"...ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาระหว่างสอบสวน จำเลยไม่ถูกควบคุมตัวโดยได้รับอนุญาตให้ประกันตัวตลอดมา หากจำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวโจทก์ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล ..."
ศาลอาญาอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาในคดีฐานร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, มาตรา 112 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ต.ค.2519 ข้อ 1 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3, 14 (3) พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 8 หลังทนายความยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว วงเงิน 500,000 บาท
ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วในช่วงเช้าวันที่ 18 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้าที่ ศาลอาญา จะอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดังกล่าว
พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา ได้นำตัวนายทักษิณ ผู้ต้องหาที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องในความผิดคดีนี้ มายื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญา
คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ขณะเกิดเหตุในคดีนี้และในปัจจุบันประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดหรือจะกล่าวหาหรือจะฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
เมื่อระหว่างวันที่ 21-22 พ.ค.2558 เวลากลางวัน, ทั้งเวลากลางวันและเวลากลางคืนต่อเนื่องกันตลอดมา จำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้บังอาจร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายอาญา ด้วยการร่วมกันใช้อุปกรณ์ที่มีระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถเชื่อมต่อการทำงานเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์อื่นด้วยกันได้และอุปกรณ์ดังกล่าวได้มีการกำหนดคำสั่ง ชุดคำสั่ง และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ แล้วโพสต์ข้อมูล ภาพ ข้อความ และตัวอักษร ที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ซึ่งตั้งค่าเปิดเป็นสาธารณะ ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ลงในแอปพลิเคชั่น YouTube กับแอปพลิเคชั่น Facebook ดังกล่าวผ่านระบบสัญญานอินเตอร์เน็ตซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)
โดยจำเลยได้พูดให้สัมภาษณ์กับนักข่าวของสำนักข่าว Chosun Media ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี เป็นภาษาไทย เมื่อวันที่ 20 พ.ค.โดยสำนักข่าว Chosun Media มีเว็ปไซต์ข่าว Ur:http//www.Chosun เพื่อใช้ในการเผยแพร่ข่าว และจำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้บังอาจร่วมกันนำคลิปวิดีโอถ้อยคำ การพูดให้สัมภาษณ์ของจำเลยในชื่อ " คลิป ทักษิณให้สัมภาษณ์ทิ้งบอม เบื้องหลัง ยืดอำนาจ อัดสุเทพ บิ๊กทหาร องคมนตรี "เผยแพร่ที่เว็บไซต์ YouTube โดยใช้ชื่อ unthttps:// www.youtube.com/watch?v=tar/yCmbvABgo โดยผู้ที่ใช้ชื่อว่า "news_vivความยาว 1.32นาที และเผยแพร่ที่เว็บไซต์ facebook ชื่อบัญชี "หยุดดัดจริตประเทศไทย" ปรากฏตาม ur!: https://www.focebook.com/ stopfakethailand 2fref=ts อันเป็นการล่วงละเมิด หมิ่นประมาทดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 9 ซึ่งประชาชนหรือบุคคลทั่วไปที่พบเห็นข้อมูล ข้อความ และตัวอักษรที่จำเลยได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวของสำนักข่าว Chosun Media ในกรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลีดังกล่าวเข้าใจว่าการยึดอำนาจ รัฐประหารเป็นเรื่องที่ทหารได้รับคำสั่งมาจากในวังออกมาช่วยในการทำรัฐประหารและอยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร
ทั้งนี้ ราชอาณาจักรไทยมีการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ข้อความดังกล่าวเป็นการมุ่งทำลาย ดูหมิ่นด้วยการใช้ถ้อยคำหยาบคายต่อองค์พระมหากษัตริย์ด้วยความไม่เคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมของศรัทธาและเคารพบูชาของประชาชนชาวไทยเป็นเหตุให้พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 ทรงเสื่อมเสียพระเกียรติยศชื่อเสียงและเป็นการร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาไม่เคารพต่อองค์พระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ และเป็นการกระทำมิบังควรจาบจ้วงล่วงเกินดูหมิ่น หรือกระทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทต่อพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 โดยประการที่น่าจะทำให้พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 ทรงเสื่อมเสีย พระเกียรติยศ ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง และทำให้ประชาชนเสื่อมความเคารพศรัทธาต่อพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายเหตุเกิดที่ เมืองกรุงโซล สาธารณรัฐกาหลี และที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานครและทั่วราชอาณาจักร ต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน
อย่างไรก็ดี ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาระหว่างสอบสวน จำเลยไม่ถูกควบคุมตัวโดยได้รับอนุญาตให้ประกันตัวตลอดมา หากจำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวโจทก์ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของศาล
จำเลยนี้ เป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อม 9/2551 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้จำคุก 1 ปี โดยจำเลยจะพ้นโทษคดีดังกล่าว ในวันที่ 31 ส.ค.2567 ขอศาลนับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้เรียงติดต่อกันกับโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาดังกล่าวด้วย
ศาลพิจารณาเเล้วประทับรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ 1860/2567 โดยศาลอ่านเเละอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังเเล้วจำเลยให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี
หลังจากนั้น ทนายความ นายทักษิณ ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว วงเงิน 500,000 บาท ศาลอาญาอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวออกไป พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกราชอาณาจักรเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
นัดตรวจพยานหลักฐานคดีทั้งสองฝ่าย วันที่ 19 ส.ค.2567 นี้ เวลา 09.00 น.
นับได้ว่า คดีความนี้ ของนายทักษิณ ได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลอาญาเป็นทางการแล้ว