พระองค์ขึ้นครองราชย์หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองเพิ่งสงบ ทรงสนับสนุนการพัฒนาประเทศในเครือจักรภพ จากกลุ่มเล็กๆ 7 ประเทศ สู่ครอบครัวใหญ่รวม 56 ประเทศ ครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลก วันนี้เราเป็นประเทศที่ทันสมัย รุ่งเรือง ก้าวไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
จากเหตุการณ์การเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์อันเศร้าสลดทั้งในสหราชอาณาจักร และทั่วโลก และเนื่องจากว่าพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์นานถึง 70 ปี ซึ่งถือว่าเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในยุคสมัยใหม่ ทำให้ช่วงเวลาการครองราชย์ของพระองค์นั้นครอบคลุมในช่วงที่เหล่าบรรดาผู้นำประเทศอันทรงอิทธิพลหลายคนนั้นได้มีอำนาจเข้ามาปกครองประเทศ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) จึงได้มีการประมวลคำไว้อาลัยที่มีต่อการเสด็จสวรรคตมานำเสนอ
โดยเริ่มกันที่ในสหราชอาณาจักร เจ้าฟ้าชายชาร์ล หรือพระเจ้าชาร์ลที่ 3 กษัตริย์คนปัจจุบันของสหราชอาณาจักรและประเทศในเครือจักรภพอีก 56 ประเทศได้มีพระราชแถลงการณ์ระบุว่า “เราอาลัยอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของกษัตริย์ผู้เป็นที่หวงแหน และมารดาผู้เป็นที่รัก ข้าพเจ้าทราบดีว่า การสวรรคตของพระองค์จะรู้สึกได้ไปทั่วประเทศ อาณาจักร เครือจักรภพ และคนมากมายนับไม่ถ้วนทั่วโลก ระหว่างช่วงเวลาแห่งความอาลัยและความเปลี่ยนแปลงนี้ ครอบครัวของข้าพเจ้าและตัวข้าพเจ้าเองจะได้รับการปลอบประโลมและการค้ำจุนด้วยความเคารพและความรักอย่างลึกซึ้งที่สมเด็จพระราชินีนาถได้รับอย่างกว้างขวาง”
ส่วนนางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของสหราชอาณาจักรและเป็นนายกรัฐมนตรีคนสุดท้ายที่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้า ก็ได้กล่าวว่า “พระองค์ขึ้นครองราชย์หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองเพิ่งสงบ ทรงสนับสนุนการพัฒนาประเทศในเครือจักรภพ จากกลุ่มเล็กๆ 7 ประเทศ สู่ครอบครัวใหญ่รวม 56 ประเทศ ครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลก วันนี้เราเป็นประเทศที่ทันสมัย รุ่งเรือง ก้าวไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงทำให้พวกเรารู้สึกมั่นคง และเข้มแข็ง ซึ่งพวกเราต้องการ พระองค์ทรงเป็นจิตวิญญาณของสหราชอาณาจักร และจิตวิญญาณนี้จะสถิตอยู่ตลอดไป
พระองค์ทรงเป็นองค์ประมุขที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดของเรา นับเป็นความสำเร็จที่เหนือธรรมดาที่ทรงได้มาด้วยศักดิ์ศรี และความสง่างามตลอด 70 ปีที่ผ่านมา การปฎิบัติพระราชกรณียกิจของพระองค์มากล้นเกินกว่าความทรงจำในชีวิตของพวกเรา สิ่งที่ทรงได้รับกลับคืนคือ พระองค์ทรงเป็นที่รัก และยกย่องจากคนในสหราชอาณาจักรและทุกคนทั่วโลก
พระองค์ทรงเป็นบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจแก่ดิฉันและชาวอังกฤษมากมาย การทุ่มเทอุทิศพระองค์ต่อหน้าที่ เป็นแบบอย่างแก่พวกเราทุกคน เมื่อต้นสัปดาห์นี้ด้วยพระชนม์ 96 พรรษา พระองค์ยังทรงมุ่งมั่นทำหน้าที่ต่างๆของพระองค์ อย่างที่ทรงโปรดเกล้าแต่งตั้งดิฉันเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 15 ของพระองค์ ตลอดพระชนม์ชีพ พระองค์ทรงเสด็จเยือนนานาประเทศกว่า 100 ประเทศ ทรงได้สัมผัสชีวิตผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก
ในวันเวลาอันยากลำบากที่รออยู่ข้างหน้า เราจะรวมพลังเป็นหนึ่งเดียวกันกับเพื่อนของเราทั่วสหราชอาณาจักร เครือจักรภพและชาวโลกเพื่อสรรเสริญการทรงงานตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์”
ขณะที่นายบอริส จอห์นสัน อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรก็ได้ทวีตผ่านทวิตเตอร์ “นี่ถือว่าเป็นวันที่เศร้าที่สุด หัวใจของพวกเราทุกคนรู้สึกเจ็บปวดกับการจากไปของสมเด็จพระราชินีนาถ ความรู้สึกส่วนลึกของความสูญเสียนี้บางทีอาจจะรุนแรงเกินกว่าที่เราจะคาดการได้
นับตั้งแต่เริ่มแรกที่ปรากฏข่าวอันน่าสลดนี้ ผมรู้ว่าหลายล้านคนนั้นคงได้หยุดจากสิ่งที่กระทำอยู่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามเพื่อคิดถึงสมเด็จพระราชินีนาถ คิดว่าแสงสว่างที่เจิดจ้าและส่องประกายนั้นได้ดับลงแล้ว พระองค์ทรงเป็นผู้ที่ดูเสมือนว่าอยู่เหนือกาลเวลาและยอดเยี่ยมมาก
คลื่นแห่งความโศกเศร้านั้นกำลังหลั่งไหลมาจากทั่วโลก จากบัลมอรัลที่ซึ่งความคิดของเรานั้นจดจ่ออยู่กับราชวงศ์ และทั่วทั้งเครือจักรภพที่พระองค์ทรงรักและหวงแหนนั้นต่างก็หวงแหนพระองค์เป็นการตอบแทน
ทั้งนี้ ถือเป็นเรื่องธรรมชาติมาก ในความเป็นมนุษย์ ยามเมื่อเราต้องเผชิญกับความเป็นจริงของการสูญเสีย เมื่อเราเข้าใจถ่องแท้ว่าได้สูญเสียอะไร เราได้เข้าใจว่าพระองค์ทรงมีความหมายกับเรามากเท่าไร พระองค์ทำเพื่อเรามากเท่าไร และพระองค์รักเรามากเท่าไร เวทย์มนตร์ที่พระองค์ได้ร่ายต่ออาณาจักรของพระองค์ตลอดระยะเวลา 70 ปีนั้นถือว่าไม่มีสิ่งใดเทียบได้ และสิ่งที่พระองค์มีนั้นก็เป็นแค่พลังธรรมดาที่ทำให้เรามีความสุข”
ขณะที่ความเคลื่อนไหวจากทั่วโลกนั้นมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
@ประธานาธิบดีโจ ไบเด้นของสหรัฐอเมริกา
มีรายงานว่าประธานาธิบดีไบเด้นได้มีการยกเลิกการกล่าวสุนทรพจน์ที่มีตามกำหนดการก่อนหน้านี้ และยกย่อยสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธว่าเป็นรัฐบุรุษหญิงแห่งศักดิ์ศรีที่ไม่มีใครเทียบได้ และเป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อหน้าที่ สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธนั้นทรงเป็นมากกว่ากษัตริย์ พระองค์นั้นถือเป็นผู้ที่กำหนดยุคสมัย
พระองค์นั้นถือว่าเป็นกษัตริย์อังกฤษองค์แรกที่ผู้คนทั่วโลกนั้นมีความรู้สึกว่าสามารถเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ผู้คนเริ่มได้ยินพระองค์ตรัสทางรายการวิทยุในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนที่ผู้คนได้เห็นพระองค์บนจอทีวีเพื่อชมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก หรือว่ารับชมผ่านสมาร์ตโฟนเพื่อดูพิธีฉลองการครองราชย์ครบ 70 ปี
ทั้งนี้ประธานาธิบดีไบเด้นได้มีการออกคำสั่งให้ทำเนียบขาวได้ลดธงลงครึ่งเสาจนกล่าวจะผ่านพระราชพิธีพระบรมศพ
ทำเนียบขาวลดธงชาติลงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัยแด่การเสด็จสวรรคต (อ้างอิงวิดีโอจาก Independent)
@นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดา
นายกรัฐมนตรีทรูโดกล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่าเป็นความเศร้าโศกอย่างสุดซึ้ง และยกย่องสมเด็จพระราชินีนาถว่าเป็นผู้ที่ทรงปัญญา มีความเห็นอกเห็นใจ และมีความอบอุ่น
@ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ของยูเครน
ประธานาธิบดีเซเลนสกี้ของยูเครนนั้นถือว่าเป็นผู้นำประเทศรายแรกๆที่ออกมาทวีตผ่านทวิตเตอร์หลังจากที่มีข่าวการสวรรคต โดยเขากล่าวว่ามีความโศกเศร้าอย่างสุดซึ้งที่เราได้ทราบข่าวการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถ เรา ประชาชนชาวยูเครนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อราชวงศ์อังกฤษ ต่อสหราชอาณาจักรและต่อเครือจักรภพกับความสูญเสียที่ไม่อาจจะบรรเทาลงได้ ความคิดและคำสวดภาวนาของเรานั้นจะอยู่กับคุณ (ดูภาพทวิตเตอร์ประกอบ)
@ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย
ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียได้ออกแถลงการณ์ระบุว่าเขารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการเสด็จสวรรคต เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่สำคัญของหน้าประวัติศาสตร์สมัยใหม่สหราชอาณาจักรต่างเชื่อมโยงด้วยพระบารมีในสมเด็จพระราชินีนาถอย่างแยกออกจากกันมิได้ ในช่วงระยะเวลาหลายทศวรรษของสมเด็จพระราชินีนาถนั้นได้ประจักษ์แล้วว่าพระองค์ทรงมีความชอบธรรมในความรักและความเคารพจากเหล่าพสกนิกร รวมไปถึงพระราชอำนาจบนเวทีโลก
@นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่น
สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธทรงมีส่วนช่วยอย่างมากในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ของญี่ปุ่นกับอังกฤษ การสวรรคตของพระองค์นั้นนำมาซึ่งความสูญเสียต่อชุมชนนานาชาติ ผมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อราชวงศ์อังกฤษและต่อประชาชนชาวอังกฤษ
@ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของประเทศจีน
มีรายงานว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิงนั้นได้ส่งถ้อยคำแสดงความเสียใจไปยังกษัตริย์ชาร์ลที่ 3 และราชวงศ์อังกฤษถึงการเสด็จสวรรคต ขณะที่ข่าวการสวรรคตดังกล่าวนั้นก็เป็นหนึ่งในคำค้นหายอดนิยมที่สุดที่ถูกค้นหาบนเว่ยป๋อ สื่อโซเชียลมีเดียของประเทศจีน
ทั้งในผู้ใช้งานเว่ยป๋อจำนวนมากต่างแสดงความโศกเศร้า โดยกล่าวว่านี่ถือว่าเป็นจุดจบแห่งยุค และยกย่องที่พระองค์นั้นเป็นผู้ที่เป็นประจักษ์พยานเห็นถึงช่วงเวลาที่วุ่นวายที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยสมเด็จพระราชินีนาถนั้นยังคงจดจำได้ดีถึงถ้อยคำในช่วงปีใหม่และในฉลองพระองค์สีมาการอง
@ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินของไต้หวัน
ประธานาธิบดีไช่กล่าวว่าตัวเธอนั้นขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อราชวงศ์ สหราชอาณาจักรและเครือจักรภพ เกี่ยวกับข่าวการสวรรคต โดยไต้หวันจะยังคงจดจำและเฉลิมฉลองต่อความเป็นผู้นำและการทำหน้าที่อันเป็นแบบอย่างต่อบุคคลทั่วโลก
@นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบานีส ของออสเตรเลีย
นายกรัฐมนตรีอัลบานีสกล่าวว่าหัวใจทุกดวงของชาวออสเตรเลียส่งถึงประชาชนทุกคนในสหราชอาณาจักร การครองราชย์ครั้งประวัติศาสตร์และชีวิตอันยืนยาวที่อุทิศให้กับหน้าที่, ครอบครัว, ความศรัทธา และการรับใช้ ได้สิ้นสุดลงแล้ว ถือเป็นจุดจบของยุคสมัย
@สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสตรัสว่าพระองค์ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ ผู้ทรงเป็นแบบอย่างของการอุทิศพระองค์ต่อหน้าที่ และการเป็นพยานผู้มั่นคงและแน่วแน่ในศรัทธาต่อพระเยซูคริสต์ ต่อจากนี้จะมีแต่การพักผ่อนชั่วนิรันดร์ และขออำนวยพรแด่กษัตริย์พระองค์ใหม่
@นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ
นายกูเตอร์เรสกล่าวว่าในฐานะประมุขแห่งรัฐที่ทรงพระชนมพรรษายืนนานและครองราชย์ยาวนานที่สุดของสหราชอาณาจักร สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในความสง่างาม, ศักดิ์ศรี และความทุ่มเทของพระองค์ ตลอดหลายทศวรรษของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
@นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย
นายโมดีกล่าวว่าในความทรงจำนั้นจำได้ว่าพระองค์นั้นเป็นผู้ที่แข็งแกร่งในยุคของเรา เป็นตัวตนที่มีศักดิ์ศรีและมีความเหมาะสมในการใช้ชีวิตสาธารณะ โดยนายโมดีได้กล่าวต่อถึงตอนที่สมเด็จพระราชินีนาถได้ทรงโบกผ้าเช็ดหน้าที่มหาตมะคานธีได้มอบให้ในงานอภิเษกสมรสว่าเขาจะจดจำท่าทางนั้นตลอดไป (ดูภาพประกอบ)
ขณะที่ในประเทศไทยนั้นมีรายงานว่านายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลแสดงความเสียใจต่อกรณีที่ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคต เมื่อช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น ณ พระตำหนักบัลมอรัล ประเทศสกอตแลนด์
“รัฐบาลไทยเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งทรงเป็นที่เคารพยกย่องและชื่นชมจากทั่วโลก” แถลงการณ์รัฐบาลระบุ
เรียบเรียงจาก:https://japantoday.com/category/world/queen-elizabeth%27s-death-reaction-from-world-leaders1,https://www.scmp.com/news/china/diplomacy/article/3191926/china-remembers-queen-elizabeth