
"...นายทรงวิทย์ ชินบุตร เป็นผู้ทำการขูดลอกเลขตัวตัวถังรถ และขูดลอกเลขถังก๊าซไปมอบให้นายทนิชปกร มณีนิล จัดทำหนังสือรับรองการตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบฯ โดยไม่ได้นำรถโดยสารไม่ประจำทาง เข้าตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบฯ จริง โดยจ่ายค่าตอบแทนให้กับนายทนิชปกร มณีนิล ในอัตราคันละ 1,500 บาท..."
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี บริเวณหน้าเซียร์รังสิต ตรงข้ามซอยพหลโยธิน 72 บริเวณถนนวิภาวดี ที่มาทัศนศึกษาที่ จ.นนทบุรี โดยเดินทางมาทั้งหมด 3 คัน ในจำนวนนี้มี 1 คันเกิดไฟไหม้รถโดยสารปรับอากาศชั้นเดียว คาดว่ายางระเบิดและเสียดสีกับแท่งแบริเออร์ ประกอบกับด้านล่างมีแก๊สทำให้ไฟลุกลาม โดยรถคคันดังกล่าว เป็นรถดัดแปลง ตัวถัง จาก รถ อีซูซุ แต่ โลโก้ หน้าเเละหลังรถ เป็น เบนซ์ ยางหน้าเเตก ชน เเบริเอ้อ เเล้วเกิดไฟไหม้ แต่ครูแจ้งว่าเปิดประตูฉุกเฉินรถไม่ได้
ส่งผลทำให้มีนักเรียนเสียชีวิต 20 ครูเสียชีวิต 3 รวม 23 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด นายสาธิต เจือนาค เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายช่างตรวจสภาพรถชำนาญการ สำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี และพวก กรณีละเว้นไม่ดำเนินการตรวจสภาพรถและจัดทำรายงานผลการตรวจสอบสภาพรถอันเป็นเท็จ เพื่อให้รถโดยสารไม่ประจำทางที่ไม่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยตามกฎหมายสามารถนำไปชำระต่อภาษีประจำปีและนำรถที่ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยไปใช้รับจ้างจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุและเพลิงไหม้และผู้เสียชีวิต จำนวน 23 ราย
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเห็นว่า นายสาธิต เจือนาค มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 157, 162 (1) (4) และตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 172 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง นอกจากนี้ยังมีข้าราชการเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนหลายราย ถูกชี้มูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดด้วย
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นชอบให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีและส่งเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามอำนาจและหน้าที่ต่อไป

ต่อไปนี้ เป็นรายละเอียดการไต่สวนพฤติการณ์การกระทำความผิด ของ นายสาธิต เจือนาค เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายช่างตรวจสภาพรถชำนาญการ สำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี และพวก อันนำไปสู่การชี้มูลความผิดในคดีนี้ ซึ่งผลว่ามีกรณีเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และการรับเงินจ่ายค่าตอบแทนการไม่ได้นำรถโดยสารไม่ประจำทาง เข้าตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบฯ จริง โดยจ่ายค่าตอบแทนในอัตราคันละ 1,500 บาท ด้วย
@ ผู้ถูกกล่าวหา
คดีนี้มีผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 6 ราย ได้แก่
- นายสาธิด เจือนาค นายช่างตรวจสภาพรถชำนาญการ สำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี
- นางสาวปาณิศรา ชินบุตร
- นายทรงวิทย์ ชินบุตร
- นายทนิชปกร มณีนิล
- บริษัท ออลเทอร์เนทีฟ รี ซอส เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด สาขา 1
- นายจตุพงศ์ จำปางาม
@ พฤติการณ์การกระทำความผิด
จากการสอบสวนของ ป.ป.ช. พบว่า นายสาธิต เจือนาค นายช่างตรวจสภาพรถชำนาญงาน ตามคำสั่งสำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการตรวจสอบรถ ตรวจสภาพรถ และพิจารณาเสนอความเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนลักษณะรถ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของรถ หรือส่วนควบของรถ พิจารณาและเสนอความเห็นเกี่ยวกับการตรวจสภาพรถ จัดทำประวัติและรายงานสถิติการตรวจสภาพรถ และงานอื่นที่ได้รับมอบหมายจากขนส่งจังหวัด ตามระเบียบกรมการขนส่งทางบก ว่าด้วยการตรวจสภาพรถของพนักงานตรวจสภาพตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก พ.ศ.2555 กำหนดให้ต้องดำเนินการตรวจสภาพปีละ 2 ครั้ง ตามตารางวิธีการตรวจและวินิจฉัยผลการตรวจสภาพรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก สำหรับรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร และรถขนาดเล็ก จำนวน 61 รายการ
โดยรถโดยสารไม่ประจำทาง ชนิดเชื้อเพลิง CNG ระบุให้ตรวจในรายการที่ 6 ระบบเชื้อเพลิงหรือระบบพลังงาน วิธีการตรวจกรณีรถใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง ดังนี้
(1) ตรวจสอบความถูกต้องของหนังสือรับรองการติดตั้งและหนังสือรับรองการตรวจและทดสอบแล้วแต่กรณี
(2) ตรวจถังก๊าซเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบตามรายการในหนังสือรับรองของผู้ติดตั้งหรือผู้ตรวจและทดสอบ
(3) ตรวจอายุถังก๊าซ
(4) ตรวจเครื่องหมายแสดงการตรวจและทดสอบและเครื่องหมายการใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงตามที่ระเบียบกำหนดไว้
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 นายสาธิต เจือนาค ได้ทำการตรวจสภาพรถยนต์โดยสารไม่ประจำทาง หมายเลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี ของนางสาวปาณิศรา ชินบุตร เจ้าของกรรมสิทธิ์รถ ซึ่งได้มอบหมายให้นายทรงวิทย์ ชินบุตร เป็นผู้นำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการต่อภาษีประจำปี ประกอบด้วย หนังสือรับรองการตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบ และการติดตั้งเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถที่ใช้ในการขนส่งที่ใช้ก๊าซธธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิง ตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ที่ออกโดย บริษัท ออลเทอร์เนทิฟ รีซอส เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด สาขา 1 โดยมีนายจตุพงศ์ จำปางาม เป็นวิศวกรผู้ทำการตรวจและทดสอบเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 รับรองผลการตรวจและทดสอบถังก๊าซ CNG จำนวน 6 ถัง ไปดำเนินการยื่นต่อภาษีรถประจำปี
โดยให้นายสันทัต เอี่ยมพันธ์ เป็นผู้ขับรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี ไปทำการตรวจสภาพรถที่สำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี แต่นายสาธิต เจือนาค ไม่ได้ดำเนินการตรวจสภาพรถคันดังกล่าว ตามที่ระเบียบกำหนดไว้แต่อย่างใด
แต่ได้จัดทำรายงานผลการตรวจสภาพรถ โดยระบุว่า "ผ่าน" พร้อมกับได้ทำการตรวจถังก๊าซ CNG จำนวน 6 ถัง ทั้งที่ ทราบดีว่า หมายเลขถังก๊าซ CNG จำนวน 6 ถัง ที่ออกโดย บริษัท ออลเทอร์เนทิฟ รีซอส เอ็นจีเนียริง จำกัด สาขา 1 โดยมีนายจตุพงศ์ จำปางาม เป็นวิศวกรผู้ทำการตรวจและทดสอบเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ระบุหมายเลขถังก๊าซ CNG ไม่ตรงกับหมายเลขถังก๊าซที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลังรถโดยสารไม่ประจำทาง 30-0423 สิงห์บุรี และไม่ตรงกับหมายเลขถังก๊าซที่นายสาธิต เจือนาค ทำการบันทึกข้อมูลการตรวจถังก๊าซในระบบตรวจสภาพ (ระบบงาน MDM) แต่อย่างใด
ขณะที่จากการตรรสอบหลักฐานใบประวัติรถคันหมายเลขเบียน 30-0423 สิงห์บุรี ชนิดเชื้อเพลิง CNG พบว่า นางสาวมัทนียา ชินบุตร หรือนางสาวปาณิศรา ชินบุตร ได้ยื่นขอจดทะเบียนรถเปลี่ยนจากหมายเลขทะเบียน 14-0502 กทม. เปลี่ยนเป็นทะเบียน 30-1371 ชัยนาท โดยรถคันดังกล่าวถูกติดตั้งถังก๊าซ CNG จากห้างหุ้นส่วนจำกัด มิสเตอร์ออโต้แก๊ซ และผ่านการตรวจและทดสอบจากบริษัท ธรรมมิตรวิศวกรรม จำกัด
ต่อมา นางสาวปาณิศรา ชินบุตร ได้ยื่นความประสงค์ขอดัดแปลงรถ จำนวน 4 รายการ กรมการขนส่งทางบกได้ ให้ความเห็นชอบรถโดยสารตัดแปลงระบุว่า ผ่านเกณฑ์ สำนักงานขนส่งจังหวัดสิงห์บุรีได้ออกใบรับรองการตรวจสภาพรถ
จากนั้น นางสาวปาณิศรา ชินบุตร จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี โดยไม่ปรากฏว่ามีการขอลดจำนวนถังก๊าซแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบพบว่า หนังสือรับรองการตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบ และการติดตั้งเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถที่ใช้ในการขนส่งที่ใช้ก๊าชธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิงตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ที่ออกโดยบริษัท ออลเทอร์เนทิฟ รีซอส เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด สาขา 1 โดยมีนายจตุพงศ์ จำปางาม เป็นวิศวกรผู้ทำการตรวจและทดสอบ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 นั้น
นายทรงวิทย์ ชินบุตร เป็นผู้ทำการขูดลอกเลขตัวตัวถังรถ และขูดลอกเลขถังก๊าซไปมอบให้นายทนิชปกร มณีนิล จัดทำหนังสือรับรองการตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบฯ โดยไม่ได้นำรถโดยสารไม่ประจำทาง เข้าตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบฯ จริง โดยจ่ายค่าตอบแทนให้กับนายทนิชปกร มณีนิล ในอัตราคันละ 1,500 บาท
ขณะที่ จากตรวจสอบข้อมูลการเดินรถโดยสารไม่ประจำทาง หมายเลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี จากระบบ DLT GPS เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ไม่พบการเชื่อมต่อข้อมูล GPS ของรถคันดังกล่าว ในระบบ DLT DGP
แต่นางสาวปาณิศรา ชินบุตร ซึ่งทราบดีว่านายทรงวิทย์ ชินบุตร ไม่ได้นำรถโดยสารไม่ประจำทาง หมายเลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี เข้าตรวจและทดสอบเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบฯ จริง กลับมอบหมายให้นายทรงวิทย์ ชินบุตร นำใบรับรองดังกล่าวมามอบให้นายสาธิต เจือนาค ใช้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาและเสนอความเห็นเกี่ยวกับการตรวจสภาพรถ และนำไปใช้ประกอบการยื่นคำขอต่อทะเบียนภาษีรถยนต์โดยสารไม่ประจำทางหมายเลขทะเบียน30-0423 สิงห์บุรี
@ มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้
- การกระทำของ นายสาธิต เจือนาค มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 157, 162 (1) (4) และตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 172 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
- การกระทำของนางสาวปาณิศรา ชินบุตร นายทรงวิทย์ ชินบุตร นายทนิชปกร มณีนิล และบริษัท ออเทอร์เนทีฟ รี ชอส เอ็นจีเนียริ่ง จำกัด สาขา 1 มีมูลความผิดทางอาญา ฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
- การกระทำของนายจตุพงศ์ จำปางาม มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 , 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 269 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธธธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 30 และฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
แต่ไม่ว่าบทสรุปการต่อสู้คดีในชั้นศาลจะออกมาเป็นอย่างไร ข้อมูลที่ปรากฏในผลการสอบสวนของ ป.ป.ช. ชี้ให้เห็นว่ากรณีอุบัติเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี อันน่าเศร้าสะเทือนใจ ต้องสังเวยชีวิตนักเรียน-ครู รวม 23 ราย
ปัญหาใต้ภูเขาน้ำแข็งแท้จริงที่ซ่อนอยู่ มีเรื่องการทุจริตปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องรีบหาทางแก้ไขปัญหาให้หมดสิ้นโดยเร็วที่สุด
เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำรอยอีกเด็ดขาด!

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา