รพ.ภูมิพลอดุลยเดช ร่วมบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่กองทุนบัตรทอง ประชาชนจองสิทธิออนไลน์ 2,413 คน ชี้เป็นระบบที่ดี ทำให้ รพ.มีข้อมูลชัดเจนเพื่อจัดบริการดูแลประชาชน ด้าน สปสช.เผยชาว กทม. ตอบรับจองสิทธิฉีดวัคซีนล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ ล่าสุดมีประชาชนร่วมจองสิทธิ 2 แสนคนแล้ว
ที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2563 นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย นพ.วีระพันธ์ ลีธนะกุล ผู้อำนวยการ สปสช.เขต 13 กทม. ลงพื้นที่เยี่ยมชมการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ของโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช โดยให้บริการประชาชนที่ร่วมลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ เฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ดำเนินการโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 13 กทม. โดยมี พลอากาศตรี ทวีพงษ์ ปาจรีย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ และผู้บริหารโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูล บริการพร้อมนำชมการให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประชาชน
นพ.การุณย์ กล่าวว่า สปสช.ได้บรรจุวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ดูแลประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิเป็นประจำทุกปี เพื่อลดอัตราการป่วยและเสียชีวิตให้กับประชาชน โดยในพื้นที่ กทม.เริ่มให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่หน่วยบริการในระบบบัตรทองได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นต้นมา ประชาชนไม่เสียค่าใช้จ่ายและบริการ ทั้งนี้ด้วยปีที่ผ่านมา มีประชาชนส่วนหนึ่งที่เข้ารับบริการฉีดวัคซีนที่หน่วยบริการบางแห่ง แล้วประสบปัญหาวัคซีนไม่เพียงพอ เพราะมีผู้ไปขอรับบริการฉีดวัคซนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว สปสช.เขต 13 กทม. ได้วางระบบรับลงทะเบียนจองสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ล่วงหน้าเฉพาะพื้นที่ กทม. ผ่าน LINE ID : @ucbkk สร้างสุข เพิ่มเติม นอกจากระบบออนไลน์ที่ได้ดำเนินการก่อนหน้านี้ ทั้งเว็บไซต์ https://ucme.nhso.go.th/และ Application สปสช. /Icon สร้างสุข เพิ่มความสะดวกในการจองสิทธิ์ให้กับประชาชน และสร้างความมั่นใจว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แน่นอนเมื่อไปรับบริการตามวันเวลาและหน่วยบริการที่ลงทะเบียนไว้
นพ.การุณย์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ สปสช.เปิดให้ประชาชนจองสิทธิฉีดวัคซีนผ่านระบบออนไลน์ จากข้อมูลล่าสุดมีประชาชนลงทะเบียนจองสิทธิผ่านระบบออนไลน์จำนวน 200,011 ราย จากโควต้าวัคซีนพื้นที่เขต กทม. จำนวน 270,000 โด๊ส ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว 50,494 คน (ยอด ณ วันที่ 19 มิ.ย. 63) ประชาชนจองสิทธิด้วยตนเองผ่าน สปสช. สร้างสุข Application สปสช. และให้เจ้าหน้าที่ สปสช. ลงทะเบียนทางเว็บไซด์ https://ucme.nhso.go.th/ จำนวน 14,305 คน นับว่าได้รับการตอบรับด้วยดีจากประชาชน และจากจำนวนลงทะเบียนจองสิทธิฉีดวัคซีนนี้ เป็นการจองสิทธิรับวัคซีนที่โรงพยาบาลภูมิพล ถึงจำนวน 2,413 คน
“โรงพยาบาลภูมิพลเป็นหน่วยบริการที่ร่วมระบบบัตรทอง ครอบคลุมดูแลประชาชนในพื้นที่ให้เข้าถึงบริการสุขภาพ รวมถึงการให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง และบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่โดยผ่านการจองสิทธิผ่านระบบออนไลน์ นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่ระหว่างโรงพยาบาลภูมิพลและ สปสช. ไม่เพียงแต่ช่วยให้ประชาชนมั่นใจว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนแน่นอน แต่ยังเป็นส่วนที่ช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาลได้” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวและว่า ทั้งนี้นอกจากโรงพยาบาลภูมิพลแล้ว ประชาชนสามารถจองสิทธิฉีดวัคซีนผ่านระบบออนไลน์ โดยเลือกรับบริการได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 68 แห่ง คลินิกชุมชนอบอุ่น โรงพยาบาลรัฐและเอกชนที่ร่วมโครงการบัตรทอง หากประชาชนมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 ตลอด 24 ชม.
ด้าน น.อ.นภ ตู้จินดา รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูมิพล กล่าวว่า ในแต่ละปีที่โรงพยาบาลภูมิพลมีประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามสิทธิประโยชน์กองทุนบัตรทองจำนวนมากและในปีนี้ก็เช่นกัน โดยการเปิดจองสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ผ่านระบบออนไลน์ ขณะนี้มีประชาชนลงทะเบียนรับบริการที่โรงพยาบาลภูมิพลจำนวน 2,413 คนแล้ว ซึ่งเป็นระบบที่ดีเพราะทำให้โรงพยาบาลรับทราบจำนวนผู้เข้ารับวัคซีนในแต่ละวันล่วงหน้า เพื่อจัดเตรียมบริการและเพิ่มความสะดวกในการเข้ารับบริการให้กับประชาชน ขณะเดียวกันยังเป็นข้อมูลนำมาบริหารจัดการเพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล
“นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของการพัฒนาระบบบริการสุขภาพที่ไม่หยุดนิ่ง จากแต่เดิมหน่วยบริการจะไม่ทราบจำนวนประชาชนที่จะมารับวัคซีนเลยว่าในแต่ละวันจะมีจำนวนเท่าไหร่ ทำให้การบริหารจัดการทำได้ยาก แต่ด้วยระบบการจองสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่นี้ ทำให้โรงพยาบาลมีข้อมูลชัดเจนในการเตรียมความพร้อมให้บริการ” รองผู้อำนวนการโรงพยาบาลภูมิพล กล่าว
ด้านนายฐิติวัชร์ ทวีพงศภัทร์ อายุ 72 ปี หนึ่งในประชาชนที่มารับวัคซีนที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ กล่าวว่า ปีก่อนๆตนก็ได้รับการฉีดวัคซีนเพราะปกติจะมาตรวจโรคหัวใจและรับประทานยาโรคหัวใจอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว แพทย์จะบอกให้ไปฉีดเลย ไม่ต้องจองสิทธิ ส่วนปีนี้ทางแพทย์แนะนำให้จองสิทธิก่อน โดยโรงพยาบาลจะมีจุดบริการรอไว้ให้ เมื่อยื่นบัตรประชาชนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็จะลงทะเบียนพร้อมกับเขียนใบนัดให้ โดยตนลงทะเบียนจองเมื่อประมาณสัปดาห์ก่อน แล้วได้นัดฉีดวันนี้
นายฐิติวัชร์ กล่าวว่า เมื่อเทียบกันแล้ว ตนชอบระบบการจองแบบนี้มากกว่า เพราะได้รับวัคซีนแน่นอนและไม่ต้องไปนั่งรอคิวนานๆ เมื่อถือใบนัดมายื่นก็เข้าไปฉีดได้เลย ครั้งนี้ตนมาถึงโรงพยาบาลจนถึงฉีดวัคซีนเสร็จใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 20-25 นาทีเท่านั้น ดังนั้นคิดว่าใช้ระบบการจองสิทธิแบบนี้ดีกว่า
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 