"...เรื่องนี้ทราบว่า ทาง อบต.บางแก้ว ได้ลงนามในคำสั่งไล่ออก น.ส.เยาวลักษณ์ และส่งเรื่องให้คณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดสมุทรปราการพิจารณาแล้ว ขณะที่ น.ส.เยาวลักษณ์ ก็ไม่ได้ทำเรื่องอุทธรณ์ผลสอบ ป.ป.ช. ตามพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 99 ภายใน 30 วัน แต่อย่างใด..ส่วนข้อกล่าวหากรณี เรียกรับเงินค่าตอบแทนจากศูนย์การค้าอิเกีย เพื่อแลกเปลี่ยนการออกใบอนุญาตให้บริษัทเอกชน เข้าไปรับขนขยะเป็นรายเดือน ของ นายภัทรพล จำปารัตน์ อดีต นายกอบต.บางแก้ว ป.ป.ช. ได้มีการส่งเรื่องให้ ทางจังหวัดพิจารณาไปแล้วเช่นกัน แต่ปัจจุบันยังไม่ได้รับการประสานงานว่า ปัจจุบันเรื่องอยู่ในขั้นตอนไหน ขณะที่นายภัทรพล พ้นตำแหน่ง นายก อบต.ไปนานแล้ว..."
น.ส.เยาวลักษณ์ ดีเลิศ ผู้อำนวยการกองคลัง องค์การบริหารส่วนตำบลบางแก้ว (อบต.บางแก้ว) อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเคยปรากฏชื่อเป็นหนึ่งในข้าราชการและนักการเมืองท้องถิ่นจำนวน 60 ราย (ลอต 4) ที่ถูกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 43/2559 ให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเข้าสู่กระบวนการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือสอบสวนเพื่อดําเนินการทางวินัยของหน่วยงานต้นสังกัดโดยเร็ว ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2559 หลังถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้มูลความผิดจากการเข้าไปพัวพันปัญหาการจัดการเก็บและขนสิ่งปฏิกูล การออกใบอนุญาต และการจ้างเหมาบริหารกำจัดขยะมูลฝอย ของ อบต.บางแก้ว
ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) เคยติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกมานำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบไปแล้วก่อนหน้านี้
เป็นข้าราชการรายล่าสุด ที่ถูกออกคำสั่งไล่ออกราชการจากคดีทุจริตประพฤติมิชอบ
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้รับการยืนยันข้อมูลว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ทำหนังสือแจ้งถึง นายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว ถึงมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ ที่ชี้มูลความผิดร้ายแรง น.ส.เยาวลักษณ์ ดีเลิศ พร้อมพวก 2 ราย กรณีเอื้อประโยชน์ให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) เอ็นพีซี ของนายนพดล มานพกวี ซึ่งเป็นพี่เขย ของ น.ส.เยาวลักษณ์ ในการจัดการขนะภายในเขต อบต.บางแก้ว
โดย ป.ป.ช. ขอให้ นายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว พิจารณาลงโทษทางวินัยตามมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนอีก ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ได้รับหนังสือแจ้งจากสำนักงาน ป.ป.ช.
สำหรับข้อเท็จจริงกรณีนี้ สำนักข่าวอิศรา เคยตรวจสอบพบว่า น.ส.เยาวลักษณ์ ถูก สตง.ชี้มูลความผิดจากการเข้าไปพัวพันปัญหาการจัดการเก็บและขนสิ่งปฏิกูล การออกใบอนุญาต และการจ้างเหมาบริหารกำจัดขยะมูลฝอย ของ อบต.บางแก้ว และทำหนังสือแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับเรื่องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ ในต้นเดือน มิ.ย.2559 ที่ผ่านมา
โดย สตง.ตรวจสอบพบว่า นายนพดล มานพกวี หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) เอ็นพีชี ซึ่งเป็นพี่เขย ของ น.ส.เยาวลักษณ์ ทำสัญญารับจ้างขนขยะให้กับเอกชน 3 ราย คือ ศูนย์การค้าเทสโก้ โลตัส ในอัตรา 70,000 บาท ต่อเดือน อาคารบางนาทาวเวอร์ ในอัตรา 100,000 บาท/เดือน และคอนโด ลุมพินี เมกะซิตี้ บางนา ในอัตรา 107,000 บาท /เดือน
ช่วงแรก หจก.เอ็นพีชี ยังไม่ได้รับใบอนุญาตในการขนขยะจาก อบต.บางแก้ว โดย เอกชนทั้ง 3 ราย ได้ติดต่อกับ หจก.เอ็นพีชี ผ่าน นาง ล.(ชื่อย่อ) เจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ในฝ่ายบริหารงานสาธารณสุข โดยผ่านการสั่งการของ น.ส.เยาวลักษณ์ แต่ หจก.เอ็นพีชี ไม่มีอาชีพในการเก็บขนขยะ จึงได้จ้างช่วงให้ นาย ป.(ชื่อย่อ) ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตขนขยะในเขต อบต.บางแก้ว เป็นผู้เก็บขนขยะให้กับเอกชนทั้ง 3 รายแทน
ต่อมาสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบด้วยว่า นายภัทรพล จำปารัตน์ นายกอบต.บางแก้ว ก็ถูกสตง.ชี้มูลความผิดจากข้อกล่าวหาเรียกรับเงินค่าตอบแทนจากศูนย์การค้าอิเกีย เพื่อแลกเปลี่ยนการออกใบอนุญาตให้บริษัทเอกชน เข้าไปรับขนขยะเป็นรายเดือนด้วยเช่นกัน
ระบุพฤติการณ์ในการเรียกรับส่วยขยะจากศูนย์การค้าอิเกีย เดือนละ 40,000 บาท ซึ่งหากศูนย์การค้าอิเกียไม่ยอมจ่าย จะไม่ออกใบอนุญาตขนขยะฯ และถอนใบอนุญาตขนขยะฯ ของ บริษัทเวสท์เมเนจเม้นท์สยาม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่รับจ้างขนขยะให้กับศูนย์การค้าอิเกีย
@ ภัทรพล จำปารัตน์
ขณะที่ นายภัทรพล ก็ปรากฎรายชื่อเป็นหนึ่งในกลุ่มข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมืองและข้าราชการท่องถิ่น รวมจำนวน 45 ราย ลอตแรก ที่ถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่ และโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งอื่น ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2558 เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 58 ที่ผ่านมาเช่นกัน
จากการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกสำนักข่าวอิศรา ยังพบว่า น.ส.เยาวลักษณ์ กับ นายภัทรพล เคยมีความสัมพันธ์กันในฐานะ สามีและภรรยา
ส่วนเหตุผลที่ ใช้นามสกุลไม่เหมือนกัน เพราะก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่ง นายก อบต.บางแก้ว นายภัทรพล และ น.ส.เยาวลักษณ์ ได้จดทะเบียนหย่าขาดกัน
แต่ปัจจุบันก็ยังใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน และมีลูกด้วยกัน2 คน โดยบ้านที่ทั้งสองพักอยู่ร่วมกันมีขนาดหลังใหญ่โต รถหลายคัน
ขณะที่ในการสัมภาษณ์ น.ส.เยาวลักษณ์ ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการเอื้อประโยชน์การรับงานเก็บขยะ กับอิศรา แต่ยอมรับว่าแม้จะหย่าขาดกับ นายภัทรพล จำปารัตน์ แต่ยังคงอยู่บ้านหลังเดียวกัน
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ หจก.เอ็นพีชี ในขณะนั้น สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า หจก.เอ็นพีชี จดทะเบียนจัดตั้งเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 มี.ค.2556 มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
มีหุ้นส่วน 2 ราย คือ นายนพดล มานพกวี (พี่เขย น.ส.เยาวลักษณ์) ถือหุ้นใหญ่ จำนวน 8 แสนบาท นายชำนาญ มูลหล้า ถือหุ้นอยู่ 2 แสนบาท
นายนพดล มานพกวี ปรากฎชื่อเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการผู้มีอำนาจ
สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 15/9 ถนนเอกาทศรฐ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
นายนพดล มานพกวี แจ้งว่ามีอาชีพรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 14/2 หมู่ที่ 2 ต.ท่าทอง อ.เมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
ส่วนนายชำนาญ แจ้งว่า มีอาชีพรับจ้าง อยู่บ้านเลขที่ 7/51 ถนนเอกาทศรฐ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก
แจ้งวัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจหลัก คือ จำหน่ายอุปกรณ์รับเหมาก่อสร้าง และงานก่อสร้างทั่วไป รวมถึงรับจ้างเหมาบริการ กำจัดขยะมูลฝอย ออกแบบ จัดทำตกแต่ง ดูแลรักษาสวยหย่อมสยามหญ้า (หมายเหตุประกอบงบการเงินล่าสุดปี 2557 แจ้งว่ามีอาชีพรับเหมาก่อสร้างเป็นหลัก)
ทั้งนี้ ภายหลังจากแจ้งจดทะเบียนจัดตั้งหจก.ฯ เป็นทางการ เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2556 เวลาผ่านไป 2 ปี ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2558 หจก.ฯ ได้แจ้งเปลี่ยนตัวหุ้นส่วนใหม่ทั้งหมด นายนพดล มานพกวี และ นายชำนาญ มูลหล้า แจ้งลาออก
ขณะที่ น.ส.กนก พรหมรัตน์ ปรากฎชื่อเข้ามาถือหุ้น จำนวน 8 แสนบาท แทนนายนพดล มานพกวี
ส่วน น.ส.รักชนก ชมป้อม เข้ามาถือหุ้นจำนวน 2 แสนบาท แทน นายชำนาญ มูลหล้า
นอกจากนี้ ยังแจ้งเปลี่ยนที่ตั้งสำนักงานใหม่ เป็น บ้านเลขที่ 9/146 หมู่ที่ 11 ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ (ดูเอกสารประกอบ)
อย่างไรก็ดี เมื่อสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกการจดทะเบียนจัดตั้ง หจก.เอ็นพีชี พบข้อสังเกตสำคัญ 3 ประการ ดังนี้
ประการแรก การจดทะเบียนจัดตั้งหจก.เอ็นพีชี เกิดขึ้นในช่วงที่ นายภัทรพล จำปารัตน์ ดำรงตำแหน่งเป็น นายก อบต.บางแก้ว
ขณะที่ นายภัทรพล จำปารัตน์ แม้จะหย่าขาดกับ น.ส.เยาวลักษณ์ ดีเลิศ ภรรยา ผู้อำนวยการกองคลัง องค์การบริหารส่วนตำบลบางแก้ว (อบต.บางแก้ว) แต่ปัจจุบันยังคงอยู่บ้านเดียวกัน และมีลูกชาย 2 คน
ส่วน นายนพดล มานพกวี เป็นพี่เขยของ น.ส.เยาวลักษณ์
โดย น.ส.เยาวลักษณ์ ถูกสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ลอตสี่ หลังถูกสตง.ชี้มูลความผิดจากการเข้าไปพัวพันปัญหาการจัดการเก็บและขนสิ่งปฏิกูล การออกใบอนุญาต และการจ้างเหมาบริหารกำจัดขยะมูลฝอย ของ อบต.บางแก้ว เนื่องจาก นายนพดล มานพกวี หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.)เอ็นพีชี ซึ่งเป็นพี่เขย ของ น.ส.เยาวลักษณ์ ทำสัญญารับจ้างขนขยะให้กับเอกชน 3 ราย คือ ศูนย์การค้าเทสโก้ โลตัส ในอัตรา 70,000 บาท ต่อเดือน อาคารบางนาทาวเวอร์ ในอัตรา 100,000 บาท/เดือน และคอนโด ลุมพินี เมกะซิตี้ บางนา ในอัตรา 107,000 บาท /เดือน
ช่วงแรก หจก.เอ็นพีชี ยังไม่ได้รับใบอนุญาตในการขนขยะจาก อบต.บางแก้ว โดย เอกชนทั้ง 3 ราย ได้ติดต่อกับ หจก.เอ็นพีชี ผ่านเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ในฝ่ายบริหารงานสาธารณสุข โดยผ่านการสั่งการของ น.ส.เยาวลักษณ์ แต่ หจก.เอ็นพีชี ไม่มีอาชีพในการเก็บขนขยะ จึงได้จ้างช่วงให้เอกชนรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตขนขยะในเขต อบต.บางแก้ว เป็นผู้เก็บขนขยะให้กับเอกชนทั้ง 3 รายแทน
ประการสอง ภายหลังการจดทะเบียนจัดตั้งช่วงเดือน มี.ค. 2556 ต่อมาในเดือน ก.ย.2556 หจก.เอ็นพีชี ได้รับงานว่าจ้างจากศูนย์การค้าเมกาบางนา ในอัตราเดือนละ 140,186.92 บาท และ เดือน ก.ค.2558-ก.ย.2558 ในอัตรา 200,000 บาทต่อเดือน
ขณะที่ในช่วงเวลาดังกล่าว หจก.เอ็นพีชี มีที่ตั้งอยู่ที่ จ.พิษณุโลก
ส่วน สตง.ตรวจสอบพบว่า การว่าจ้างบริษัทเอกชนเข้ามารับงานขนขยะของ ศูนย์การค้าเมกาบางนา ตั้งแต่เปิดบริการจนถึงเดือน ส.ค.2556 ได้ว่าจ้างบริษัท เจ.ซี.วาย ในอัตรา เดือนละ 140,186.92 บาท ขณะที่บริษัท เจ.ซี.วาย ได้ว่าจ้างให้อบต.บางแก้ว ไปเก็บขยะให้ ในอัตรา 24,000 บาทต่อเดือน
แต่ภายหลังจากที่ ศูนย์การค้าเมกาบางนา ได้เปลี่ยนมาจ้างหจก.เอ็นพีชี เข้ามาเก็บขยะให้แทน บริษัท เจ.ซี.วาย ในช่วงเดือน ก.ย.2556 หจก.เอ็นพีชี ยังคงว่าจ้าง ให้ อบต.บางแก้ว ไปเก็บขยะให้ศูนย์การค้าเมกาบางนา ในอัตรา 24,000 บาทต่อเดือน
แต่ตั้งแต่ช่วงเดือนก.ย.2557 หจก.เอ็นพีชี ไม่ได้จ่ายเงินค่าจ้างให้อบต.บางแก้ว อีกเลย
มิหน้ำซ้ำ เมื่อขนขยะไปถึงปากบ่อขยะ ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายการทิ้งลงบ่อเพิ่มอีกส่วนหนึ่ง อบต.บางแก้ว ยังต้องจ่ายเงินส่วนนี้แทน หจก.เอ็นพีชี อีกด้วย
ประการสาม ภายหลังจากที่ นายภัทรพล จำปารัตน์ นายก อบต.บางแก้ว ถูกสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ลอตแรก ที่ 16/2558 เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 58 อันเนื่องมาจากถูก สตง.ตรวจสอบ และตั้งข้อกล่าวหาเรื่องการเรียกรับเงินค่าตอบแทนเพื่อแลกเปลี่ยนการออกใบอนุญาตให้บริษัทเอกชนเข้าไปรับขนขยะเดือนละ 4 หมื่นบาท จากศูนย์การค้าอิเกีย และขยายผลการสอบสวนไปยังกรณีการจัดการเก็บและขนสิ่งปฏิกูล การออกใบอนุญาต และการจ้างเหมาบริหารกำจัดขยะมูลฝอย ของ หจก.เอ็นพีชี ด้วย ในช่วงเดือน พ.ย.2558 หจก.เอ็นพีชี ได้แจ้งเปลี่ยนตัวผู้ถือหุ้นหจก.ใหม่ทั้งหมด
โดยไม่มีชื่อ นายนพดล มานพกวี พี่เขย น.ส.เยาวลักษณ์ เข้ามาเกี่ยวข้อง และแจ้งเปลี่ยนที่ตั้งบริษัทใหม่ จาก จ.พิษณุโลก เข้ามาอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ ด้วย
โดยที่อยู่ใหม่ ของ หจก.เอ็นพีชี คือ บ้านเลขที่ 9/146 หมู่ที่ 11 ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เป็นที่อยู่ของ น.ส.กนก พรหมรัตน์ เข้ามาถือหุ้นแทน จำนวน 8 แสนบาท แทนนายนพดล มานพกวี (ดูเอกสารประกอบ)
ขณะที่ แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช. ให้ข้อมูลยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า "เรื่องนี้ทราบว่า ทาง อบต.บางแก้ว ได้ลงนามในคำสั่งไล่ออก น.ส.เยาวลักษณ์ และส่งเรื่องให้คณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดสมุทรปราการพิจารณาแล้ว ขณะที่ น.ส.เยาวลักษณ์ ก็ไม่ได้ทำเรื่องอุทธรณ์ผลสอบ ป.ป.ช. ตามพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 99 ภายใน 30 วัน แต่อย่างใด"
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ส่วนข้อกล่าวหากรณี เรียกรับเงินค่าตอบแทนจากศูนย์การค้าอิเกีย เพื่อแลกเปลี่ยนการออกใบอนุญาตให้บริษัทเอกชน เข้าไปรับขนขยะเป็นรายเดือน ของ นายภัทรพล จำปารัตน์ อดีต นายกอบต.บางแก้ว ป.ป.ช. ได้มีการส่งเรื่องให้ ทางจังหวัดพิจารณาไปแล้วเช่นกัน แต่ปัจจุบันยังไม่ได้รับการประสานงานว่า ปัจจุบันเรื่องอยู่ในขั้นตอนไหน ขณะที่นายภัทรพล พ้นตำแหน่ง นายก อบต.ไปนานแล้ว"
สำหรับรายละเอียดส่วนอื่น ๆ สำนักข่าวอิศรา จะติดตามนำมาเสนอให้สาธารณชนรับทราบต่อไป
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage