เปิดตัวนักวิจัย ม.ศรีปทุม เจ้าของผลงานเครื่องสูบน้ำนวัตกรรม ก่อน บ.คว้าสัญญารัฐ 957 ล.

"...ต้องขออภัยในความล่าช้าครับ...เนื่องจากทางบริษัท นำพลอินเตอร์เทรด จำกัด ไม่อนุญาตให้ผมสัมภาษณ์และเผยแพร่ข้อมูลงานวิจัยที่ได้ทำร่วมครับ...ต้องขอโทษด้วยครับที่ไม่สามารถให้ข้อมูลในการนำเสนอข่าวได้..."

ISRA-INVESTIGATIVE : ประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกงานจัดซื้อจัดจ้างสินค้าในบัญชีนวัตกรรมไทย ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักงบประมาณ อันเป็นมาตรการส่งเสริมและผลักดันงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ตามนโยบายของรัฐบาล ที่หากหน่วยงานของรัฐมีความต้องการจัดซื้อจัดจ้างตรงตามบัญชีสามารถดำเนินการโดยวิธีการเจาะจงได้ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี 

ในส่วนสินค้า เครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ระบบไฮดรอลิค ซึ่งเป็นสินค้าในบัญชีรายการนวัตกรรมไทย รหัส 02020010 ที่ปรากฎชื่อบริษัท นำพลอินเตอร์เทรด จำกัด เป็นผู้แทนจำหน่าย และขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทย รายเดียว ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำข้อมูลมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้  

นับจนถึงเวลานี้ มีข้อมูลยืนยันเป็นทางการแล้วว่า มีหน่วยงานราชการ 3 แห่ง ที่เป็นคู่ค้าทำสัญญาซื้อขายเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ระบบไฮดรอลิค ด้วยวิธีเจาะจง จาก  บริษัท นำพลอินเตอร์เทรด จำกัด มาใช้งานตามภารกิจ คือ

1. กรมทรัพยากรน้ำ จัดซื้อจำนวน 22 เครื่อง วงเงิน 233,574,000 บาท

2. กรมชลประทาน จัดซื้อจำนวน 64 เครื่อง วงเงิน 679,488,000.00 บาท

3. เทศบาลเมืองบางแก้ว จัดซื้อขนาด 16 นิ้ว และ 24 นิ้ว พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 5 เครื่อง วงเงิน 44,691,000.00 บาท

ทำให้ยอดรวม การขายเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ระบบไฮดรอลิค ของ บริษัท นำพลอินเตอร์เทรด จำกัด โดยวิธีเจาะจง ให้กับหน่วยงานราชการ จนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 91 เครื่อง รวมวงเงิน 957,753,000 บาท

ทั้งนี้ ตามข้อมูลที่ปรากฏไปก่อนหน้านี้ คือ เครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ระบบไฮดรอลิค ของ บริษัท นำพลอินเตอร์เทรด จำกัด ที่ขึ้นทะเบียนไว้ในบัญชีรายการนวัตกรรมไทย รหัส 02020010 เป็นสินค้าที่พัฒนาวิจัยร่วมกันระหว่าง บริษัท นำพลอินเตอร์เทรด จำกัด และ มหาวิทยาลัยศรีปทุม  ช่วงเวลาขึ้นทะเบียน ต.ค.2564 -ต.ค.2569 รวมระยะเวลา 5 ปี  มี 3 รุ่น ได้แก่ 

1) รุ่น NIT AFP16-Q650H5N1500 ขนาด 16 นิ้ว ประกอบด้วยหัวสูบน้ำและเครื่องยนต์ดีเซลเป็นต้นกำลัง สำหรับขับเคลื่อนระบบไฮดรอลิค 7,250,000 บาท /เครื่อง

2) รุ่น NIT AFP24-Q1250H5N800 ขนาด 24 นิ้ว ประกอบด้วยหัวสูบน้ำและเครื่องยนต์ดีเซลเป็นต้นกำลัง สำหรับขับเคลื่อนระบบไฮดรอลิค10,617,000 บาท/เครื่อง

3) รุ่น NIT AFP24-Q1500H4N800 ขนาด 24 นิ้ว ประกอบด้วยหัวสูบน้ำและเครื่องยนต์ดีเซลเป็นต้นกำลัง สำหรับขับเคลื่อนระบบไฮดรอลิค 10,617,000 บาท/เครื่อง

ราคารวมค่าจัดส่ง และรับประกันการใช้งานเป็นระยะเวลา 1 ปี (ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ https://innovation.bb.go.th/PDF/02020010-582408.pdf)

• พบ 'คู่เทียบ' หจก.ลูกพล.อ.ปรีชา ขายเครื่องสูบไฮดรอลิคสินค้านวัตกรรม ได้งาน กรมฯน้ำ 233 ล.
• เผยโฉม! เครื่องสูบไฮดรอลิคนวัตกรรม ตัวละ 10.6 ล้าน กรมฯ น้ำ ทุ่มซื้อ 22 เครื่อง 233 ล.
• ยอดพุ่ง 913 ล้าน! กรมชลฯ เจ้าแรกเจาะจงซื้อเครื่องสูบไฮดรอลิคนวัตกรรม 64 ตัว 679 ล.ปี 65
• ท.บางแก้ว แห่งที่ 3! ซื้อเครื่องสูบนวัตกรรม 5 ตัว 44.6 ล. ยอดขาย บ.นำพลฯ กระฉูด 957 ล.

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลพบว่า เว็บไซต์ https://thaiinnovation.center/2022/02/hydraulicpump เคยเผยแพร่ข่าว เกี่ยวกับเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ระบบไฮดรอลิก ในบัญชีรายการนวัตกรรมไทย รหัส 02020010 ว่า เป็นผลงานวิจัยของ ดร.เกียรติศักดิ์ สกุลพันธุ์ ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและนวัตกรรมอุตสาหกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้รับการขึ้นทะเบียนนวัตกรรมไทย พร้อมถูกนำไปใช้จริงในการบริหารจัดการน้ำเมืองในโครงการภาครัฐ ช่วยยกระดับวงการเครื่องสูบน้ำไทย ให้สามารถสูบน้ำขนาดใหญ่ด้วยตนเองได้ โดยไม่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ

เนื้อข่าวดังกล่าว อ้างคำให้สัมภาษณ์ของ ดร.เกียรติศักดิ์ สกุลพันธ์ ว่า  “ตลอดระยะเวลาการศึกษาปริญญาโทและเอก ที่ผ่านมาผมมีแนวคิดว่า ไม่อยากให้วิทยานิพนธ์ทำเป็นแค่เอกสารตีพิมพ์งานทางวิชาการ แต่ควรทำอะไรให้เป็นชิ้นงาน ที่สามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับวิศวกรรมในประเทศได้ งานวิจัยการพัฒนาเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ระบบไฮดรอลิกในครั้งนี้ เป็นอีกผลงานความสำเร็จ ซึ่งได้แรงสนับสนุนทุนจากภาคอุตสาหกรรมอย่าง บริษัท นำพล อินเตอร์เทรด จำกัด เนื่องจากทางบริษัทฯ ต้องการออกแบบเครื่องสูบน้ำ สำหรับการบริหารจัดการน้ำของเมืองในโครงการภาครัฐต่างๆ"

"โดยโจทย์แรกของงาน มีการตั้งคำถามว่า ทั้งที่ประเทศไทยมีบุคลากรทางการศึกษา และภาคเอกชนที่มีความรู้ ความสามารถมากมาย แต่ก็ไม่มีใครคิดจะทำผลิตภัณฑ์ตัวนี้ออกมาจำหน่ายในนามของคนไทย จึงเป็นที่มาของงานวิจัยที่เกิดขึ้น โดยทางบริษัทฯ ได้ทำพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการกับทางมหาวิทยาลัยศรีปทุม และให้ทุนสนับสนุนก้อนแรกจำนวน 4.25 ล้านบาท สำหรับจัดซื้อคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงจำนวน 4 เครื่อง รวมถึงลิขสิทธิ์โปรแกรมสำเร็จรูปทางด้านวิศวกรรมพลศาสตร์ของไหล (ANSYS CFX) ซึ่งเป็นโปรแกรมที่งานทางด้านวิชาการทั่วโลกให้การยอมรับ เพื่อใช้ในการศึกษาวิเคราะห์รูปร่างของใบพัดเครื่องสูบน้ำให้ได้ประสิทธิภาพตามที่ต้องการ”

“ความสำเร็จในการทำวิจัยครั้งนี้ผมโชคดีมากที่ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากท่านอธิการบดี รวมไปถึงท่านคณบดี และคณาจารย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ทุกท่าน ที่คอยช่วยเหลือตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จนกระทั่งงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ซึ่งผมก็ได้นำการวิจัยนี้บางส่วน มาถ่ายทอดให้นักศึกษาทำเป็นโครงงาน และเป็นหัวข้อวิจัยในงานประชุมวิชาการภายในมหาวิทยาลัย รวมไปถึงการจัดซื้อโปรแกรมที่ได้ราคาพิเศษของสถาบันการศึกษา มาส่งต่อถ่ายทอดความรู้ที่มีให้นักศึกษามหาวิทยาลัยของเรา ขณะเดียวกัน ก็คาดหวังว่าจะมีนักศึกษาที่มีความฝัน ความตั้งใจ และความมุ่งมั่น จะนำความรู้จากผมไปต่อยอดสู่สายอาชีพได้ในอนาคต ดังนั้น มหาวิทยาลัยศรีปทุม ถือเป็นองค์ประกอบทั้งหมด ที่มีส่วนช่วยให้งานวิจัยนี้ประสบความสำเร็จ ทุกๆ ครั้งที่ ผมได้มีโอกาสไปประชุมนอกมหาวิทยาลัย ผมจะภาคภูมิใจอยู่เสมอว่า ผมคืออาจารย์ตัวจริง จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม” ดร.เกียรติศักดิ์กล่าว (ดูภาพประกอบ) 

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้ส่งอีเมล์ติดต่อไปยัง ดร.เกียรติศักดิ์ เพื่อขอสัมภาษณ์ประเด็นเกี่ยวกับเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ระบบไฮดรอลิค มีคำถาม ดังนี้

1. ที่มาของเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ระบบไฮดรอลิค

2. บริษัท นำพลอินเตอร์เทรด จำกัด มีความเกี่ยวข้องอย่างไร เป็นผู้มอบทุนในการวิจัยหรือไม่

3. ทราบหรือไม่ว่าบริษัทนำพลนำฯ นำเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ระบบไฮดรอลิค ไปขายให้กับหน่วยงานของรัฐเป็นมูลค่ากว่า 900 ล้านบาท ซึ่งในช่วงเดือน ม.ค. 2566 ขายให้กับกรมทรัพยากรน้ำ จำนวน 22 เครื่อง วงเงิน 233,574,000 บาท (เฉลี่ยเครื่องละ 10,617,000 บาท)

4. ทางบริษัทมีการแบ่งรายได้จากการจำหน่ายเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ระบบไฮดรอลิคให้หรือไม่ หรือมอบผลตอบแทนด้านอื่นหรือไม่

อย่างไรก็ดี  ดร. เกียรติศักดิ์ สกุลพันธ์  ได้ส่งอีเมลแจ้งตอบกลับผู้สื่อข่าวสำนักข่าว แจ้งว่า ไม่สามารถให้ข้อมูลประกอบการนำเสนอข่าวได้ 

ดร. เกียรติศักดิ์ ระบุว่า "ต้องขออภัยในความล่าช้าครับ...เนื่องจากทางบริษัท นำพลอินเตอร์เทรด จำกัด ไม่อนุญาตให้ผมสัมภาษณ์และเผยแพร่ข้อมูลงานวิจัยที่ได้ทำร่วมครับ...ต้องขอโทษด้วยครับที่ไม่สามารถให้ข้อมูลในการนำเสนอข่าวได้"

"บริษัทได้สนับสนุนทุนวิจัย โดยผมรับผิดชอบในส่วนงานวิจัยทางวิชาการตั้งแต่การออกแบบวิเคราะห์ รวมไปถึงควบคุมการจัดสร้างและทดสอบ เพื่อให้ได้สิ่งประดิษฐ์หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาตรงตามความต้องการ การใช้งานของหน่วยงานราชการครับ ประเด็นอื่นๆ อาจจะรบกวนสอบถามตรงกับทาง บริษัท นำพล อินเตอร์เทรด จำกัด น่าจะดีกว่าครับ" 

ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือและเข้าใจครับ

ขอแสดงความนับถือ ลงชื่อ ผศ.ดร. เกียรติศักดิ์ สกุลพันธ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตบางเขน

อนึ่งเกี่ยวกับการทำสัญญาขายเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ระบบไฮดรอลิค ของ บริษัท นำพลอินเตอร์เทรด จำกัด ให้กับกรมทรัพยากรน้ำ กรมชลประทาน เทศบาลบางแก้ว  โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ทั้ง 3 สัญญาดังกล่าว

สำนักข่าวอิศรา รายงานมาตลอดดว่า ยังไม่เคยปรากฏข่าวถูกร้องเรียนความไม่โปร่งใสในขั้นตอนจัดซื้อจ้างแต่อย่างใด

ขณะที่ในช่วงเดือนม.ค.2567 ที่ผ่านมา กรมทรัพยากรน้ำ ได้มีการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์การตรวจเช็คและทดสอบการใช้งานเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ระบบไฮดรอลิค ที่มีการจัดซื้อจาก บริษัท นำพลอินเตอร์เทรด จำกัด และมีการนำไปติดตั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำพื้นที่ต่างๆ พบว่าสภาพการใช้งานโดยร่วมถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ หลังจากการใช้งานมาประมาณ 1 ปีแล้ว