DITP เผยผลตอบรับ THAIFEX - ANUGA ASIA 2020 “The Hybrid Edition” ดีเกินคาด ฟื้นฟูอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม สร้างมูลค่าการซื้อขายกว่า 7,918 ล้านบาท
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยผลการจัดงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม THAIFEX - ANUGA ASIA 2020 “The Hybrid Edition” ที่จัดขึ้นโดย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ หอการค้าไทย (TCC) และโคโลญเมสเซ่ (KM) ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 22-26 กันยายน 2563 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ว่าประสบความสำเร็จดีเกินคาด ในสถานการณ์ที่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก โดยมีผู้เข้าชมงาน 54,396 ราย สร้างมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งออฟไลน์และออนไลน์ 7,918 ล้านบาท
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มมาอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 30 โดยในปีนี้ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานเป็นแบบไฮบริดครั้งแรก ซึ่งเป็นการจัดงานผสมผสานระหว่างรูปแบบออฟไลน์และเทคโนโลยีออนไลน์ ภายใต้ชื่อ THAIFEX - ANUGA ASIA 2020 “The Hybrid Edition” เพื่อรองรับวิถีชีวิต New Normal และตอบโจทย์นักธุรกิจต่างชาติหรือผู้นำเข้าสินค้าอาหารที่ไม่สามารถเดินทางมาไทยได้ ซึ่งถือว่าเป็นงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย หลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยการจัดงานครั้งนี้ได้พิสูจน์ว่าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทยสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้รับความไว้วางใจด้านความปลอดภัยในต่างประเทศเป็นอย่างมาก”
ในปีนี้มีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าแบบออฟไลน์รวม 797 บริษัท 1,776 คูหา แบ่งเป็นผู้ประกอบการไทย 527 บริษัท และตัวแทนที่อยู่ในประเทศไทยของผู้ประกอบการต่างชาติจาก 13 ประเทศ และอีก 2 เขตเศรษฐกิจพิเศษ ได้แก่ ออสเตรเลีย บราซิล จีน อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย นอร์เวย์ โปแลนด์ สิงคโปร์ อเมริกา อังกฤษ ไต้หวัน และฮ่องกง รวม 270 บริษัท โดยมีผู้เข้าชมงานตลอดทั้ง 5 วัน เป็นจำนวน 54,396 ราย เป็นผู้เข้าร่วมเจรจาการค้า 21,104 ราย ซึ่งทางคณะผู้จัดได้ใช้มาตรการการดูแลสุขอนามัยของผู้เข้าร่วมงานอย่างเคร่งครัด โดยกำหนดให้เข้าชมงานได้วันละ 2 รอบ ๆ ละไม่เกิน 15,000 คน
“การจัดงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม THAIFEX - ANUGA ASIA 2020 “The Hybrid Edition” ครั้งนี้ สามารถสร้างมูลค่าการสั่งซื้อสินค้าทันที 49.9 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะมีการสั่งซื้อสินค้าภายใน 1 ปี 7,658 ล้านบาท มูลค่ารวม 7,708 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีในส่วนของการจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริง THAIFEXporter Virtual Trade Show (VTS) ซึ่งถือว่าได้รับความสำเร็จและได้รับความสนใจดีเกินคาด โดยมีผู้เข้าร่วมเป็นผู้ประกอบการไทยจำนวน 261 บริษัท และผู้นำเข้า ผู้ซื้อต่างชาติ จำนวน 752 บริษัท จาก 77 ประเทศ โดยมีผู้เข้าชมงาน 1,080 ครั้ง รวมถึงมี Matching Request จำนวน 1,018 คู่ สร้างมูลค่าการสั่งซื้อทันที 222,400 บาท และคาดการณ์สั่งซื้อภายใน 1 ปี 209.8 ล้านบาท มูลค่ารวม 210 ล้านบาท รวมมูลค่าการสั่งซื้อสินค้าทั้งออฟไลน์และออนไลน์ 7,918 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มสินค้าที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก คือ อาหารสำเร็จรูป ขนมและของหวาน เครื่องดื่ม อาหารแช่แข็ง และอาหารออร์แกนิก งานนี้ถือเป็นบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทยให้กลับมาแข็งแรง และรูปแบบของการจัดงานครั้งนี้จะกลายเป็นต้นแบบการจัดงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มในทั่วโลกต่อไป” นายสมเด็จ กล่าว