รวมฮิต14 คดีทุจริต 'โคราช-สุรินทร์-อำนาจเจริญ-ยโสธร' ป.ป.ช.ฟันผอ.ชลประทาน ซื้อท่อ PVC

เขียนวันที่

วันพฤหัสบดี ที่ 03 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09:19 น.

เขียนโดย

isranews

Hits

7158 views

picppcpas32 3 65

"...นอกจากข้อมูลคดีในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 4 คดี และจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 20 คดี ...จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดยโสธร เป็นอีก 4 จังหวัดในพื้นที่ภาคอีสาน ที่ปรากฏข้อมูลว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทางอาญาผู้บริหาร เจ้าหน้าที่และข้าราชการ อปท. รวมอยู่ด้วย จำนวนกว่า 14 คดี ..."

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภาค 3 ได้เผยแพร่ข้อมูลความคืบหน้าคดีทุจริตที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทางอาญาผู้บริหาร เจ้าหน้าที่และข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่หลายจังหวัดภาคอีสาน

นอกจากข้อมูลคดีทุจริตในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 4 คดี และจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 20 คดี ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำมารายงานให้สาธารณชนได้รับทราบไปแล้ว นั้น

จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดยโสธร เป็นอีก 4 จังหวัดในพื้นที่ภาคอีสาน ที่ปรากฏข้อมูลว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทางอาญาผู้บริหาร เจ้าหน้าที่และข้าราชการ อปท. รวมอยู่ด้วย จำนวนกว่า 14 คดี

ข้อมูลคดีแต่ละจังหวัดมีรายละเอียดสำคัญดังต่อไปนี้

@ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครราชสีมา

มีจำนวน 2 เรื่อง เป็นข้อมูลกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล

1. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองเมืองปัก อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา กับพวก กรณีเข้าไปมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับเทศบาลเมืองเมืองปัก ในโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายผิวจราจร แอสฟัลท์ติกคอนกรีต สายศรีพลรัตน์ ตามสัญญาจ้าง เลขที่ 26/2559 ลงวันที่ 18 เมษายน 2559 จำนวนเงินงบประมาณ 3,500,000 บาท

2. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสีมุม อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา กับพวก กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เป็นเหตุให้มีการเอื้อประโยชน์แก่บริษัท เป็นผู้มีสิทธิเข้าทำสัญญาซื้อขายรถตักหน้าขุดหลัง ชนิดขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมิได้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม

@ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุรินทร์

มีจำนวน 1 เรื่อง เป็นคดีที่ศาลมีคำพิพากษา

คือ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลตั้งใจ อ.เมืองสุรินทร์ กรณีลดวงเงินการจัดจ้างโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กทางเข้าวัดหนองกระดาน โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2562

ความคืบหน้าล่าสุด ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 ที่พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 157 จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ทั้งนี้ คดียังไม่สิ้นสุด

(อ่านรายละเอียดในข่าว ศาลอุทธรณ์ ยืนโทษ คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา 'บัญชา' อดีตนายก อบต.ตั้งใจ สุรินทร์ ที่สำนักข่าวอิศรา นำเสนอไปแล้วก่อนหน้านี้)

@ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ

มีจำนวน 4 เรื่อง เป็นข้อมูลกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล

1. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายแพทย์ 5 รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลเสนางคนิคม กับพวกรวม 8 คน กรณีเอื้อประโยชน์ให้ร้านพรพรรณอลูมิเนียมชนะการสอบราคาและเข้าเป็นคู่สัญญากับโรงพยาบาลเสนางคนิคม อำเภอเสนางคนิคม จังหวัดอำนาจเจริญ และจัดทำเอกสารจัดซื้อจ้างเป็นความเท็จโครงการก่อสร้างและปรับปรุงซ่อมแซมอาคารของโรงพยาบาลเสนางคนิคม อำเภอเสนางคนิคม จังหวัดอำนาจเจริญ

2. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอำนาจเจริญ กับพวกรวม 3 คน กรณีเรียกรับเงินจากพนักงานจ้างตามภารกิจของเทศบาลเมืองอำนาจเจริญเพื่อเป็นค่าตอบแทนในการพิจารณาต่อสัญญาจ้าง

3. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลโคกกลาง กรณีเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

4. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโนนดู่ กรณีกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ทุจริตในการเปิดซองสอบราคาและพิจารณาผลการสอบราคาจ้างโครงการสอบราคาจ้างสนับสนุนปัจจัยพื้นฐานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ก่อสร้างปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบ และสิ่งก่อสร้างอื่นที่ชำรุดทรุดโทรมและประสบภัยตามประกาศโรงเรียนบ้านโนนดู่ ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2558 เอกสารสอบราคาจ้าง เลขที่ 1/2558 เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558

@ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดยโสธร

มีจำนวน 7 เรื่อง เป็นข้อมูลกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูล

1. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร กับพวก กรณี นำรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนเงิน หมายเลขทะเบียน กค7127 ยโสธร ของทางราชการ (อบจ.ยโสธร) ไปใช้ประโยชน์ส่วนตน ในการเดินทางไป - กลับ ระหว่างบ้านและที่ทำงาน โดยไม่ได้นำรถยนต์ไปเก็บรักษาไว้ที่ อบจ.ยโสธร และขับขี่ไปตีกอล์ฟที่ค่ายบดินทรเดชา

2. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลกู่จาน อำเภอคำเขื่อนแก้ว กับพวก กรณีไม่ประกาศรายละเอียดการคำนวณราคากลางตาม BOQ และไม่ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอราคาที่มีประโยชน์ร่วมกัน ในโครงการก่อสร้างระบบประปาบาดาลขนาดกลาง บ้านชัยมงคล หมู่ที่ 12

3. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลค้อเหนือ กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาที่องค์การบริหารส่วนตำบลนั้นเป้นคู่สัญญาหรือในกิจการที่กระทำให้แก่องค์การบริหารส่วนตำบลนั้นหรือที่องค์การบริหารส่วนตำบลนั้นจะกระทำ

4. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการชลประทานยโสธร กับพวก รวม 7 คน กรณีทุจริตในการจัดซื้อพัสดุท่อ A/C ท่อ PVC และท่อเหล็กเหนียว เพื่อใช้สำหรับงานก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านท่าช้าง (ระยะที่ 2) ตำบลบากเรือ อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร

5. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร กรณีทุจริตโครงการส่งเสริมการปลูกยางพาราขององค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 โดยข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้แอบอ้างชื่อญาติขอรับพันธุ์กล้ายาง นำไปปลูกในที่ดินของตนเอง และสั่งการให้ศูนย์ส่งเสริมการปลูกป่า 6 (ยโสธร) แจกจ่ายกล้ายางพาราให้กับพรรคพวก ทั้งที่มิได้ประกอบอาชีพเกษตรกร

6. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลตาดทอง อำเภอเมืองยโสธร กับพวก กรณีประวิงเวลาและดำเนินการจัดจ้าง

7. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการชลประทานยโสธร กับพวก กรณีเบิกจ่ายเงินค่าจ้างแรงงานลูกจ้างชั่วคราวรายวัน ของโครงการก่อสร้างระบบส่งน้ำสถานีสูบน้ำไฟฟ้าบ้านท่าช้าง ตำบลบากเรือ อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร โดยมิชอบ

ทั้งนี้ ในการเผยแพร่ข้อมูลผลการชี้มูลคดีทุจริตทั้ง 14 เรื่อง ในพื้นที่ 4 จังหวัด ของ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 3 นั้น มิได้มีการเปิดเผยรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาเป็นทางการ

ขณะที่การชี้มูลความผิดอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

สำหรับรายละเอียดข้อมูลเชิงลึก คดีต่าง ๆ สำนักข่าวอิศรา จะติดตามมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป

อย่างไรก็ดี กรณีการชี้มูลความผิดผู้อำนวยการกองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร กับพวก กรณี นำรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนเงิน หมายเลขทะเบียน กค7127 ยโสธร ของทางราชการ (อบจ.ยโสธร) ไปใช้ประโยชน์ส่วนตน ในการเดินทางไป - กลับ ระหว่างบ้านและที่ทำงาน โดยไม่ได้นำรถยนต์ไปเก็บรักษาไว้ที่ อบจ.ยโสธร และขับขี่ไปตีกอล์ฟที่ค่ายบดินทรเดชา นั้น

สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติประจำจังหวัดยโสธร (ป.ป.ช.ยโสธร) ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 นายรุ่งรัก ลูกบัว ผู้อำนวยการกองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร กับพวก ใช้รถหลวงไปตีกอล์ฟ ไป-กลับ บ้านพัก

ระบุว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติแต่งตั้งคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นเพื่อไต่สวนข้อเท็จจริงเรื่องกล่าวหา นายรุ่งรัก ลูกบัว ผอ.กองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม อบจ.ยโสธร กับพวก กรณี นำรถยนต์ของทางราชการไปใช้ประโยชน์ส่วนตน ในการเดินทางไป - กลับ ระหว่างบ้านและที่ทำงาน และนำรถยนต์ของทางราชการไปตีกอล์ฟ

ข้อเท็จจริงตามทางไต่สวนรับฟังได้ว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2557 ถึงเดือนมิถุนายน 2558 นายรุ่งรัก ลูกบัว ได้จัดทำใบขออนุญาตใช้รถยนต์ส่วนกลางเสนอต่อนายสถิรพร นาคสุข นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร และเดือนกรกฎาคม 2558 ถึงเดือนมีนาคม 2559 ได้จัดทำใบขออนุญาตใช้รถยนต์ส่วนกลางเสนอต่อนายพงษ์ศิริ เหมือนชาติ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร รักษาราชการแทนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธรเพื่อขออนุญาตนำรถยนต์ คันหมายเลขทะเบียน กค 7127 ยโสธร ไปจอดเก็บรักษาไว้ที่บ้านพักของตน บ้านเลขที่ 11 หมู่ที่ 3 ตำบลทรายมูล อำเภอทรายมูล จังหวัดยโสธร และได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวเพื่อเป็นพาหนะในการเดินทางไป - กลับ ระหว่างบ้านพักและองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร โดยไม่เคยนำรถยนต์มาจอดเก็บรักษาไว้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธรแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังได้ใช้รถยนต์คันดังกล่าวไปตีกอล์ฟที่สนามกอล์ฟกรมทหารราบที่ 16 ค่ายบดินทรเดชา พฤติกรรมของนายรุ่งรัก ลูกบัว จึงเป็นการนำรถยนต์ของทางราชการไปใช้ประโยชน์ส่วนตนโดยมิชอบสำหรับนายสถิรพร นาคสุข และนายพงษ์ศิริ เหมือนชาติ ได้อนุมัติให้นายรุ่งรัก ลูกบัว นำรถยนต์ของทางราชการไปเก็บรักษาไว้ที่บ้านพัก และใช้เป็นพาหนะในการขับขี่ ไป-กลับ ระหว่างบ้านพักและที่ทำงาน และสนามกอล์ฟ การกระทำของบุคคลทั้ง 2 รายดังกล่าว จึงได้กระทำไปโดยเอื้อให้นายรุ่งรัก ลูกบัว ได้ใช้รถยนต์ของทางราชการนำไปใช้ประโยชน์ส่วนตน ดังกล่าว

ป.ป.ช. ชี้มูล ม.157 ผอ.การศึกษา อบจ.ยโสธร ใช้รถหลวงไปตีกอล์ฟ-รองนายกฯ คนอนุมัติโดนด้วย

อ่านเรื่องในหมวดเดียวกันประกอบ

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage

หมวดหมู่
รายงาน-สกู๊ป | Isranews | ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวสืบสวน | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา | ข่าวเด่นสืบสวน