
"...มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการดำเนินการอย่างใดในหน่วยงานของรัฐอันอาจนำไปสู่การทุจริตหรือส่อว่าอาจมีการทุจริตในการดำเนินการเกี่ยวกับการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้กระบวนการการช่วยเหลือเยียวยาน้ำท่วมดังกล่าว เพื่อผลักดันให้ได้คะแนนเสียงในระยะยาวและเป็นการสร้างความนิยมในตัวผู้บริหารท้องถิ่น แม้ว่าจะอาจไม่ได้ช่วยเหลือทุกคนอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกัน..."
การขอรับเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยช่วงฤดูฝน ปี 2567 จังหวัดสงขลา ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 17 กันยายน 2567 ถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบพบปัญหาการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐที่ส่อว่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้นเกี่ยวกับการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ ขณะที่ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้กระบวนการการช่วยเหลือเยียวยาน้ำท่วมดังกล่าว เพื่อผลักดันให้ได้คะแนนเสียงในระยะยาวและเป็นการสร้างความนิยมในตัวผู้บริหารท้องถิ่น และได้มีการแจ้งข้อเสนอแนะให้หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลเข้ามาตรวจสอบ ระงับยับยั้งไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นแล้ว
ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ถูกเปิดเผยขึ้น!
เมื่อสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้รับการยืนยันข้อมูลจาก สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสงขลา ว่า ได้รับแจ้งเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับการทุจริตเกี่ยวกับกรณีการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยในปี 2567 ของอำเภอหาดใหญ่ และสทิงพระ จังหวัดสงขลา ว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการดำเนินการอย่างใดในหน่วยงานของรัฐอันอาจนำไปสู่การทุจริตหรือส่อว่าอาจมีการทุจริตในการดำเนินการเกี่ยวกับการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้กระบวนการการช่วยเหลือเยียวยาน้ำท่วมดังกล่าว เพื่อผลักดันให้ได้คะแนนเสียงในระยะยาวและเป็นการสร้างความนิยมในตัวผู้บริหารท้องถิ่น แม้ว่าจะอาจไม่ได้ช่วยเหลือทุกคนอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกัน
กลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสงขลา จึงได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์และเฝ้าระวังการทุจริตในพื้นที่ตามที่ได้มีการแจ้งเบาะแส ดังนี้
1. อำเภอหาดใหญ่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 2 แห่ง
- เทศบาลเมืองคอหงส์
- เทศบาลเมืองควนลัง
2. อำเภอสทิงพระ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 9 แห่ง
- องค์การบริหารส่วนตำบลจะทิ้งพระ
- เทศบาลตำบลจะทิ้งพระ
- องค์การบริหารส่วนตำบลชุมพล
- องค์การบริหารส่วนตำบลกระดังงา
- องค์การบริหารส่วนตำบลวัดจันทร์
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อดาน
- องค์การบริหารส่วนตำบลดีหลวง
- องค์การบริหารส่วนตำบลสนามชัย
- องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อแดง
จากการตรวจสอบพบว่า การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยในปี 2567 ตามมติฯ นั้น กำหนดหลักเกณฑ์ฯ ไว้ จำนวน 2 กรณีซึ่งเป็นการช่วยเหลืออัตราเดียวครัวเรือนละ 9,000 บาท
หลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ดังนี้
1. กรณีที่อยู่อาศัยประจำอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย หรือ
2. กรณีที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขัง ติดต่อกันเกินกว่า 7 วัน ให้ความช่วยเหลืออัตราเดียว ครัวเรือนละ 9,000 บาท
@ ข้อตรวจพบ
1.กระบวนการพิจารณาคัดกรองตรวจสอบการขอรับเงินเยียวยาน้ำท่วมยังไม่มีความชัดเจนอันจะต้องมีกระบวนการตรวจสอบและพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่รัดกุม เช่น การประชาคมฯ ,การตรวจสอบสภาพความเสียหายจริง, การยืนยันข้อมูลจากเจ้าหน้าที่คณะทำงานและการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยในการตรวจสอบข้อมูล
2.พื้นที่ในเขตอำเภอสทิงพระทั้ง 9 ตำบล และเทศบาลเมืองคอหงส์ชุมชนคลองเตย 3 และ คลองเตย 5 เป็นชุมชนที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าน้ำท่วมไม่ถึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การขอรับเงินช่วยเหลือฯ แต่ปรากฎคำร้องจากครัวเรือนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
3. มีจำนวนเรื่องร้องเรียนและแจ้งเบาะแสมายังสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสงขลาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเหตุอันควรระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารท้องถิ่นที่อาจใช้การเยียวยาน้ำท่วมดังกล่าวเพื่อขอคะแนนเสียงจากชาวบ้านใช้การเยียวยาน้ำท่วมเป็นเครื่องมือในการสร้างความนิยมและดึงดูดความสนใจจากประชาชนในพื้นที่
4. การพิจารณาช่วยเหลือเยียวยาฯ ที่เลือกปฏิบัติโดยพิจารณาให้กับชาวบ้านในบางพื้นที่หรือบางกลุ่มที่สนับสนุนหรือที่มีแนวโน้มจะสนับสนุนในการเลือกตั้ง เพื่อแลกกับการสนับสนุนในอนาคตโดยการกระจายทรัพยากรหรือการเยียวยาให้ไม่เท่ากันในกลุ่มประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับความเสียหายจากน้ำท่วมจริง ๆ
5.การใช้สื่อประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างภาพลักษณ์เชิญชวนโดยสัญญาว่าจะให้ โดยผู้บริหารท้องถิ่นอาจใช้สื่อในพื้นที่ เช่น การออกประกาศหรือข่าวสารเพื่อโฆษณาผลงานการเยียวยาน้ำท่วมของตนเอง เช่น Facebook, Instagram Tiktok หรือ Twitter เพื่อเผยแพร่ภาพและข้อความเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมโดยเฉพาะในช่วงใกล้เลือกตั้งเพื่อเน้นย้ำความสำเร็จในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมการกระทำเหล่านี้จะเป็นการใช้โครงการเยียวยาน้ำท่วมเพื่อผลักดันให้ได้คะแนนเสียงในระยะยาวและเป็นการสร้างความนิยมในตัวผู้บริหารท้องถิ่น
แม้ว่าจะอาจไม่ได้ช่วยเหลือทุกคนอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกันการกระทำเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้ทรัพยากรของรัฐสูญเสียแต่ยังส่งผลเสียต่อผู้ที่มีความต้องการจริงที่ไม่สามารถได้รับความช่วยเหลือเพราะถูกใช้ทรัพยากรไปในทางที่ผิด
ข้อมูลการขอรับเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยช่วงฤดูฝน ปี 2567
ข้อเท็จจริงจากตารางปรากฏว่าจำนวนผู้ยื่นขอรับเงินเยียวยาที่หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นยื่นยืนยันจำนวน ต่ออำเภอสทิงพระวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 ประเภทกรณีที่ 1 (น้ำท่วมฉับพลันไม่เกิน 7 วัน) 7,384 ครัวเรือนกรณีที่ 2 (น้ำท่วมขังเกิน7 วัน) 2,925 ครัวเรือน รวมทั้งสองกรณี 10,309 ครัวเรือน
โดยหลังจากสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสงขลาลงพื้นที่กำกับติดตามพร้อมแจ้งเหตุอันควรสงสัยต่อการดำเนินการหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นยื่นยืนยันจำนวน ต่ออำเภอสทิงพระวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ลดลงจาก 10,309 ครัวเรือน เหลือ 1,856 ครัวเรือน โดยสามารถคิดเป็นเงินงบประมาณจัดสรรในการช่วยเหลือเงินเยียวยา จากเดิมรัฐจะใช้งบประมาณรายละ 9,000 บาท จำนวน 10,309 ราย รวมเป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 92,781,000 ล้านบาท โดยหลังจากหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นได้ทบทวนและยื่นยีนยันจำนวนต่ออำเภอสทิงพระจะใช้งบประมาณรายละ 9,000 บาท จำนวน 1,856 ราย รวมเป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 16,704,000 ล้านบาท ลดลง 76,077,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 82
@ ข้อพิจารณา/ข้อเสนอ
1. กลุ่มงานป้องกันการทุจริต ฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าจากข้อมูลที่กล่าวไปข้างต้นเป็นข้อเท็จจริงที่มีความเสี่ยงต่อการทุจริต มีข้อมูลประกอบที่ชัดเจนอันจะเป็นฐานข้อมูลให้การดำเนินการด้านการปราบปรามการทุจริตสามารถกระทำได้ด้วยความรวดเร็ว แม่นยำและมีประสิทธิภาพ
2. หากพบว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด พบข้อเท็จจริงที่ชัดเจนกรณีว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการดำเนินการอย่างใดในหน่วยงานของรัฐอันอาจนำไปสู่การทุจริตหรือส่อว่าอาจมีการทุจริต เห็นควรให้กลุ่มงานป้องกันการทุจริตดำเนินการตามมาตรา 35 หรือมาตราอื่นๆ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561
3 กลุ่มงานป้องกันการทุจริตพิจารณาแล้วเห็นว่า ตามข้อเท็จจริงข้างต้น เห็นควรดำเนินการป้องปรามการทุจริตเพื่อระงับยับยั้งมิให้เกิดการทุจริต หรือเกิดความเสียหายต่อราชการซึ่งได้ดำเนินการแล้วรายละเอียดปรากฎตามเอกสารแนนบ
4. เห็นควรให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกระทรวงมหาดไทย กำหนดหลักเกณฑ์ฯ ขั้นตอนการพิจารณาให้มีความชัดเจนและมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับรู้และมีความเข้าใจต่อการขอรับเงินฯ
ทั้งหมดนี่ คือ ข้อมูลเชิงลึกการตรวจสอบกรณีการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยในปี 2567 จังหวัดสงขลา ของสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสงขลา ถึงเหตุอันควรสงสัยว่ามีการดำเนินการอย่างใดในหน่วยงานของรัฐอันอาจนำไปสู่การทุจริตหรือส่อว่าอาจมีการทุจริตในการดำเนินการเกี่ยวกับการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้กระบวนการการช่วยเหลือเยียวยาน้ำท่วมดังกล่าว เพื่อผลักดันให้ได้คะแนนเสียงในระยะยาวและเป็นการสร้างความนิยมในตัวผู้บริหารท้องถิ่น ตามที่กล่าวไปข้างต้น
หากมีรายละเอียดเพิ่มเติม สำนักข่าวอิศรา จะนำมาเสนอต่อไป

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา