แม้ว่าอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านมาอย่างยาวนานของมาเลเซียจะพยายามสู้เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีมากว่า 30 ปีแล้ว แต่ว่าเขาจะบรรลุความฝันในครั้งนี้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับจุดยืนของพรรค GPS เป็นสำคัญ ถ้าหากพรรค GPS ยังคงมีความต้องการที่จะทำงานกับนายอันวาร์ต่อไปในฐานะพันธมิตร
หนึ่งในประเด็นต่างประเทศ ที่ทั่วโลกให้ความสนใจ ณ เวลานี้ก็คือกรณีการเลือกตั้งที่ประเทศมาเลเซีย ณ เวลานี้มาเลเซียกำลังเจอกับสิ่งที่เรียกกันว่าสภาแขวน เนื่องจากว่าไม่มีฝ่ายใดมีคะแนนเสียงพอที่จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างเบ็ดเสร็จ
อย่างไรก็ตามมีการวิเคราะห์กันว่านายมูห์ยิดดิน ยัสซิน จากกลุ่มพันธมิตรแห่งชาติ หรือ กลุ่มเปอริกาตัน (PN) นั้นน่าจะมีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีคนถัดไป แม้ว่ากลุ่มของเขาจะได้คะแนนไปแค่ 73 คะแนน น้อยกว่ากลุ่มพันธมิตรแห่งความหวังหรือ ปากาตัน ฮาราปัน (Pakatan Harapan) หรือ PH ของนายอันวาร์ อิบราฮิม ที่ได้ที่นั่งไป 82 ที่นั่งก็ตาม
ล่าสุดสำนักข่าว Channel News Asia ของประเทศสิงคโปร์ได้มีการวิเคราะห์ว่านายมูห์ยัดดินนั้นอาจจะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนถัดไปของมาเลเซีย และได้วิเคราะห์ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับการเมืองมาเลเซียหลังจากนี้
โดยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้นำเอารายงานดังกล่าวมานำเสนอมีรายละเอียดดังนี้
ผู้เชี่ยวชาญทางการเมืองได้ให้เกี่ยวกับการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 15 ของประเทศมาเลเซียความเห็นว่าถ้าหาก PN นั้นมีโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาลถัดไป ก็มีความเป็นไปได้อย่างยิ่ง ที่รัฐบาลนั้นจะมีคีย์แมนคนสำคัญที่มาจากพรรคการเมืองที่สังกัดกลับกลุ่มพันธมิตร PN
ทั้งนี้การให้ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่พรรคอิสลามแพนมาเลเซียหรือ PAS นั้นได้ที่นั่งไปถึง 49 ที่นั่ง จากสัดส่วนของกลุ่ม PN ทั้งหมดที่มีอยู่ 73 ที่นั่ง หรือสรุปก็คือว่าพรรค PAS นั้นได้คะแนนเสียงสูงสุดในกลุ่ม PN นั่นเอง
ดังนั้นคำถามสำคัญก็คือว่าแรงสนับสนุนอันแข็งแกร่งจากพรรค PAS ที่มีจุดยืนสนับสนุนกฎหมายอิสลามแบบสุดขั้วนั้นจะทำให้กลุ่ม PN บริหารประเทศมาเลเซียในอนาคตต่อไปอย่างไร
ทางด้านของนายอาหมัด เฟาซี อับดุล ฮามิด (Ahmad Fauzi Abdul Hamid) ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Sains Malaysia ได้ให้ความเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่พรรค PAS รวมไปถึงพรรคสามัคคีชนพื้นเมืองมาเลเซีย (Bersatu) หรือ Parti Pribumi Bersatu Malaysia (Bersatu) จะกลายมาเป็นผู้ให้คำแนะนำที่สำคัญสำหรับนโยบายหลังจากนี้
ผู้นำพรรคการเมืองต่างๆในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 15 (อ้างอิงวิดีโอจาก The Star)
“พรรคสามัคคีฯ นั้นเป็นพรรคที่มีภูมิหลังมาจากพรรคอัมโน (United Malays National Organization) ซึ่งพื้นเพของพรรคอัมโนนั้นเป็นพรรคที่มีการศึกษาเท่าทันโลก และเปิดรับความเป็นจริงของโลกได้ดีกว่า ดังนั้นเราก็หวังว่าจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด” นายเฟาซีกล่าวและเน้นย้ำว่าในพรรค PAS เองก็มีผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำแนะนำในการกลั่นกรองสิ่งต่างๆอยู่
นายเฟาซีกล่าวต่อไปว่าในปัจจุบันนั้นการเมืองมาเลเซียเองก็มีลักษณะของการเคลื่อนห่างออกไปจากการเมืองที่เป็นฝ่ายขวามากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งลักษณะการหนีออกจากฝ่ายขวานั้นก็เป็นภูมิทัศน์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะกับที่อิสราเอลและอินเดีย
สำหรับผลการเลือกตั้งนั้นพบว่าไม่มีกลุ่มพันธมิตรพรรคร่วมใดที่ได้เสียงข้างมากอย่างชัดเจนในสภาล่าง ดังนั้นสถานการณ์ก็คือว่าทั้งกลุ่ม PN และกลุ่ม PH จำต้องแข่งกันเพื่อให้ครองเสียงข้างมากในสภาล่างให้ได้
โดยสองกลุ่มการเมืองนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาพันธมิตรจากลุ่มอื่นๆ จากพรรคอื่นๆ เพื่อทำให้คะแนนของตัวเองเกิน 112 ที่นั่ง ก่อนที่จะมีการส่งรายชื่อไปยังสำนักพระราชวังมาเลเซียเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเส้นตายที่กำหนดไว้ก็คือ 14.00 น.ของวันนี้
สาระสำคัญก็คือทั้งสองพรรคต่างก็อ้างว่าได้เสียงสนับสนุนจากกลุ่มแนวร่วมแห่งชาติ หรือ บาริซาน นาซิอองนาล หรือ BN ซึ่งได้ที่นั่งไป 30 คะแนน ซึ่งกลุ่มการเมืองดังกล่าวนั้นมีพรรคอัมโนเป็นแกนนำ
@นายมูห์ยัดดินมีโอกาสอย่างยิ่งที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้
มีความคิดเห็นอีกด้านหนึ่งมองว่ามาเลเซียนั้นกำลังจะกลายเป็นสังคมอนุรักษ์นิยมมากขึ้น และการเข้าหาสังคมอิสลามแบบดั้งเดิมนั้นอาจจะเป็นเรื่องจริง
อย่างไรก็ตามนางทริเซีย ยอห์ ผู้บริหารระดับสูงของสถาบันอิสระคิดถังเพื่อประชาธิปไตยและเศรษฐกิจกล่าวว่าการจะวิเคราะห์อะไรนั้นต้องมีความระมัดระวังอย่างยิ่ง
“ประชาชนส่วนใหญ่ของมาเลเซียยังคงเป็นสิ่งที่เราอาจจะเรียกได้ว่าเป็นผู้อนุรักษ์นิยมดั้งเดิมหรือยังเป็นผู้ที่ยังยึดมั่นค่านิคมแบบเดิมๆอยู่” นางยอห์กล่าว
ทางด้านนายเฟาซีตั้งข้อสังเกตว่ามีความไม่สบายใจเพิ่มมากขึ้น ต่อแนวคิดที่ว่านายอับดุลฮาดี อาวัง ประธานพรรค PAS อาจได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนถัดไป อย่างไรก็ตามเขาหวังว่า "พวกเขาจะรอบคอบเพียงพอ" ที่จะเสนอชื่อประธานกลุ่ม PN ซึ่งก็คือนายมูห์ยัดดินขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
ส่วนนางยอห์กล่าวว่าแม้ว่าจะเป็นการคาดการณ์ก็ตาม แต่ก็ดูเหมือนพรรครัฐบาลซาราวัก (GPS) และพรรค Gabungan Rakyat Sabah (GRS) จากรัฐซาบาห์นั้นได้มีการแถลงข่าวไปเมื่อวันที 20 พ.ย.ที่ผ่านมา และก็ได้มีการพูดคุยกับนายมูห์ยัดดินที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว
“นั่นดูเหมือนจะบ่งบอกให้เห็นว่านายมูห์ยัดดินมีความได้เปรียบอยู่” นางยอห์กล่าวและกล่าวต่อว่าถ้าหากกลุ่ม BN ตัดสินใจไปรวมกับกลุ่ม PH ของนายอันวาร์ก็คงเป็นเรื่องที่น่าสงสัยอยู่ เพราะว่าตัวเลขนั้นอาจจะไม่จำเป็นต้องดึงมาจากลุ่ม BN เพื่อที่จะให้กลุ่ม PH ของนายอันวาร์ได้เป็นรัฐบาลก็เป็นได้
@ปัญหาสำคัญที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับการจัดตั้งรัฐบาลของกลุ่ม PH
นายยอห์กล่าวต่อไปว่าแม้ว่าอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านมาอย่างยาวนานของมาเลเซียจะพยายามสู้เพื่อเป็นนายกรัฐมนตรีมากว่า 30 ปีแล้ว แต่ว่าเขาจะบรรลุความฝันในครั้งนี้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับจุดยืนของพรรค GPS เป็นสำคัญ ถ้าหากพรรค GPS ยังคงมีความต้องการที่จะทำงานกับนายอันวาร์ต่อไปในฐานะพันธมิตร
บทวิเคราะห์การจัดตั้งรัฐบาลผสมของมาเลเซีย (อ้างอิงวิดีโอจาก Sinar Harian)
อย่างไรก็ตามปัญหาอย่างหนึ่งก็คือว่าส่วนประกอบของกลุ่มการเมือง PH นั้นก็คือ พรรคประชาธิปไตยหรือ DAP แลพรรค Parti Keadilan Rakyat (PKR) เป็นพรรคที่แข่งขันกันอย่างมากในมาเลเซียตะวันออก
“พรรค DAP นั้นพยายามอย่างยิ่งที่จะได้รับที่นั่งมากขึ้นในรัฐซาราวัก และพรรค GPS ก็ตระหนักรับรู้ถึงสิ่งนั้น” นางยอห์กล่าวและกล่าวต่อไปว่าแต่ก็มีความจำเป็นยิ่งเช่นกันที่การจัดตั้งรัฐบาลของกลุ่ม PH นั่นอย่างน้อยจะต้องมีพรรค GPS ไว้เคียงข้าง เพื่อทำการเมืองมีเสถยรภาพและไม่สั่นคลอนเหมือนช่วงสี่ปีที่ผ่านมา
“สิ่งที่เราต้องการเห็นคือเสียงข้างมากที่มีเสถียรภาพมากขึ้นซึ่งสามารถนําพาประเทศออกจากความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่เราอาจคาดการณ์ไว้ว่าอาจจะต้องเจอในปี 2566” นางยอห์กล่าว
เรียบเรียงจาก:https://www.channelnewsasia.com/asia/malaysia-ge15-pn-government-muhyiddin-steered-moderation-expert-3089186