"... ‘พรรคเพื่อไทย’ แก้เกมใหม่ ได้รับสัญญาณจาก ‘คนแดนไกล’ คว่ำกระดาน เซตหมากการเมืองใหม่ ไฟเขียวบรรดา ‘แกนนำ-ส.ส.’ ในพรรค ยื้อแย่งเก้าอี้ตัวนี้มาครอบครองให้ได้ โดยส่งสัญญาณชัด ๆ ผ่านการแถลงของ ‘ชลน่าน ศรีแก้ว’ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยึดสูตร 14+1..."
หากยึดตามภาษิตโบราณ เรียกได้ว่า ‘พรรคก้าวไกล’ กำลังกลายเป็น ‘ตำบลกระสุนตก’
พรรคสีส้มที่ชนะศึกเลือกตั้งด้วยจำนวน ส.ส. 151 ที่นั่ง อยู่ระหว่างเผชิญ ‘วิบากกรรม’ ทั้งปัญหาส่วนตัว กรณี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ถูกคดีเมาแล้วขับ ต้องลาออกจากตำแหน่ง
ลามมาถึงกรณีล่าสุด ส.ส.กทม. เขต 31 ถูกกล่าวหาว่า ทำร้ายร่างกายผู้ช่วยหาเสียงที่เป็น ‘ผู้หญิง’ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคม
ขณะที่สถานการณ์การเมือง กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ถนนทุกสายมุ่งสู่โค้งสุดท้ายจัดตั้งรัฐบาล ‘ก้าวไกล’ เผชิญปัญหา ‘จบไม่ลง’ ศึกชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร
แม้จะเปิดชื่อ ‘หมออ๋อง’ ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 ในฐานะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล มาชิงดำ โดยอ้างว่า เป็นพรรคอันดับ 1 ตามธรรมเนียมต้องได้เป็น ‘ประมุขนิติบัญญัติ’
ทว่า ‘พรรคเพื่อไทย’ แก้เกมใหม่ ได้รับสัญญาณจาก ‘คนแดนไกล’ คว่ำกระดาน เซตหมากการเมืองใหม่ ไฟเขียวบรรดา ‘แกนนำ-ส.ส.’ ในพรรค ยื้อแย่งเก้าอี้ตัวนี้มาครอบครองให้ได้ โดยส่งสัญญาณชัด ๆ ผ่านการแถลงของ ‘ชลน่าน ศรีแก้ว’ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยึดสูตร 14+1 คือ
พรรคเพื่อไทย ได้เก้าอี้รัฐมนตรี 14 คน และเก้าอี้ประธานสภาฯ ในฐานะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ
พรรคก้าวไกล ได้เก้าอี้รัฐมนตรี 14 คน และเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ในฐานะประมุขฝ่ายบริหาร
อย่างไรก็ดีหมากเกมนี้ ‘ก้าวไกล’ ซึ่งฉากหน้าเชื่อใจ ‘เพื่อไทย’ มาตลอด เริ่ม ‘จนแต้ม’ เพราะโดน ‘รุกกินแดน’ เข้าไปจนเกือบสุดกระดาน
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะเสียง ส.ว.ที่ดีลมานานแรมเดือน เริ่มสัญญาณตอบรับหาย จากเดิมมีอย่างน้อย 20 เสียง ตอนนี้คาดว่าเหลือไม่ถึง 5-10 เสียงแล้ว ทำให้การผลักดัน ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรค ขึ้นเป็นนายกฯคนที่ 30 ส่อแววลำบาก
พรรคเพื่อไทย ซึ่งรู้ใส้รู้พุง 250 ส.ว.เป็นอย่างดี ย่อมรับรู้หมากเกมนี้อยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่จะเริ่มรุกหนัก หวังทั้งเก้าอี้ประธานสภาฯ ควบเก้าอี้นายกฯ
ฉากหน้าของดีลลับ ‘เพื่อไทย’ พยายามต่อรองใหม่ในสูตร 15+1 กล่าวคือ ให้เก้าอี้รัฐมนตรีกับพรรคก้าวไกล 15 คน พ่วงนายกฯ ส่วน ‘เพื่อไทย’ ขอแค่รัฐมนตรี 13 คน แต่ต้องการันตีประธานสภาฯ เป็นคนของเพื่อไทย แต่เรื่องนี้ก็ถูกปัดตกไปในวงเจรจา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีการเจรจาลับระหว่างแกนนำเพื่อไทย และก้าวไกลอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยก้าวไกลพยายาม ‘ถอยทุกทาง’ ยอมทุกเงื่อนไข ขอแค่เก้าอี้ประธานสภาฯเป็นของก้าวไกลเท่านั้น
ที่สำคัญแกนนำก้าวไกล ยอมรับสภาพแล้วว่าคงผลักดัน ‘พิธา’ เป็นนายกฯคนที่ 30 เป็นไปได้ยากที่จะฝ่าด่าน ส.ว. จึงพร้อมเปิดทางให้ ‘เพื่อไทย’ เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯได้เลย
ทว่าในเบื้องลึกของดีลลับดังกล่าว ‘เพื่อไทย’ อ่านหมากของ ‘ก้าวไกล’ ออกว่า หากยอมเล่นไปตามเกมนี้ สุดท้ายผลเสียจะตกอยู่กับ ‘เพื่อไทย’ เอง
เนื่องจาก ‘ก้าวไกล’ ชำนาญศึก ‘การตลาดการเมือง’ และมีอิทธิพลในโซเชียลมีเดียยุคนี้อย่างมาก จะพยายามโยนความผิดมายัง ‘เพื่อไทย’ เป็นแพะรับบาปทางการเมือง ที่ทำให้ ‘ก้าวไกล’ จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ และมวลชนจำนวนมาก จะเกิดความโกรธแค้น และในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ‘เพื่อไทย’ อาจพ่ายแพ้มากกว่าเดิม
‘เพื่อไทย’ พยายามแก้เกมกลับด้วยการ ขอแค่เก้าอี้ประธานสภาฯ ส่วนเรื่องโหวตนายกฯ ยืนยันว่าจะหนุน ‘พิธา’ ซึ่งในทางการเมืองเป็นนายกฯได้ยากแล้ว
ขณะนี้ในช่วงเช้าวันที่ 3 ก.ค.2566 มีข่าวสะพัดว่า ทางพรรค เพื่อไทย จะเสนอชื่อคนกลาง คือนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ (ปช.) ชิงตำแหน่งประธานสภา เพื่อเป็นทางออกของเรื่องนี้ แต่คนใกล้ชิด นายวันมูหะมัดนอร์ ก็ยังออกมาปฏิเสธอยู่
สถานการณ์ทางการเมือง ในปัจจุบัน
หนทางต่อไปของ ‘ก้าวไกล’ ถูกวิเคราะห์กันว่า มีแค่ 2 อย่างคือ
1.ยอมกลืนเลือดจุดยืนตัวเอง แล้วอยู่เกาะ ‘เพื่อไทย’ จัดตั้งรัฐบาล โดยอาจไม่มี ‘พิธา’ เป็นนายกฯ แต่อย่างน้อยการันตีตำแหน่งรัฐมนตรี และสามารถบริหารประเทศ ผลักดันนโยบายบางอย่างได้ แต่นโยบาย ‘สุดโต่ง’ อย่างการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อาจถูกพับเก็บไว้
2.แสดงจุดยืนประกาศยอมถอนทัพ กลับมาเป็น ‘ฝ่ายค้าน’ เพื่อตรวจสอบรัฐบาล และรอการเลือกตั้งครั้งใหม่ โดยหนทางนี้มีความเป็นไปได้มากที่สุด เพราะแกนนำก้าวไกลหลายคน ประเมินฉากทัศน์การเมืองไว้แล้วว่า ประเทศไทยกำลังจะไม่เหมือนเดิม หลายคน ‘ตาสว่าง’ มากขึ้นจากการ ‘ปักธงความคิด’ ของพรรค จึงเชื่อว่าหากรออีก 4 ปี จะได้จำนวน ส.ส.มากกว่านี้ และมีสิทธิต่อรองนั่งนายกฯได้มากขึ้น และที่สำคัญ ‘แกนนำพรรค’ รอได้
บทสรุปสุดท้ายของศึกชิงบัลลังก์ประมุขนิติบัญญัติจะจบลงอย่างไร หลังวันที่ 4 ก.ค.66 นี้ น่าจะมีคำตอบที่ชัดเจนกัน
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 