แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประกาศแต่งตั้ง ดร.แอกเนส คาลามาร์ด เป็นเลขาธิ
.............................
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลประกาศแต่งตั้ง ดร.แอกเนส คาลามาร์ด ผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศเป็นเลขาธิการคนใหม่โดยให้มีผลทันทีในวันนี้
ก่อนที่ ดร. คาลามาร์ด ได้เข้าร่วมงานกับองค์กรสิทธิมนุษยชนที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้น เธอเคยทำงานเป็นผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการสังหารอย่างรวบรัด หรือโดยพลการและนอกกระบวนการยุติธรรม โดยในตำแหน่งดังกล่าว เธอมีผลงานการสอบสวนครั้งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการสังหารนายจามาล คาช็อกจี นักข่าวชาวซาอุดีอาระเบีย
ในฐานะเลขาธิการ ดร. คาลามาร์ด จะทำหน้าที่เป็นประธานฝ่ายบริหารของสำนักเลขาธิการใหญ่ และเป็นโฆษกหลักของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งปัจจุบันมีผู้สนับสนุนประมาณ 10 ล้านคน และมีสำนักงานในกว่า 70 ประเทศ
ซารา บีอามิช ประธานคณะกรรมการสากลของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยว่าในช่วงเวลาที่สถานการณ์สิทธิมนุษยชนตกอยู่ใต้การคุกคามอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนทั่วโลก ดร. คาลามาร์ดจะเป็นผู้นำที่กระตุ้นและส่งเสริมขบวนการแอมเนสตี้ในทุกภาคส่วน เพื่อรับมือกับปัญหาท้าทายอย่างตรงไปตรงมา
“ความแหลมคมทางสติปัญญา ประกอบกับประสบการณ์ที่ลึกซึ้งด้านสิทธิมนุษยชนระดับโลก และความกล้าหาญในการแสดงความคิดเห็น ทำให้เธอมีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้นำขบวนการของเรา เรายินดีที่เธอตอบรับความท้าทายครั้งนี้เพื่อนำเราไปสู่ยุคใหม่อย่างกล้าหาญ”
เลขาธิการได้รับแต่งตั้งจากคณะกรรมการสากลของแอมเนสตี้ให้ดำรงตำแหน่งในเบื้องต้นมีวาระสี่ปี การแต่งตั้งครั้งนี้เป็นผลมาจากการสรรหาผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมจากทั่วโลก ดร. คาลามาร์ดจะเข้าดำรงตำแหน่งแทนจูลี เวอร์แฮร์ รักษาการเลขาธิการ
ดร.แอกเนส คาลามาร์ดกล่าวว่า ในขณะที่รัฐบาลและบรรษัทหาทางปิดปากผู้ที่เปิดโปงการปฏิบัติมิชอบของพวกเขา เพื่อปิดบังความจริงและทำลายหรือปฏิเสธบรรทัดฐานด้านสิทธิมนุษยชน การสอบสวนอย่างเข้มแข็งและการรณรงค์อย่างกล้าหาญของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ และทำงานร่วมกับผู้สนับสนุนของแอมเนสตี้ทั่วโลก เพื่อให้เราสามารถปกป้องและเรียกร้องการเคารพทุกสิทธิมนุษยชนให้กับทุกคน”
ดร. คาลามาร์ดเป็นชาวฝรั่งเศส มีเส้นทางการทำงานที่โดดเด่นในด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและงานด้านมนุษยธรรม เธอเคยร่วมงานกับเอ็นจีโอ นักวิชาการ และองค์การสหประชาชาติ นอกจากทำงานเป็นผู้ชำนาญการอิสระด้านสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติแล้ว เธอยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโครงการเสรีภาพด้านความเห็นระดับโลกที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ก่อนหน้านั้นเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารขององค์กร ARTICLE 19 ซึ่งทำงานเกี่ยวกับสิทธิในเสรีภาพการแสดงออก และเป็นผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการบริหาร HAP International (Humanitarian Accountability Partnership)
ดร. คาลามาร์ดเคยทำงานกับแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลระหว่างปีพ.ศ. 2538-2544 รวมทั้งการทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเลขาธิการ (Chef de Cabinet) ของปิแอร์ ซาเน เลขาธิการในขณะนั้น เธอเป็นผู้นำการสอบสวนด้านสิทธิมนุษยชนในกว่า 30 ประเทศ และมีผลงานตีพิมพ์อย่างแพร่หลายทั้งในด้านสิทธิมนุษยชน สิทธิสตรี เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การเดินทางของผู้ลี้ภัย และวิธีสอบสวนด้านสิทธิมนุษยชน
โดยในการขึ้นรับตำแหน่งนี้ของ ดร.คาลามาร์ด ทางคณะกรรมการสากลขอขอบคุณคุณเวอร์แฮร์ ในการรักษาการณ์ตำแหน่งผู้นำ และขอให้เธอประสบความสำเร็จกับงานที่มีความท้าทายใหม่ ๆ