“...ให้ยกเลิก (1) ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2515 ทั้งนี้ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ฯ ข้อ 2 ให้จำหน่ายสุราได้เฉพาะตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึงเวลา 14.00 น. และตั้งแต่เวลา 17.00 น. ถึงเวลา 24.00 น....”
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2568 มีมติเห็นชอบในวาระที่สาม ด้วยคะแนน เห็นด้วยเอกฉันท์ 365 เสียง ไม่มีคนไม่เห็นด้วย
สาระสำคัญมีทั้งการอนุมัติในสถานที่ราชการ-สถานศึกษา ปลดล็อกเวลาการขาย และการโฆษณา ขณะเดียวกันมีการกำหนดบทลงโทษทั้งจำคุก-ปรับหลักแสนบาท ตลอดจนสั่งปิดกิจการและเพิกถอนใบอนุญาต
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ขอนำรายละเอียด ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ทั้ง 38 มาตรา ซึ่งตลอดการประชุม 3 วันของการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร มีทั้งมาตราที่ถูกตัดออก-แก้ไข รวมถึง ‘เพิ่มใหม่’ ตั้งแต่คำปรารภ วรรคตอน หลายวงเล็บ
สำหรับเนื้อหาใน ร่างพ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีประเด็นใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงและเพิ่มขึ้นมาใหม่มีอยู่ 4-5 ประเด็น
ประเด็นแรก ยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2515 ข้อ 2 ที่กำหนดให้จำหน่ายสุราได้เฉพาะตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึงเวลา 14.00 น. และตั้งแต่เวลา 17.00 น. ถึงเวลา 24.00 น.
ประเด็นที่สอง ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.2558 ข้อ 6 กำหนดห้ามไม่ให้มีสถานที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษาหรือหอพักในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา รวมถึงการขายผ่านเครื่องขายอัตโนมัติที่ยืนยันตัวตนผู้ซื้อได้
ประเด็นที่สาม การเพิ่มหมวดการโฆษณา ที่เป็นการยกเว้นให้มีการโฆษณาได้ หากเป็นการให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้ “หรือประชาสัมพันธ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ภายใต้เงื่อนไข ต้องไม่ใช่ช่องทางสื่อสารที่เข้าถึงได้สะดวก ไม่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง และกลุ่มเป้าหมายต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี
ประเด็นที่สี่ การกำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน กับคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งในระดับส่วนกลาง ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน และระดับจังหวัด ได้แก่ คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กรุงเทพมหานคร ที่มีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นประธาน และคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน
อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับใหม่ ได้ให้อำนาจคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่มีรัฐมนตรีว่าการสาธารณสุขเป็นประธาน กำหนดวัน เวลาในการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นคนกำหนด
ทั้งนี้ ร่างพ.ร.บ.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่เพิ่งผ่านวาระที่สามของสภาผู้แทนราษฎรไป ยังต้องให้วุฒิสภาเห็นชอบก่อนที่จะประกาศบังคับใช้
ชื่อ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
คำปรารภ (มีการแก้ไข)
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 33 มาตรา 34 มาตรา 35 มาตรา 37 และมาตรา 40 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
เหตุผลและความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัตินี้เพื่อให้การควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งการตราพระราชบัญญัตินี้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา 26 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว
@ ยกเลิกประกาศคณะปฏิวัติ-ปลดล็อกเวลาขาย
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....” (ไม่มีการแก้ไข)
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหกสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (มีการแก้ไข)
มาตรา 3 (มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิก (1) ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2515
ทั้งนี้ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ฯ ข้อ 2 ให้จำหน่ายสุราได้เฉพาะตั้งแต่เวลา 11.00 น. ถึงเวลา 14.00 น. และตั้งแต่เวลา 17.00 น. ถึงเวลา 24.00 น.
(2) คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ลงวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.2558 เฉพาะข้อ 6
ทั้งนี้ คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ฯ ข้อ 6 กำหนดห้ามมิให้มีสถานที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษาหรือหอพักในบริเวณใกล้เคียงสถานศึกษา
มาตรา 4 (ไม่มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิกความในบทนิยามคำว่า “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
““เครืองดื่มแอลกอฮอล์” หมายความรวมถึง วัตถุทั้งหลายหรือของผมที่มีแอลกอฮอล์ซึ่งสามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับน้ำสุรา หรือซึ่งดื่มกินไม่ได้แต่เมื่อได้ผสมกับน้ำหรือของเหลวอย่างอื่นแล้วสามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับน้ำสุรา แต่ไม่รวมถึงเครื่องดื่มที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกินศูนย์จุดห้าดีกรี ยา ผลิตภัณฑ์สมุนไพร วัตถุออกฤทธิ์ และยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น”
มาตรา 5 (ไม่มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิกความในบทนิยามคำว่า “การสื่อสารการตลาด” ในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
““การสื่อสารการตลาด” หมายความว่า การกระทำในรูปแบบต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขายสินค้าหรือบริการ หรือสร้างภาพลักษณ์ ซึ่งรวมถึงการประชาสัมพันธ์ การเผยแพร่ข่าวสาร การส่งเสริมการขาย การแสดงสินค้า การจัดหรือสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมพิเศษ และการตลาดแบบตรง”
มาตรา 6 (ไม่มีการแก้ไข)
ให้เพิ่มบทนิยามคำว่า “ผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ระหว่างบทนิยามคำว่า “ผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” และ “ขาย” ในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
““ผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” หมายความว่า บุคคลซึ่งมีพฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพทางร่างกาย จิตใจหรือสังคม หรือเป็นอุปสรรคต่อการทำหน้าที่ในชีวิตประจำวัน ซึ่งควรได้รับการบำบัดรักษา หรือฟื้นฟูสภาพ”
@ ตั้งบอร์ดนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ
มาตรา 6/1 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
ให้เพิ่มบทนิยามคำว่า “การจัดเลี้ยงตามประเพณี” ระหว่างบทนิยามคำว่า “ฉลาก” และ “คณะกรรมการ” ในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติควบคมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
““การจัดเลี้ยงตามประเพณี” หมายความว่า การจัดเลี้ยงที่นิยมถือปฏิบัติสืบต่อกันมาอย่างสม่ำเสมอและโดยปกติจะมีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด”
มาตรา 7 (มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิกความในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 5 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ” ประกอบด้วย
(1) นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ
(2) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นรองประธานกรรมการคนที่หนึ่งและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นรองประธานกรรมการคนที่สอง
(3) กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวนสิบเอ็ดคน ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นเลขานุการ และให้อธิบดีและผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นผู้ช่วยเลขานุการ”
มาตรา 8 (มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิกความใน มาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 8 คณะกรรมการมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(1) กำหนดนโยบาย แผนงาน และมาตรการควบคุมคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้านภาษีหรือด้านต่าง ๆ ตลอดจนการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
(2) เสนอยุทธศาสตร์หรือแผนปฏิบัติการด้านการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบ
(3) ติดตามประเมินผลและตรวจสอบการดำเนินงานตาม (1) และ (2) รวมทั้งการดำเนินงานตามพระราชบัญญัตินี้
(4)ให้คำปรึกษา แนะนำ หรือให้ความเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
(5) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่บัญญัติไว้ไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นหรือตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย”
มาตรา 9 (ตัดออก:ดูรูป)
@ ดึง ตัวแทนเจ้าสัวน้ำเมา นั่ง บอร์ดควบคุมฯ
มาตรา 10 (มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิกความใน มาตรา 10 มาตรา 11 มาตรา 12 มาตรา 13 มาตรา 14 และมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 10 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ประกอบด้วย
(1) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานกรรมการ
(2) ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นรองประธานกรรมการคนที่หนึ่ง ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นรองประธานกรรมการคนที่สอง และปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นรองประธานกรรมการคนที่สาม
(3) กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวนสิบสามคน ได้แก่ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมันคงของมนุษย์ ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม อัยการสูงสุด ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
(3/1) ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนานสองคน ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งตั้งจากบุคคลซึ่งได้รับการคัดเลือกจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย หรือสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด
(3/2) ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้แทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
(3/3) ผู้แทนองค์กรที่เป็นนิติบุคคลซึ่งมีวัตถุประสงค์ด้านการผลิต นำเข้า หรือขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวนหนึ่งคน ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งได้รับการคัดเลือกจากองค์กร ดังกล่าวตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด
(4) ผู้แทนองค์กรเอกชน จำนวนสี่คน ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งได้รับการคัดเลือกจากองค์กรเอกชนที่มีวัตถุประสงค์มิใช่เป็นการแสวงหากำไร และดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับด้านการสนับสนุนและรณรงค์ให้มีการลดการบริโภคหรือผลกระทบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้านการคุ้มครองเด็กและเยาวขนหรือสตรี ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค สุขภาพ หรือสาธารณสุข และต้านการศึกษาหรือวัฒนธรรม ด้านละหนึ่งคน ทั้งนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนด
(5) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนสี่คน ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ด้านการแพทย์ จิตวิทยา การสาธารณสุข หรือการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้านเศรษฐศาสตร์หรือนิเทศศาสตร์ ด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ และด้านกฎหมาย หรือสังคมศาสตร์ ด้านละหนึ่งคน
ให้อธิบดีและอธิบดีกรมสรรพสามิตเป็นกรรมการและเลขานุการร่วม ผู้อำนวยการเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ และให้ผู้อำนวยการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของสำนักงานหนึ่งคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ
@ เปิดสเปก บอร์ดควบคุมฯ
มาตรา 11 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
กรรมการตามมาตรา 10 (3/3) (4) และ (5) ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(1) มีสัญชาติไทย
(2) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(3) ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปี หรือเป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(4) ไม่เคยต้องคำพิพากษาว่ามีความผิดในคดีที่เกี่ยวเนื่องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เว้นแต่พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี
(5) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งในทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งที่รับผิดชอบในการบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง
(6) ไม่เป็นผู้ประกอบกิจการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือมีส่วนได้เสียในกิจการเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เว้นแต่เป็นกรรมการตามมาตรา 10 (3/3)
(7) ไม่เป็นผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
มาตรา 12 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
กรรมการตามมาตรา 10 (3/3) (4) และ (5) มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสามปี กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งอาจได้รับการแต่งตั้งอีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระไม่ได้
ในกรณีที่กรรมการพ้นจากตำแหน่งตามวาระในวรรคหนึ่ง ให้ดำเนินการแต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่ภายในเก้าสิบวัน ในระหว่างที่ยังมิได้มีการแต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่ ให้กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตำแหน่งเพื่อดำเนินงานต่อไปจนกว่ากรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่
มาตรา 13 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการตามมาตรา 10 (3/3) (4) และ (5) พ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) รัฐมนตรีให้ออก
(4) ขาดคณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา11
ในกรณีที่กรรมการตามมาตรา 10 (3/3) (4) และ (5) พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระให้มีการแต่งตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างลง เว้นแต่ว่าระของกรรมการจะเหลือไม่ถึงเก้าสิบวันและ ในระหว่างที่ยังมิได้แต่งตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่าง ให้คณะกรรมการควบคุมประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มีอยู่และปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้
มาตรา 14 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
ในกรณีที่มีการแต่งตั้งกรรมการตามมาตรา 10 (3/3) (4) และ (5) ในระหว่างที่กรรมการตามมาตรา 10 (3/3) (4) และ (5) ซึ่งแต่งตั้งไว้แล้วยังมีวาระอยู่ในตำแหน่งไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งเพิ่มขึ้นหรือแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง ให้ผู้ได้รับแต่งตั้งนั้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้วนั้น
@ เสียงข้างมาก-ประธานชี้ขาด
มาตรา 15 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
การประชุมคณะกรรมการควบคุมต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดจึงเป็นองค์ประชุม
ให้ประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ในกรณีที่ประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการคนที่หนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม หากรองประธานกรรมการคนที่หนึ่งไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการคนที่สองเป็นประธานในที่ประชุม หากรองประธานกรรมการคนที่สองไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการคนที่สามเป็นประธานในที่ประชุม หากรองประธานกรรมการคนที่สามไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการซึ่งมาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม
การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
ให้มีการประชุมคณะกรรมการควบคุมอย่างน้อยปีละละสองครั้ง”
มาตรา 10/1 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 15/1 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
“มาตรา 15/1 ในการปฏิบัติหน้าที่ กรรมการผู้ใดมีส่วนได้เสียในเรื่องที่พิจารณาให้แจ้งให้ที่ประชุมทราบ และให้กรรมการผู้นั้นชี้แจงข้อเท็จจริงและตอบข้อชักถามเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการควบคุม แล้วต้องออกจากที่ประชุม โดยจะมีมติในเรื่องนั้นมิได้ การลงมติในเรื่องดังกล่าวให้กระทำโดยลับ
การแจ้งและการพิจารณาความมีส่วนได้เสียของกรรมการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามระเบียบที่คณะกรรมการควบคุมกำหนด”
@ อำนาจบอร์ดควบคุมน้ำเมา
มาตรา 11 (มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิกความใน มาตรา 16 และมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 16 คณะกรรมการควบคุมมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(1) เสนอนโยบาย แผนงาน และมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้านภาษีหรือด้านต่าง ๆ รวมทั้งมาตรการในการป้องกันและลดผลกระทบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อคณะกรรมการ
(2) เสนอยุทธศาสตร์หรือแผนปฏิบัติการด้านการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อคณะกรรมการ
(3) ออกประกาศหรือระเบียบหรือให้คำแนะนำต่อรัฐมนตรีในการออกประกาศหรือระเบียบเพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ แล้วแต่กรณี
(4) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(5) เสนอต่อคณะรัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการเพื่อพิจารณาให้มีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดสรรงบประมาณ หรือจัดหาแหล่งเงินที่เหมาะสมและจำเป็น รวมทั้งให้การสนับสนุนด้านอื่น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และในการดำเนินการอื่นตามพระราชบัญญัตินี้
(6) พิจารณามอบหมายให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กรุงเทพมหานครและคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดใช้อำนาจดำเนินการตามที่พระระราชบัญญัตินี้บัญญัติให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการควบคม โดยจะกำหนดหลักเกณฑ์หรือกรอบการใช้อำนาจให้ต้องปฏิบัติด้วยก็ได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีการเสนอให้มีการมอบหมายหรือไม่
(7) กำหนดหลักเกณฑ์การรับฟังความคิดเห็นของผู้อาจได้รับผลกระทบจากการดำเนินการของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กรุงเทพมหานครและคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดตาม (6)
(8) ให้คำปรึกษา แนะนำ และประสานงานแก่หน่วยงานของรัฐและเอกชนเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งการเสนอมาตรการในการป้องกันผลกระทบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(9) จัดให้มีหรือส่งเสริมและสนับสนุนการเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการให้แก่เยาวชนและประชาชนโดยทั่วไปให้เข้าใจถึงโทษและพิษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(10) เชิญข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือบุคคลหนึ่งบคคลใดมาให้ข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็น หรือให้จัดส่งเอกสารหรือข้อมูล เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้
(11) ติดตาม ประเมินผล และตรวจสอบการดำเนินการของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กรุงเทพมหานครและคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดเพื่อให้ปฏิบัติตามนโยบาย แผนงาน และมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามพระราชบัญญัตินี้และการได้รับมอบหมายให้ดำเนินการตาม (6) รวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการรายงานผลการดำเนินการดังกล่าว แล้วรายงานผลต่อคณะกรรมการอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
(12) กำหนดคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการแต่งตั้งและการฝึกอบรมอาสาสมัครตามมาตรา 25 (6/1)
(13) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือตามที่คณะรัฐมนตรีหรือคณะกรรมการมอบหมาย
มาตรา 17 คณะกรรมการควบคมมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อปฏิบัติการตามที่คณะกรรมการควบคุมมอบหมาย
ให้นำบทบัญญัติมาตรา 12 มาตรา 15 และมาตรา 15/1 มาใช้บังคับกับวาระการดำรงตำแหน่งและการประชุมของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานด้วยโดยอนุโลม”
@ ตั้งบอร์ดควบคุมฯกทม.-ผู้ว่าฯ หัวโต๊ะ
มาตรา 12 - มาตรา 16 (กมธ.ตัดออก : ดูรูป)
มาตรา 17 (มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิกความในมาตรา 18 มาตรา 19 มาตรา 20 และมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 18 ให้มีคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย
(1) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานกรรมการ
(2) ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นรองประธานกรรมการ
(3) กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวนสิบสี่คน ได้แก่ ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ผู้แทนสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้แทนกรมประชาสัมพันธ์ ผู้แทนกรมสรรพสามิต ผู้แทนกรมการปกครอง ผู้แทนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้แทนกรมคุมประพฤติ ศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ และผู้อำนวยการ
(3/1) ผู้แทนสภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร
(4) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนสามคน ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ด้านสังคม หรือ คุ้มครองผู้บริโภค ด้านสาธารณสุข และด้านกฎหมาย ด้านละหนึ่งคน
ให้ผู้อำนวยการสำนักอนามัยเป็นกรรมการและเลขานุการ ในการนี้ ผู้อำนวนการสำนักอนามัยจะแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ในสำนักอนามัยไม่เกินสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการก็ได้
@ คกก.ควบคุมฯจังหวัด-นายกอบจ.รองประธาน
มาตรา 19 (มีการแก้ไข)
ให้มีคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด ประกอบด้วย
(1) ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือรองผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานกรรมการ
(2) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นรองประธานกรรมการ
(3) กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวนสิบคน ได้แก่ อัยการจังหวัด ปลัดจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ประชาสัมพันธ์จังหวัด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ศึกษาธิการจังหวัด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัด และผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่รับผิดชอบในเขตจังหวัด
(3/1) ผู้แทนสภาเด็กและเยาวชนจังหวัด
(4) กรรมการโดยตำแหน่งซึ่งผู้ว่าราชกาจังหวัดแต่งตั้ง ได้แก่ สรรพสามิตพื้นที่จำนวนหนึ่งคน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายในเขตจังหวัด จังหวัดละไม่เกินสามคน
(5) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนสามคน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ด้านสังคม หรือ คุ้มครองผู้บริโภค ด้านสาธารณสุข และด้านกฎหมาย ด้านละหนึ่งคน
ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเป็นกรรมการและเลขานุการ ในการนี้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจะแต่งตั้งข้าราชการในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดไม่เกินสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการก็ได้
มาตรา 20 ให้นำบทบัญญัติมาตรา 11 มาตรา 12 มาตรา 13 และมาตรา 14 มาใช้บังคับกับการดำรงตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่ง การแต่งตั้งกรรมการแทน และการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 18 และมาตรา 19 ด้วยโดยอนุโลม เว้นแต่อำนาจของรัฐมนตรีตามมาตรา 13 (3) ให้เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วแต่กรณี
มาตรา 21 ให้นำบทบัญญัติมาตรา 15 และมาตรา 15/1 มาใช้บังคับกับการประชุมของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กรุงเทพมหานครและคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดด้วยโดยอนุโลม”
@ อำนาจบอร์ดควบคุมฯ กทม.- จังหวัด
มาตรา 18 (มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิกความในมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 22 คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กรุงเทมหานครและคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด มีหน้าที่และอำนาจในเขตกรุงเทพมหานครหรือในเขตจังหวัด แล้วแต่กรณี ดังต่อไปนี้
(1) เสนอความเห็นเกี่ยวกับนโยบาย มาตรการ และการบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อคณะกรรมการหรือคณะกรรมการควบคุม
(2) ดำเนินการตามนโยบาย แผนงาน และมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการควบคุมตามมาตรา 16 (6) ตลอดจนดำเนินการให้มีแผนงานในระดับจังหวัดเพื่อการดำเนินการดังกล่าว
(3) ดำเนินการเพื่อให้มีการบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(4) ให้คำปรึกษา แนะนำ และประสานงานแก่หน่วยงานของรัฐและเอกชนเกี่ยวกับการควบคุมการผลิต การนำเข้า การขาย การโฆษณา และการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งการเสนอมาตรการในการป้องกันและลผลกระทุบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(5) กำหนดแนวทางปฏิบัติในการลดและเลิกการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันมิให้เด็กและเยาวชนไปเกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(6) กำหนดแนวทางปฏิบัติให้สอดคล้องกับนโยบายของคณะกรรมการในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(7) ติดตาม ประเมินผล และตรวจสอบการดำเนินมาตรการและการบังคับใช้กฎหมาย แล้วรายงานผลต่อคณะกรรมการควบคุม
(8) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือตามที่คณะกรรมการ หรือคณะกรรมการควบคุมมอบหมาย”
มาตรา 19 - มาตรา 21 กมธ.ตัดออก (ดูรูป)
มาตรา 21/1 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 22/1 และมาตรา 22/2 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
“มาตรา 22/1 ในกรณีที่มีความจำเป็น คณะกรรมการควบคมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด อาจเสนอต่อคณะกรรมการควบคุมเพื่อพิจารณามอบหมายให้ใช้อำนาจดำเนินการตามที่พระราชบัญญัตินี้บัญญัติให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการควบคุมก็ได้ โดยต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือกรอบการใช้อำนาจที่คณะกรรมการควบคุมกำหนด
มาตรา 22/2 ในการใช้อำนาจดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ ควบคุมตามมาตรา 16 (6) คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กรุงเทพมหานคร หรือ คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากการดำเนินการดังกล่าวก่อนการดำเนินการด้วย ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การรับฟังความคิดเห็นให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการควบคุมกำหนด”
มาตรา 22 (มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิกความในมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 25 ให้สำนักงานมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(1) ปฏิบัติงานธุรการ งานเลขานุการ งานวิชาการ และกิจการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงานของคณะกรรมการและคณะกรรมการควบคุม
(2) ดำเนินการหรือจัดให้มีระบบและกลไกเพื่อให้เกิดการเฝ้าระวัง การป้องกันการบังคับใช้กฎหมาย การรวบรวมพยานหลักฐานและการตรวจสอบการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งการประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติตามและการบังคับใช้มาตรการตามกฎหมายให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดปัญหา และผลกระทบเชิงลบที่เกิดขึ้นจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(3) ดำเนินการหรือสนับสนุนการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย พัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งดำเนินการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามนโยบาย แผนงาน และมาตรการต่าง ๆ ของหน่วยงานของรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องแล้วรายงานต่อคณะกรรมการควบคุมเพื่อพิจารณาเสนอต่อคณะกรรมกรรมการ
(4) ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของพนักงานเจ้าหน้าที่หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องให้มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งให้สามารถสร้างความตระหนักรู้ถึงโทษพิษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับประชาชนเพื่อลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(5) ประสานงานและร่วมมือกับคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(6) เป็นศูนย์กลางข้อมูลเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (6/1) เสนอต่ออธิบดีเพื่อจัดให้มีอาสาสมัครในกรณีที่มีความจำเป็น เพื่อช่วยเหลือหรือสนับสนุนงานด้านการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามพระราชบัญญัตินี้ โดยจะต้องเป็นไปตามคณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการควบคมกำหนดตามมาตรา 16 (12)
(7) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือตามที่คณะกรรมการ หรือคณะกรรมการควบคุมมอบหมาย”
@ เปิดช่องขายเหล้าในสถานที่ราชการ
มาตรา 22/1 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
ให้ยกเลิกความในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติควบคมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 26 ให้ผู้ผลิตหรือนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปฏิบัติดังต่อไปมี
(1) จัดให้มีบรรจุภัณฑ์ ฉลาก พร้อมทั้งข้อความคำเตือนสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตหรือนำเข้า ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการควบคุมกำหนดและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
(2) การอื่นตามที่คณะกรรมการควบคุมกำหนดและประกาศในราชกิจจานุเบกษา”
มาตรา 23 (มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิกความใน (3) ของมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(3) สถานที่ราชการ ยกเว้นบริเวณที่จัดไว้เป็นร้านค้า สโมสร หรือบริเวณที่จัดไว้เพื่อการอื่นตามที่คณะกรรมการควบคุมประกาศกำหนด”
มาตรา 23/1 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
ให้ยกเลิกความใน (8) ของมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“สถานที่อื่นที่คณะกรรมการควบคุมประกาศกำหนด”
มาตรา 23/2 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 28 ห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันหรือเวลาที่คณะกรรมการควบคุมประกาศกำหนด ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวจะกำหนดเงื่อนไขหรือข้อยกเว้นใด ๆ เท่าที่จำเป็นไว้ด้วยก็ได้”
มาตรา 23/3 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
ให้ยกเลิกความในมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติควบคมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 29 ห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลดังต่อไปนี้
(1) บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
(2) บุคคลที่มีอาการมึนเมา
เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องดำเนินการ ดังต่อไปนี้
(1) ในกรณีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับอายุของผู้ซื้อหรือผู้รับการให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แจ้งให้บุคคลดังกล่าวแสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือหลักฐานอื่นที่ทางราชการออกให้ซึ่งแสดงอายุของบุคคลนั้นก่อน แล้วแต่กรณี
(2) ให้ผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พิจารณาตรวจสอบอาการมึนมาของบุคคลเท่าที่จำเป็นและสมควรตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีกำหนด
ผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อกระทำโดยฝ่าฝืนข้อห้ามตามวรรคหนึ่ง เป็นเหตุเกี่ยวเนื่องโดยตรงที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพอนามัย ทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดของบุคคคลอื่น ผู้นั้นกระทำละเมิดต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น”
@ ขายเหล้าผ่านเครื่องขายอัตโนมัติได้
มาตรา 23/4 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
ให้ยกเลิกความใน (1) ของมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(1) ใช้เครื่องขายอัตโนมัติ ยกเว้นเครื่องขายอัตโนมัติที่ยืนยันตัวตนผู้ซื้อได้ และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการควบคุมประกาศกำหนด”
มาตรา 24 (มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิกความใน (3) ของมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่อง พ.ศ.2561 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(3) สถานที่ราชการ ยกเว้นบริเวณที่จัดไว้เป็นที่พักส่วนบุคคล สโมสร การจัดเลี้ยงตามประเพณี หรือบริเวณที่จัดไว้เพื่อการอื่นตามที่คณะกรรมการควบคุมประกาศกำหนด”
มาตรา 24/1 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
ให้ยกเลิกความใน (4) ของมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(4) สถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ ยกเว้นบริเวณที่จัดไว้เป็นที่พักส่วนบุคคลหรือสโมสร หรือการจัดเลี้ยงตามประเพณี หรือสถานศึกษาที่มีการจัดการเรียนการสอนด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับการรับรองตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น”
มาตรา 24/2 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
ให้ยกเลิกความใน (7) ของมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(7) สถานที่อื่นที่คณะกรรมการควบคุมประกาศกำหนด”
มาตรา 25 (มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิกความในมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 32 ห้ามผู้ใดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่หรือบริเวณที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสถานที่หรือบริเวณที่จัดบริการเพื่อให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อประโยชน์ในทางการค้า ในเวลาที่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามมาตรา 28 ทั้งนี้ คณะกรรมการควบคุมจะประกาศกำหนดเงื่อนไขหรือข้อยกเว้นใด ๆ เท่าที่จำเป็นไว้ด้วยก็ได้”
@ เพิ่มหมวดการโฆษณา
มาตรา 26 (มีการแก้ไข)
ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นหมวด 4/1 การโฆษณา มาตรา 32/1 มาตรา 32/2 มาตรา 32/3 มาตรา 32/4 และมาตรา 32/5 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
หมวด 4/1 การโฆษณา
มาตรา 32/1 (มีการแก้ไข/ตามนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ กมธ.เสียงข้างน้อย)
ห้ามผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เว้นแต่เป็นการให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้ “หรือประชาสัมพันธ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด โดยคำแนะนำของคณะกรรมการควบคุม โดยอย่างน้อยต้องประกอบด้วยเรื่องดังต่อไปนี้
(1) การให้ข้อมูลข่าวสาร ความรู้ หรือประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับคุณภาพ ปริมาณ มาตรฐาน ส่วนประกอบ หรือแหล่งกำเนิดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยไม่มีลักษณะการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงให้ผู้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(2) เป้าหมายต้องไม่เป็นบุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่ายี่สิบปี
(3) การไม่ใช้ช่องทางการสื่อสารที่แพร่หลายหรือประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้โดยสะดวก
(4) การไม่อ้างสรรพคุณอันเป็นเท็จ เกินความจริง หรือทำให้เข้าใจผิดในสรรพคุณของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(5) การกำหนดให้มีข้อความคำเตือน
มาตรา 32/2 (มีการแก้ไข)
ห้ามผู้ใดใช้ชื่อเสียง เพื่อแสวงหาประโยชน์ส่วนตนสื่อสารข้อมูลต่อสาธารณชนโดยการแสดงชื่อ หรือ เครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมุ่งหมายชักจูงใจให้ผู้อื่นบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เว้นแต่เป็นการสื่อสารทางวิชาการให้แก่สมาชิกในวงจำกัด ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด โดยคำแนะนำของคณะกรรมการควบคุม
มาตรา 32/3 (ไม่มีการแก้ไข)
ห้ามผู้ใดโฆษณาผลิตภัณฑ์หรือสิ่งอื่นใดที่ใช้ชื่อ หรือ เครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นชื่อ หรือเครื่องหมายของผลิตภัณฑ์หรือสิ่งนั้น หรือ โฆษณาโดยการนำเอาชื่อ เครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาตัด ต่อเติม หรือดัดแปลงข้อความให้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อ หรือ เครื่องหมายของผลิตภัณฑ์หรือสิ่งนั้น ทั้งนี้ ในลักษณะที่อาจทำให้เข้าใจได้ว่า หมายความถึงการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
มาตรา 32/4 (มีการแก้ไข)
ห้ามผู้ใดให้การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม หรือ เพื่อสาธารณะประโยชน์แก่บุคคล กลุ่มบุคคล หน่วยงานของรัฐ หรือ องค์กรเอกชน ในลักษณะที่ส่งเสริมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการควบคุม
มาตรา 32/5 (มีการแก้ไข)
ห้ามผู้ใดเผยแพร่กิจกรรมหรือข่าวสารเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมอันมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 32/4
มาตรา 27 (ไม่มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิกชื่อหมวด 5 การบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
หมวด 5 การบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
มาตรา 28 (มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิกความในมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 33 ผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ องค์กรชุมชน องค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหากำไรและมีวัตถุประสงค์ด้านสุขภาพหรือสาธารณสุข หรือสถานพยาบาลของรัฐ หรือ เอกชน อาจขอรับการส่งเสริม หรือสนับสนุนเพื่อการบำบัดรักษา หรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากสำนักงานหรือหน่วยงานอื่นตามที่คณะกรรมการควบคุมกำหนดได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการควบคุมกำหนด
มาตรา 28/1 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 33/1 และมาตรา 33/2 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
“มาตรา 33/1 เมื่อสำนักงานหรือหน่วยงานอื่นที่คณะกรรมการควบคุมกำหนดได้รับคำขอรับการส่งเสริมหรือสนับสนุนเพื่อการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามมาตรา 33 ให้สำนักงานหรือหน่วยงานอื่นที่คณะกรรมการควบคุมกำหนดดำเนินการตามคำขอ หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามคำขอดังกล่าว
ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้กระทรวงสาธารณสุข กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดรักษา ฟื้นฟู หรือสร้างเสริมสุขภาพ ดำเนินการตามคำขอในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจของแต่ละหน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
มาตรา 33/2 เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คณะกรรมการควบคุมอาจเสนอคณะรัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการเพื่อพิจารณาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังต่อไปนี้
(1) สนับสนุนงบประมาณ หรือจัดหาแหล่งเงินที่เหมาะสมและจำเป็น รวมถึงให้การสนับสนุนด้านอื่นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการบำบัดหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
(2) ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ
@ สั่งปิด-เพิกถอนใบอนุญาต
มาตรา 29 (มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิกความในมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 34 ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(1) เข้าไปในสถานที่ทำการของผู้ผลิต นำเข้า หรือขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สถานที่ผลิต นำเข้า หรือขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สถานที่เก็บเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในเวลาทำการของสถานที่นั้น รวมถึงเข้าตรวจสอบยานพาหนะเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้
(2) เข้าไปในสถานที่หรือบริเวณที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสถานที่หรือบริเวณที่จัดบริการเพื่อให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อประโยชน์ทางการค้า เพื่อตรวจสอบหรือควบคุมการปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรา 28 มาตรา 29 มาตรา 30 และมาตรา 32 ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่า จะมีการกระทำความผิดตามมาตราดังกล่าว
(3) เรียกหรือขอดูบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารอื่นใด ซึ่งระบุชื่อที่อยู่และปรากฏรูปถ่ายของผู้ถือบัตรเพื่อบันทึกข้อมูล ในกรณีที่มีการกระทำความผิดหรือกรณีที่มีหลักฐานตามสมควรว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้
(4) ตรวจสอบหรือรวบรวมพยานหลักฐานหรือวัตถุอื่นใด เพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดี
(5) ยึดหรืออายัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้ขายที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี
(6) มีหนังสือเรียกบุคคลใดมาให้ถ้อยคำหรือให้ส่งเอกสารหรือวัตถุใดมาเพื่อประกอบการพิจารณา
(7) ตักเตือนผู้กระทำความผิดหรือสั่งให้ผู้กระทำความผิดระงับหรือแก้ไขการกระทำนั้นซึ่งรวมถึงการสั่งให้ระงับการเผยแพร่สื่อโฆษณา
(8) สั่งปิดสถานที่ สถานประกอบการ หรือสถานบริการซึ่งใช้กระทำความผิด หรือแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานของรัฐซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องดำเนินการสั่งปิดสถานที่ สถานประกอบการ หรือสถานบริการซึ่งใช้กระทำความผิดหรือดำเนินการอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการนั้นหรือกฎหมายอื่นให้อำนาจไว้โดยเฉพาะ
(9) แจ้งให้ผู้ออกใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิตสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตผลิตสุรา ใบอนุญาตขายสุรา หรือใบอนุญาตนำสุราเข้ามาขายในราชอาณาจักร
มาตรา 30 (มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิกความในมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 36 เมื่อพบการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ยกเว้นความผิดฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 29 พนักงานเจ้าหน้าที่จะตักเตือนผู้กระทำความผิดเป็นลายลักษณ์อักษร หรือสั่งให้ระงับหรือแก้ไขการกระทำนั้นซึ่งรวมถึงการสั่งให้ระงับการเผยแพร่สื่อโฆษณาก็ได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการควบคุมประกาศกำหนด
หากพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตักเตือนหรือสั่งระงับหรือให้แก้ไขการกระทำตามวรรคหนึ่งแล้ว แต่ผู้กระทำความผิดไม่ดำเนินการ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัตินี้”
มาตรา 30/1 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 36/1 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
“มาตรา 36/1 นอกจากการดำเนินการตามมาตรา 36 แล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะดำเนินการดังต่อไปนี้ด้วยก็ได้
(1) กรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 27 มาตรา 28 มาตรา 29 มาตรา 30 และมาตรา 32/1 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สั่งปิดสถานที่ สถานประกอบการ หรือสถานบริการซึ่งใช้กระทำความผิด เป็นระยะเวลาครั้งละไม่เกินหนึ่งปี หรือแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่หรือพนักงานของรัฐซึ่งมีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องพิจารณาสั่งปิดสถานที่ สถานประกอบการ หรือสถานบริการซึ่งใช้กระทำความผิดหรือดำเนินการอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการนั้นหรือกฎหมายอื่นให้อำนาจไว้โดยเฉพาะ
(2) กรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 26 มาตร 27 มาตรา 28 มาตรา 29 มาตรา 30 และมาตรา 32/1 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้ออกใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิตพิจารณาสั่งพักใช้หรือเพิกถอน ใบอนุญาตผลิตสุรา ใบอนุญาตขายสุรา หรือใบอนุญาตนำสุราเข้ามาขายในราชอาณาจักร แล้วแต่กรณี
การสั่งปิดหรือการแจ้งให้ผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการควบคุมประกาศกำหนด
มาตรา 31 (ไม่มีการแก้ไข)
ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นหมวด 6/1 มาตรการปรับเป็นพินัย มาตรา 37/1 และมาตรา 37/2 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
@ จำคุกไม่เกิน 1 ปี – ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
หมวด 6/1 มาตรการปรับเป็นพินัย
มาตรา 37/1 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 32 มีความผิดทางพินัย ต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท (ไม่มีการแก้ไข)
มาตรา 37/2 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 34 (6) โดยไม่มีเหตุอันควร มีความผิดทางพินัย ต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกินสองหมื่นบาท
มาตรา 31/1 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
ให้ยกเลิกความในมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 40 ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยฝ่าฝืนมาตรา 29 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เว้นแต่ผู้นั้นได้ดำเนินการตามมาตรา 29 วรรคสองแล้ว”
มาตรา 31/2 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 40/1 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
“มาตรา 40/1 ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยฝ่าฝืนมาตรา 30 (1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
มาตรา 32 (มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิกความในมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 43 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 32/1 หรือ มาตรา 32/3 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
หากการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง เป็นการกระทำของผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือ ผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือ ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากต้องระวางโทษตามวรรคหนึ่ง หรือ วรรคสองแล้ว ผู้ฝ่าฝืนยังต้องระวางโทษปรับอีกวันละไม่เกินห้าหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง”
มาตรา 33 (มีการแก้ไข)
ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 43/1 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
“มาตรา 43/1 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 32/2 มาตรา 32/4 หรือมาตรา 32/5 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
หากการกระทำความผิดตามมาตรา 32/4 หรือ มาตรา 32/5 เป็นการกระทำขอผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือ ผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือ ปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากต้องระวางโทษตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองแล้ว ผู้ฝ่าฝืนยังต้องระวางโทษปรับอีกวันละไม่เกินห้าหมื่นบาทตลอดระยะเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง”
มาตรา 34 (มีการแก้ไข)
ให้ยกเลิกความในมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 44 ผู้ใดต่อสู้หรือขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 34 (1) (2) (3) (4) หรือ (5) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ”
มาตรา 34/1 (กมธ.เพิ่มขึ้นใหม่)
ในวาระเริ่มแรก ให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ประกอบด้วย กรรมการตามมาตรา 10 (1) (2) และ (3) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ และให้อธิบดีกรมควบคุมโรคและอธิบดีกรมสรรพสามิตเป็นกรรมการและเลขานุการร่วม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปพลางก่อนจนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการตามมาตรา 10 (3/1) (3/3) (4) และ (5) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งต้องไม่เกินหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ทั้งนี้ ให้ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หนึ่งคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ
มาตรา 35 (มีการแก้ไข)
ให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัด ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ คงอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้ง คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการควบคุมเครื่องดิ่มแอลกอฮอล์จังหวัดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งต้องไม่เกินหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา 36 (ไม่มีการแก้ไข)
บรรดาใบอนุญาตให้จำหน่ายสุรานอกเวลาที่กำหนดที่ออกให้ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2515 ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้คงใช้ได้ต่อไปจนกว่าใบอนุญาตนั้นจะสิ้นอายุ เว้นแต่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
มาตรา 37 (มีการแก้ไข)
บรรดากฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับให้ใช้บังคับต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ จนกว่าจะมีระเบียบหรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
ให้ดำเนินการออกระเบียบหรือประกาศตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ ให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ หากไม่สามารถดำเนินการได้ ให้รัฐมนตรีรายงานเหตุผลที่ไม่อาจดำเนินการได้ต่อคณะรัฐมนตรี
มาตรา 38 (ไม่มีการแก้ไข)
ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้