"...นายวัลลภ แวววิจิต และ นายอุดร จันทร์ธิมา มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควร อันเป็นผลสืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ โดยได้รับเงินจำนวน 2,684,600 บาท จากการที่ นายอุดร จันทร์ธิมา แสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจโครงการประมูลปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ คือ ต้นราชพฤกษ์และต้นประดู่ ในพื้นที่นอกเขตอนุรักษ์จังหวัดชลบุรี ข่มขู่ขอแบ่งงาน ตลอดจนร่วมกับนายวัลลภ แวววิจิต เรียกและรับเงินจากห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) แสนเมือง แพลนนิ่ง ผู้รับจ้าง เป็นค่าอำนวยความสะดวก..."
การสอบสวนคดีร่ำรวยผิดปกติของ นายวัลลภ และ นายอุดร มีความเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเรียกรับเงินจากเอกชนในโครงการประมูลปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ ขณะที่กระทรวงทรัพย์มีคำสั่งไล่ออกราชการบุคคลทั้ง 2 ตั้งแต่ช่วงปี 2556-2557 แล้ว
คือ ข้อมูลเบื้องต้น ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบ ภายหลังได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ในช่วงปี 2564 นายวัลลภ แวววิจิต อดีตทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดชลบุรี และนายอุดร จันทร์ธิมา อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาดหมอก จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นข้าราชการอีก 2 ราย ที่ถูกสำนักงาน ป.ป.ช. ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีเพื่อขอให้มีคำพิพากษายึดทรัพย์ตกเป็นแผ่นดิน (ต่อจากราย นางสุภา สกุลเงิน อดีต ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลคลองมะเดื่อ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการพิจารณาดำเนินการไต่สวนและมีคำวินิจฉัยว่า นางสุภา สกุลเงิน ร่ำรวยผิดปกติ เป็นจำนวนเงินกว่า 182,742,213.49 บาท)
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการพิจารณาดำเนินการไต่สวนและมีคำวินิจฉัยว่า นายวัลลภ แวววิจิต ร่ำรวยผิดปกติ เป็นเงินจำนวน 1,000,000 บาท ส่วนนายอุดร จันทร์ธิมา ร่ำรวยผิดปกติ เป็นเงินจำนวน 1,684,000 บาท
ต่อไปนี้ เป็นรายละเอียดข้อมูลเชิงลึกพฤติการณ์คดีทุจริต และพฤติการณ์คดีร่ำรวยผิดปกติ ของ นายวัลลภ แวววิจิต และ นายอุดร จันทร์ธิมา ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบล่าสุด
พฤติการณ์คดีทุจริต
ในฐานข้อมูลคดีทุจริตสำนักงาน ป.ป.ช. ระบุว่า ในช่วงปี 2555 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิด ผู้ถูกกล่าวหาในคดีเรียกรับเงินจากผู้กล่าวหาเพื่อเป็นค่าตอบแทนในการอำนวยความสะดวก ในการทำสัญญาจ้างปลูกต้นไม้ ตามโครงการปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ (ต้นราชพฤกษ์และต้นประดู่) ในพื้นที่นอกเขต ป่าอนุรักษ์จังหวัดชลบุรี เป็นทางการ
ผู้ถูกกล่าวหา มีจำนวน 9 ราย ประกอบด้วย 1. นายอุดร จันทร์ธิมา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เจ้าหน้าที่บริหารงานป่าไม้ 6 ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ตาดหมอก จังหวัดเพชรบูรณ์ 2. นายวัลลภ แวววิจิต เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดชลบุรี 3. นายสัมฤทธิ์ สังข์ทอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เจ้าหน้าที่บริหารงานป่าไม้ 6 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรี 4. นายสมมิตร ศิลป์ประเสริฐ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 8 สำนักงานจังหวัดชลบุรี 5. นายจรุวัฒน์ ศรีสัจจัง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานป่าไม้ 5 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรี 6. นายมั่นคง ศิริโชติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานป่าไม้ 5 7. นายณภัทร ตานะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนักวิชาการป่าไม้ 5 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรี 8. นายรังสรรค์ โค้ววราวรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนักวิชาการป่าไม้ 5 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ กรมป่าไม้ 9. นายมงกรด อุ่นเรือน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 ประจำฝ่าย แผนและส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรี
@ มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีดังนี้
1. นายอุดร จันทร์ธิมา มีมูลความผิด ทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 82 วรรคสาม และมาตรา 98 วรรคสอง นอกจากนี้ นายอุดร จันทร์ธิมา มีมูลความผิด ทางอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123 และฐานเป็นผู้สนับสนุน เจ้าพนักงานกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 151 มาตรา 152 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86
2. นายวัลลภ แวววิจิต มีมูลความผิด ทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 82 วรรคสาม มาตรา 85 วรรคสอง และมาตรา 98 วรรคสอง นอกจากนี้ นายวัลลภ แวววิจิต มีมูลความผิด ทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 151 มาตรา 152 และมาตรา 157
3. นายสัมฤทธิ์ สังข์ทอง มีมูลความผิด ทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 85 วรรคสอง
4. นายสมมิตร ศิลป์ประเสริฐ, นายจรุวัฒน์ ศรีสัจจัง, นายมั่นคง ศิริโชติ, นายณภัทร ตานะ, นายรังสรรค์ โค้ววราวรรณ และนายมงกรด อุ่นเรือน มีมูลความผิด ทางวินัย ตามพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 85 วรรคหนึ่ง
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็น ไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษ ทางวินัยและไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาตาม พ.ร.บ.ประกอบ รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2542 มาตรา 92 และมาตรา 97 แล้วแต่กรณี ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงไปยัง ผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาโทษทางวินัย และไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว (ดูข้อมูลประกอบ)
พฤติการณ์คดีร่ำรวยผิดปกติ
จากการไต่สวนข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. พบว่า นายวัลลภ แวววิจิต และ นายอุดร จันทร์ธิมา มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควร อันเป็นผลสืบเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ โดยได้รับเงินจำนวน 2,684,600 บาท จากการที่ นายอุดร จันทร์ธิมา แสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจโครงการประมูลปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ คือ ต้นราชพฤกษ์และต้นประดู่ ในพื้นที่นอกเขตอนุรักษ์จังหวัดชลบุรี ข่มขู่ขอแบ่งงาน ตลอดจนร่วมกับนายวัลลภ แวววิจิต เรียกและรับเงินจากห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) แสนเมือง แพลนนิ่ง ผู้รับจ้าง เป็นค่าอำนวยความสะดวก
ซึ่งปรากฎพยานหลักฐานชัดเจนว่า นายอุดร จันทร์ธิมา ได้รับส่วนแบ่งกำไร่จากการขอแบ่งงานดังกล่าว จำนวน 900,000 บาท
ส่วนนายวัลลภ แวววิจิต ได้รับเงินเป็นค่าอำนวยความสะดวกและเอื้อประโยชน์ ให้กับผู้รับจ้าง เป็นเงิน 1,000,000 บาท
ขณะที่จากการเปรียบเทียบเงินรายได้ในปีภาษี พ.ศ. 2548 นายวัลลภ แวววิจิต มีรายได้ จำนวน 497,880 บาท แต่นายวัลลภ กลับมีเงินได้เพิ่มขึ้นจำนวน 1,000,000 บาท ซึ่งมาจากการ เรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติคดีอาญาและศาลฎีกามีคำพิพากษา
ส่วน นายอุดร จันทร์ธิมา มีเงินได้เพิ่มขึ้นจำนวน 1,684,000 บาท จากเงินรายได้ในปีภาษี พ.ศ. 2548 ที่แจ้งว่ามีรายได้ 244,080 บาท ซึ่งมาจากการ เรียกรับ หรือยอมจะรับเงิน ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติและศาลฎีกามีคำพิพากษาเช่นกัน
กรณีนี้ จึงเป็นการมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ รวมทั้งกรณีมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติสืบเนื่องมาจากการเปรียบเทียบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 9 เสียง ว่า นายวัลลภ แวววิจิต นายอุดร จันทร์ธิมา ร่ำรวยผิดปกติ เห็นควรส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารพยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อให้ดำเนินการยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สิน จำนวน 1,684,000 บาท ของ นายอุดร จันทร์ธิมา และทรัพย์สิน จำนวน 1,000,000 บาท ของ นายวัลลภ แวววิจิต ตกเป็นของแผ่นดิน
สำหรับการดำเนินการของหน่วยงานต้นสังกัด จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2556 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีคำสั่ง ที่ 694/2556 ลงโทษไล่นายอุดร จันทร์ธิมา ออกจากราชแล้ว (ดูคำสั่งไล่ออก นายอุดร จันทร์ธิมา ท้ายเรื่องประกอบ)
ต่อมา วันที่ 30 มิถุนายน 2557 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้มีคำสั่งเลขที่ 173/2557 ลงโทษไล่นายวัลภล แวววิจิต ออกจากราชการเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ในส่วนของผู้ถูกกล่าวหารายอื่น ๆ ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด พร้อมกับ นายวัลลภ แวววิจิต นายอุดร จันทร์ธิมา ปัจจุบันสำนักข่าวอิศรา ยังตรวจสอบไม่พบข้อมูลการดำเนินคดีจากหน่วยงานต้นสังกัดด้วยแต่อย่างใด
ทั้งหมดนี่ เป็นรายละเอียดข้อมูลเชิงลึกพฤติการณ์คดีทุจริต และพฤติการณ์คดีร่ำรวยผิดปกติ ของ นายวัลลภ แวววิจิต และ นายอุดร จันทร์ธิมา ที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนเป็นทางการ ซึ่งสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบและรวบรวมนำมาเปิดเผยให้สาธารณชนได้รับทราบเป็นทางการ
อ่านข่าวในหมวดเดียวกันประกอบ :
- เปิดคดีฟ้องยึดทรัพย์ ป.ป.ช.ปี 64 อดีตปลัดอบต.คลองมะเดื่อ โดนชี้มูลร่ำรวยผิดปกติ 182 ล.
- เบื้องลึก! มติ ป.ป.ช. ฟ้องคดียึดทรัพย์ อดีตปลัด อบต.คลองมะเดื่อ ร่ำรวยผิดปกติ 182 ล.
- ป.ป.ช.ฟ้องยึดทรัพย์ปี 64 รายที่ 2,3 เป็นขรก.ทส. รวยผิดปกติหลักล. พันคดีทุจริต-ไล่ออกแล้ว