.ส.ต่อจนศาลตัดสิน)

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า ไม่มีผลกระทบกรณีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ (สามี) จะนั่งเก้าอี้ รมว.ท่องเที่ยวฯ เหตุ ‘กรรมใดใครก่อคนนั้นก็ต้องรับผิดไป’ (อ้างอิงข่าวจาก เดลินิวส์ออนไลน์)

รายงานข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. แจ้งสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า สาเหตุที่ ป.ป.ช. ไม่เปิดเผยรายละเอียดทรัพย์สินบ้านของนางนาที และหนี้สินของนายพิพัฒน์ ที่ไม่แจ้งต่อ ป.ป.ช. เนื่องจากตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 (พ.ร.บ.ป.ป.ช.) บัญญัติไว้มิให้พาดพิงถึงบุคคลที่ 3 หากอยากทราบรายละเอียดต้องรอดูในการพิจารณาของศาลฎีกาฯเอง

ประเด็นสำคัญคือนางนาที ที่ปัจจุบันเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 4 พรรคภูมิใจไทย อีกครั้ง จะต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ และหากผิดจริงจะลงเล่นการเมืองได้อีกหรือไม่ ?

รายงานข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. ยืนยันว่า เป็นเรื่องดุลยพินิจของศาลฎีกาฯ ไม่สามารถไปก้าวล่วงได้

สาระสำคัญของกรณีนี้คือ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเกี่ยวกับบัญชีทรัพย์สินของนางนาที ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช.ฉบับใหม่ (ปี 2561)

นั่นหมายความว่า หากนางนาทีมีความผิดจริง จะต้องถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดชีวิต ?

พ.ร.บ.ป.ป.ช. ปี 2561 (ฉบับใหม่) มาตรา 81 บัญญัติว่า ในกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประทับฟ้องตามมาตรา 77 (กรณีอัยการสูงสุด หรือ ป.ป.ช. ฟ้องคดีต่อศาลฎีกาฯ) ให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา เว้นแต่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ในกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ให้ผู้ต้องคำพิพากษานั้นพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น จะเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกินสิบปีด้วยหรือไม่ก็ได้

ผู้ใดถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไม่ว่ากรณีใด ผู้นั้นไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือสมัครเป็น ส.ส. ส.ว. สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นตลอดไป และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ (อ่าน พ.ร.บ.ป.ป.ช. ปี 2561 : http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/A/052/1.PDF)

ขณะที่ พ.ร.บ.ป.ป.ช. ปี 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมปี 2554 (ฉบับเดิม) มาตรา 34 บัญญัติว่า เมื่อความปรากฏต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองผู้ใดจงใจไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ภายในเวลาที่กำหนด จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัยชี้ขาดตามที่เสนอ แล้วให้ผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งในวันที่ศาลฎีกาฯวินิจฉัย และห้ามมิให้ผู้นั้นดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ศาลฎีกาฯวินิจฉัยด้วย แต่ไม่กระทบกระเทือนกิจการที่ผู้นั้นได้กระทำไปในตำแหน่งดังกล่าว รวมทั้งการได้รับเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง หรือประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่น

ในกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามวรรคหนึ่งพ้นจากตำแหน่งก่อนที่ความปรากฏต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระยะเวลา 5 ปีตามวรรคหนึ่งให้นับตั้งแต่วันที่ผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งดังกล่าว (อ่าน พ.ร.บ.ป.ป.ช. ปี 2542 : http://web.krisdika.go.th/data/law/law2/%BB43/%BB43-20-9999-update.pdf)

อธิบายให้เข้าใจง่ายคือ ตามกฎหมายฉบับเดิม เมื่อ ป.ป.ช. ชี้มูลผิดต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ (ตามมาตรา 55) และถ้าศาลฎีกาฯพิพากษาว่าผิดจริง จะถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี และกลับมาลงเล่นการเมืองได้อีกครั้ง

แต่กรณีนางนาที ตามคำชี้แจงของ ป.ป.ช. ระบุว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาเมื่อเดือน พ.ย. 2561 มีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนน 9 เสียงว่า นางนาที จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ จึงเสนอเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อวินิจฉัยให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และขอให้ลงโทษทางอาญาตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1), มาตรา 81 มาตรา 167 ประกอบมาตรา 188 ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับใหม่

นั่นหมายความว่า หากศาลฎีกาฯพิพากษาว่าผิดจริง นางนาทีจะต้องถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง แม้มาตรา 81 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งสูงสุดไม่เกิน 10 ปี แต่ในวรรคสอง บัญญัติชัดว่า ผู้ใดถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง จะไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ ไม่ว่าระดับชาติ หรือท้องถิ่นอีกตลอดไป

นางนาที ยังมีสิทธินำพยานหลักฐานไปชี้แจงแก้ต่างได้ในชั้นการไต่สวนของศาลฎีกาฯ ที่เริ่มนัดแรกวันที่ 9 ก.ค. 2562

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/