
"...โฟกัสในส่วนการเรียกรับเงินค่าตอบแทนการตรวจสอบคุณภาพรถโดยไม่ได้นำรถโดยสารไม่ประจำทาง เข้าตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบฯ จริง ในอัตราคันละ 1,500 บาท นับเป็นประเด็นสำคัญที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง ควรจะต้องรีบเข้าไปติดตามตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมด้วยเร็วว่า พฤติการณ์ดังกล่าว ทำกันเฉพาะกลุ่มบุคคล หรือเป็นทำกันเป็นขบวนการมานานแล้ว เอกชนรายใดบ้างที่มีการจ่ายเงิน วงเงินเรียกรับในแต่ละวันแต่ละเดือนมีจำนวนสูงเท่าไหร่ รถยนต์ขนาดอื่นๆ มีการจ่ายเงินด้วยหรือไม่ ที่สำคัญเงินส่วนนี้ ถูกส่งส่วยต่อไปให้ใครอีกบ้าง? มีข้าราชการระดับสูง นักการเมือง ร่วมอยู่ในขบวนการด้วยหรือไม่?..."
กำลังเป็นประเด็นร้อนที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชน!
กรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เปิดประเด็นข่าวว่า เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด นายสาธิต เจือนาค เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายช่างตรวจสภาพรถชำนาญการ สำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี และพวก กรณีละเว้นไม่ดำเนินการตรวจสภาพรถและจัดทำรายงานผลการตรวจสอบสภาพรถอันเป็นเท็จ เพื่อให้รถโดยสารไม่ประจำทางที่ไม่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยตามกฎหมายสามารถนำไปชำระต่อภาษีประจำปีและนำรถที่ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยไปใช้รับจ้างจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุและเพลิงไหม้และผู้เสียชีวิต จำนวน 23 ราย
อันเป็นผลสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี บริเวณหน้าเซียร์รังสิต ตรงข้ามซอยพหลโยธิน 72 บริเวณถนนวิภาวดี ที่มาทัศนศึกษาที่ จ.นนทบุรี โดยเดินทางมาทั้งหมด 3 คัน ในจำนวนนี้มี 1 คันเกิดไฟไหม้รถโดยสารปรับอากาศชั้นเดียว คาดว่ายางระเบิดและเสียดสีกับแท่งแบริเออร์ ประกอบกับด้านล่างมีแก๊สทำให้ไฟลุกลาม โดยรถคคันดังกล่าว เป็นรถดัดแปลง ตัวถัง จาก รถ อีซูซุ แต่ โลโก้ หน้าเเละหลังรถ เป็น เบนซ์ ยางหน้าเเตก ชน เเบริเอ้อ เเล้วเกิดไฟไหม้ แต่ครูแจ้งว่าเปิดประตูฉุกเฉินรถไม่ได้
ส่งผลทำให้มีนักเรียนเสียชีวิต 20 ครูเสียชีวิต 3 รวม 23 ราย
เบื้องต้น นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาฯ ป.ป.ช. ยืนยันว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีการชี้มูลความผิดผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ไปแล้วจริง แต่ต้องมีการรับรองมติก่อน จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบยืนยันข้อมูลรายละเอียดการไต่สวนพฤติการณ์การกระทำความผิดคดีนี้ของ ป.ป.ช. พบว่ามีการระบุว่าถึงเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ และการรับเงินจ่ายค่าตอบแทนการไม่ได้นำรถโดยสารไม่ประจำทาง เข้าตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบฯ จริง โดยจ่ายค่าตอบแทนในอัตราคันละ 1,500 บาท ด้วย
ชี้ให้เห็นว่ากรณีอุบัติเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี อันน่าเศร้าสะเทือนใจต้องสังเวยชีวิตนักเรียน-ครู รวม 23 ราย ดังกล่าว ปัญหาใต้ภูเขาน้ำแข็งแท้จริงที่ซ่อนอยู่ มีเรื่องการทุจริตปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

- โดนแล้ว! ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตนายช่างขนส่งสิงห์บุรี-พวก คดีรถบัสไฟไหม้ ครู-นร. 23 ศพ
- เบื้องลึก! ชี้มูลคดีรถบัสไฟไหม้ ครู-นร.23 ศพ-พบปัญหาทุจริตรับเงินใต้โต๊ะคันละ 1.5 พัน
ทั้งนี้ เพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับคดีนี้มากขึ้น สำนักข่าวอิศรา สรุปข้อมูลบทบาท และพฤติการณ์ของผู้ถูกล่าวหาทั้งหมด มานำเสนอแบบชัด ๆ ณ ที่นี้อีกครั้ง
@ ผู้เกี่ยวข้องและบทบาท
คดีนี้ มีผู้เกี่ยวข้องจำนวน 7 ราย ปรากฏชื่อเป็นผู้ถูกกล่าวหา 6 ราย และถูกกันตัวเป็นพยาน 1 ราย มีรายละเอียดดังนี้
- นายสาธิต เจือนาค นายช่างตรวจสภาพรถชำนาญการ ตามคำสั่งสำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี เป็นผู้ตรวจสภาพรถยนต์โดยสารไม่ประจำทางหมายเลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี รถบัสคันเกิดเหตุไฟไหม้ เป็นผู้ถูกกล่าวหารายที่ 1
- นางสาวปาณิศรา ชินบุตร เจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์โดยสารไม่ประจำทางหมายเลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี เป็นผู้ถูกกล่าวหารายที่ 2
- นายทรงวิทย์ ชินบุตร เจ้าของบริษัทรถทัวร์นำเที่ยว ชินบุตรทัวร์ เป็นผู้ถูกกล่าวหารายที่ 3
- นายทนิชปกร มณีนิล คนจัดทำหนังสือรับรองการตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบ เป็นผู้ถูกกล่าวหารายที่ 4
- บริษัท ออลเทอร์เนทีฟ รี ซอส เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด สาขา 1 ที่ออกหนังสือรับรองการตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบ และการติดตั้งเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถที่ใช้ในการขนส่งที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิงตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก เป็นผู้ถูกกล่าวหารายที่ 5
- นายจตุพงศ์ จำปางาม วิศวกรผู้ทำการตรวจและทดสอบ และยังเป็นเจ้าของบริษัท ออลเทอร์เนทีฟ รี ซอส เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด เป็นผู้ถูกกล่าวหารายที่ 6
ส่วน นายสันทัต เอี่ยมพันธ์ ผู้ขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี ไปทำการตรวจสภาพรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี ได้รับกันตัวเป็นพยาน
@ พฤติการณ์ประเด็นการทุจริต
จากสำนวนการไต่สวนคดีของป.ป.ช. ที่สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันเป็นทางการ สามารถสรุปข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชน ได้ 3 ประเด็นหลักดังนี้
หนึ่ง.
นายสาธิต เจือนาค ได้ทำการตรวจสภาพรถยนต์โดยสารไม่ประจำทาง หมายเลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี ของนางสาวปาณิศรา ชินบุตร เจ้าของกรรมสิทธิ์รถ ซึ่งได้มอบหมายให้นายทรงวิทย์ ชินบุตร เป็นผู้นำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการต่อภาษีประจำปี ประกอบด้วย หนังสือรับรองการตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบ และการติดตั้งเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถที่ใช้ในการขนส่งที่ใช้ก๊าซธธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิง ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ที่ออกโดย บริษัท ออลเทอร์เนทิฟ รีซอส เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด สาขา 1 โดยมีนายจตุพงศ์ จำปางาม เป็นวิศวกรผู้ทำการตรวจและทดสอบเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 รับรองผลการตรวจและทดสอบถังก๊าซ CNG จำนวน 6 ถัง ไปดำเนินการยื่นต่อภาษีรถประจำปี
โดยให้นายสันทัต เอี่ยมพันธ์ เป็นผู้ขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี ไปทำการตรวจสภาพรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี แต่นายสาธิต เจือนาค ไม่ได้ดำเนินการตรวจสภาพรถคันดังกล่าว ตามที่ระเบียบกำหนดไว้แต่อย่างใด
แต่ได้จัดทำรายงานผลการตรวจสภาพรถ โดยระบุว่า "ผ่าน"
พร้อมกับได้ทำการตรวจถังก๊าซ CNG จำนวน 6 ถัง ทั้งที่ ทราบดีว่า หมายเลขถังก๊าซ CNG จำนวน 6 ถัง ที่ออกโดย บริษัท ออลเทอร์เนทิฟ รีซอส เอ็นจีเนียริง จำกัด สาขา 1 โดยมีนายจตุพงศ์ จำปางาม เป็นวิศวกรผู้ทำการตรวจและทดสอบเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ระบุหมายเลขถังก๊าซ CNG ไม่ตรงกับหมายเลขถังก๊าซที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลังรถโดยสารไม่ประจำทาง 30-0423 สิงห์บุรี และไม่ตรงกับหมายเลขถังก๊าซที่นายสาธิต เจือนาค ทำการบันทึกข้อมูลการตรวจถังก๊าซในระบบตรวจสภาพ (ระบบงาน MDM) แต่อย่างใด
สอง.
จากการตรวจสอบหลักฐานใบประวัติรถคันหมายเลขเบียน 30-0423 สิงห์บุรี ชนิดเชื้อเพลิง CNG พบว่า นางสาวมัทนียา ชินบุตร หรือนางสาวปาณิศรา ชินบุตร ได้ยื่นขอจดทะเบียนรถเปลี่ยนจากหมายเลขทะเบียน 14-0502 กทม. เปลี่ยนเป็นทะเบียน 30-1371 ชัยนาท โดยรถคันดังกล่าวถูกติดตั้งถังก๊าซ CNG จากห้างหุ้นส่วนจำกัด มิสเตอร์ออโต้แก๊ซ และผ่านการตรวจและทดสอบจากบริษัท ธรรมมิตรวิศวกรรม จำกัด
ต่อมา นางสาวปาณิศรา ชินบุตร ได้ยื่นความประสงค์ขอดัดแปลงรถ จำนวน 4 รายการ กรมการขนส่งทางบกได้ ให้ความเห็นชอบรถโดยสารตัดแปลงระบุว่า ผ่านเกณฑ์ สำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรีได้ออกใบรับรองการตรวจสภาพรถ
จากนั้น นางสาวปาณิศรา ชินบุตร จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี โดยไม่ปรากฏว่ามีการขอลดจำนวนถังก๊าซแต่อย่างใด
สาม.
มีการตรวจสอบพบว่า หนังสือรับรองการตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบ และการติดตั้งเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถที่ใช้ในการขนส่งที่ใช้ก๊าชธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิงตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ที่ออกโดยบริษัท ออลเทอร์เนทิฟ รีซอส เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด สาขา 1 โดยมีนายจตุพงศ์ จำปางาม เป็นวิศวกรผู้ทำการตรวจและทดสอบ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 นั้น
นายทรงวิทย์ ชินบุตร เป็นผู้ทำการขูดลอกเลขตัวตัวถังรถ และขูดลอกเลขถังก๊าซไปมอบให้นายทนิชปกร มณีนิล จัดทำหนังสือรับรองการตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบฯ โดยไม่ได้นำรถโดยสารไม่ประจำทาง เข้าตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบฯ จริง โดยจ่ายค่าตอบแทนให้กับนายทนิชปกร มณีนิล ในอัตราคันละ 1,500 บาท
ขณะที่ จากตรวจสอบข้อมูลการเดินรถโดยสารไม่ประจำทาง หมายเลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี จากระบบ DLT GPS เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ไม่พบการเชื่อมต่อข้อมูล GPS ของรถคันดังกล่าว ในระบบ DLT DGP
แต่นางสาวปาณิศรา ชินบุตร ซึ่งทราบดีว่านายทรงวิทย์ ชินบุตร ไม่ได้นำรถโดยสารไม่ประจำทาง หมายเลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี เข้าตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบฯ จริง กลับมอบหมายให้นายทรงวิทย์ ชินบุตร นำใบรับรองดังกล่าวมามอบให้นายสาธิต เจือนาค ใช้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาและเสนอความเห็นเกี่ยวกับการตรวจสภาพรถ และนำไปใช้ประกอบการยื่นคำขอต่อทะเบียนภาษีรถยนต์โดยสารไม่ประจำทางหมายเลขทะเบียน30-0423 สิงห์บุรี
จากข้อมูลสรุปข้างต้น โฟกัสในส่วนการเรียกรับเงินค่าตอบแทนการตรวจสอบคุณภาพรถโดยไม่ได้นำรถโดยสารไม่ประจำทาง เข้าตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบฯ จริง ในอัตราคันละ 1,500 บาท นับเป็นประเด็นสำคัญที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง ควรจะต้องรีบเข้าไปติดตามตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมด้วยเร็วว่า พฤติการณ์ดังกล่าว ทำกันเฉพาะกลุ่มบุคคล หรือเป็นทำกันเป็นขบวนการมานานแล้ว เอกชนรายใดบ้างที่มีการจ่ายเงิน วงเงินเรียกรับในแต่ละวันแต่ละเดือนมีจำนวนสูงเท่าไหร่ รถยนต์ขนาดอื่นๆ มีการจ่ายเงินด้วยหรือไม่
ที่สำคัญเงินส่วนนี้ ถูกส่งส่วยต่อไปให้ใครอีกบ้าง? มีข้าราชการระดับสูง นักการเมือง ร่วมอยู่ในขบวนการด้วยหรือไม่?
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ในช่วงเช้าวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง สำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี เพื่อขอสัมภาษณ์ผู้บริหาร เกี่ยวกับปัญหาการทุจริตตรวจสอบคุณภาพรถจากกรณีนี้
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ผู้บริหารออกไปปฏิบัติราชการข้างนอก ไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้ และไม่สามารถให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อส่วนตัวได้
เมื่อถามถึงข้อมูลเกี่ยวกับ นายสาธิต เจือนาค อดีตนายช่างตรวจสภาพรถชำนาญการ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า นายสาธิต ถูกย้ายไปนานแล้ว ตั้งแต่ช่วงหลังเกิดเหตุการณ์ อุบัติเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยา แล้ว และไม่ทราบว่าปัจจุบันไปอยู่ที่ไหน รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับ นายทนิชปกร มณีนิล ซึ่งถูกระบุว่าเป็นผู้รับเงินด้วย
จึงทำให้สำนักข่าวอิศรา ยังไม่ได้รับทราบคำชี้แจงเป็นทางการอีกด้าน จากผู้บริหารสำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี นายสาธิต เจือนาค และนายทนิชปกร มณีนิล ต่อกรณีนี้ว่ามีปัญหาการทุจริตเรียกรับเงินเกิดขึ้นจริงหรือไม่?
อย่างไรก็ดี มีรายข่าวเชิงลึกจากสำนักงาน ป.ป.ช. ว่า ในการตรวจสอบข้อมูลคดีนี้ พบข้อสังเกตเกี่ยวกับทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่รัฐบางรายว่ามีจำนวนมากผิดปกติด้วย
ส่วนจะนำไปสู่การตั้งไต่สวนกรณีร่ำรวยผิดปกติเพิ่มเติมอีก 1 คดีหรือไม่
หากสำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลเพิ่มเติม จะรีบนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป
อนึ่ง การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา