"...การดำเนินการจัดเช่ารถยนต์โดยวิธีพิเศษของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่พบพฤติการณ์อันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทกรุงเทพ ออโต้ ลีซ จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับจ้างรายเดิม หรือเอกชนผู้เสนอราคารายหนึ่งรายใด ทั้งการจัดเช่ารถยนต์ดังกล่าวก็อยู่ในวงเงินงบประมาณและราคากลาง จึงไม่มีความเสียหายแก่ทางราชการแต่อย่างใด..."
กรณีที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติตีตกข้อกล่าวหา นายภาสกร ศิริยะพันธุ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และพวก คือ นางกษมา แฉ่ฉาย นักวิชาการพัสดุชำนาญการพิเศษ นายวัลลวรรธน์ วงศ์ทองดี นักวิชาการพัสดุชำนาญการ กรณีการทุจริตจัดเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในกิจการของกระทรวงการต่างประเทศโดยวิธีพิเศษโดยมีพฤติการณ์เอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชน
เนื่องจากไม่ได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
โดย ป.ป.ช.ระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิด คือ การดำเนินการจัดเช่ารถยนต์ประจําตําแหน่ง จํานวน 39 คัน โดยวิธีพิเศษ ตามสัญญาเลขที่ 401/2561 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2560 และจัดเช่ารถยนต์ส่วนกลาง จํานวน 12 คัน โดยวิธีพิเศษ ตามสัญญาเช่าเลขที่ 400/2561 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2560 เพื่อใช้ในกิจการของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นการดำเนินการจัดเช่ารถแบบเร่งรีบในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2560 เพื่อขออนุมัติจัดเช่าโดยวิธีพิเศษ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 23 (2) เนื่องจากเป็นพัสดุที่ต้องซื้อเร่งด่วน หากล่าช้าจะเสียหายแก่ราชการ และ (6) เป็นพัสดุที่โดยลักษณะของการใช้งาน หรือมีข้อจำกัดทางเทคนิคที่จำเป็นต้องระบุยี่ห้อเป็นการเฉพาะ ซึ่งหมายความรวมถึง...รถประจำตำแหน่ง
โดยมีการแจ้งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ให้บริษัทผู้ประกอบการทราบ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2560 และให้เสนอราคาภายในวันที่ 22 สิงหาคม 2560 ซึ่งเป็นระยะเวลาเพียง 1 วัน ทำให้ผู้ประกอบการรายอื่นไม่สามารถที่จะจัดเตรียมเอกสารเพื่อยื่นเสนอราคาได้ทัน อันเป็นการดำเนินการที่ไม่โปร่งใสและไม่เป็นธรรมเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้ประกอบการรายเดิม ให้เข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลการจัดเช่ารถยนต์ประจําตําแหน่ง ของกระทรวงการต่างประเทศ ทั้ง 2 สัญญา ที่เป็นปัญหา พบว่า บริษัท กรุงเทพ ออโต้ ลีซ จำกัด เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกงาน ทั้ง 2 สัญญา
มีรายละเอียดดังนี้
สัญญาที่ 1 จัดเช่ารถยนต์ส่วนกลาง จํานวน 12 คัน โดยวิธีพิเศษ ตามสัญญาเช่าเลขที่ 400/2561 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2560
บริษัท กรุงเทพ ออโต้ ลีซ จำกัด เป็นผู้ได้รับการคัดเลือก เสนอราคา 12,192,000.00 บาท ราคางานตามสัญญาอยู่ที่ 12,144,586.67 บาท จากราคากลาง 16,308,000 บาท
สถานะส่งงานครบถ้วน
สัญญาที่ 2 จัดเช่ารถยนต์ประจําตําแหน่ง จํานวน 39 คัน โดยวิธีพิเศษ ตามสัญญาเลขที่ 401/2561 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2560
บริษัท กรุงเทพ ออโต้ ลีซ จำกัด เป็นผู้ได้รับการคัดเลือก เสนอราคา 60,996,000 บาท ราคางานตามสัญญาอยู่ที่ 60,758,793.33 บาท จากราคากลาง 76,215,600 บาท
สถานะส่งงานครบถ้วน
นับรวมจำนวนรถเช่า ทั้ง 2 สัญญา 51 คัน มูลค่างานทั้ง 2 สัญญา อยู่ที่ 72,903,380 บาท
จากการตรวจสอบยังพบว่า ในช่วงปี 2560 บริษัท กรุงเทพ ออโต้ ลีซ จำกัด ยังเป็นคู่สัญญาเช่ารถยนต์ประตำแหน่งกับกระทรวงการต่างประเทศ อีก 3 สัญญา (เท่าที่ตรวจสอบพบ) คือ
1. เช่ารถยนต์ประจำตำแหน่ง จำนวน 1 คัน โดยวิธีพิเศษ วงเงิน 3,289,000 บาท ลงนามในสัญญา 20 ก.พ. 60
2. เช่ารถยนต์ประจำตำแหน่ง จำนวน 1 คัน โดยวิธีพิเศษ 1,144,000 บาท ลงนามในสัญญา 29 พ.ค. 60
3. เช่ารถยนต์ประจำตำแหน่ง จำนวน 1 คัน โดยวิธีเฉพาะเจาะจง วงเงิน 22,000 บาท ลงนามในสัญญา 12 ธ.ค. 60
สรุปข้อมูล ในช่วงปี 2560 บริษัท กรุงเทพ ออโต้ ลีซ จำกัด ได้รับงานเช่ารถยนต์โดยวิธีพิเศษ -วิธีเฉพาะเจาะจง จากกระทรวงการต่างประเทศ ไปจำนวน 5 สัญญา มูลค่ารวม 77,358,380 บาท
อย่างไรก็ดี ในการจัดเช่ารถยนต์ประจําตําแหน่ง 2 สัญญา จำนวน 51 คัน นั้น สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า สาเหตุที่ ป.ป.ช.ตีตกข้อกล่าวหา เป็นเพราะว่า จากการไต่สวนปรากฏข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อการดำเนินการจัดเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งและรถยนต์ส่วนกลางของกระทรวงการต่างประเทศโดยวิธีพิเศษเป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายตามข้อ 23 (2) และ(6) แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 เจ้าหน้าผู้รับผิดชอบจึงสามารถดำเนินการเชิญผู้มีอาชีพโดยตรงมาเสนอราคาได้ซึ่งอาจเชิญผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงและน่าเชื่อถือเพียงรายเดียวมาเสนอราคาได้
แต่คณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นประโยชน์แก่ราชการจึงเห็นควรเชิญบริษัทผู้ประกอบธุรกิจให้เช่ารถยนต์ที่มีคุณสมบัติพร้อม มีประสบการณ์และผลงานน่าเชื่อถือจํานวนถึง 5 ราย โดยตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 57 (2) (6) ไม่ได้กำหนดวิธีการดำเนินการเชิญไว้
การที่คณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษได้ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เชิญชวนให้ผู้ประกอบการยื่นเสนอราคา พร้อมระบุรายละเอียดข้อมูลรถยนต์ไปยังบริษัทผู้ประกอบการเป็นจำนวนถึง 5 ราย โดยบริษัทเอกชนผู้มีอาชีพโดยตรงย่อมมีข้อมูลและราคารถยนต์ และความพร้อมในการจัดหารถยนต์ตามกำหนดระยะเวลาที่กำหนดไว้ โดยสำหรับการจัดเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งบริษัท กรุงเทพ ออโต้ ลีซ จำกัด เป็นผู้เสนอราคาค่าเช่ารถยนต์ครบทุกรายการเพียงรายเดียว
ทั้งเสนอราคาอยู่ในวงเงินงบประมาณ และเป็นผู้เสนอราคารถยนต์ส่วนกลางต่ำสุด และอยู่ในวงเงินงบประมาณคณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ จึงได้พิจารณาให้ทำสัญญาเช่ารถยนต์กับกระทรวงการต่างประเทศ
ดังนั้น เห็นว่า การดำเนินการจัดเช่ารถยนต์โดยวิธีพิเศษของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่พบพฤติการณ์อันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทกรุงเทพ ออโต้ ลีซ จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับจ้างรายเดิม หรือเอกชนผู้เสนอราคารายหนึ่งรายใด ทั้งการจัดเช่ารถยนต์ดังกล่าวก็อยู่ในวงเงินงบประมาณและราคากลาง
จึงไม่มีความเสียหายแก่ทางราชการแต่อย่างใด
ส่วนการจัดทำสัญญาเช่ารถยนต์ อีก 3 สัญญา ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบเพิ่มเติม ยังไม่ปรากฏข้อมูลว่าถูกร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใส และถูก ป.ป.ช.สอบสวนด้วยแต่อย่างใด