4 แบงก์ใหญ่ ‘ไทยพาณิชย์-กสิกรไทย-กรุงไทย-กรุงเทพ’ ประกาศมาตรการพักหนี้เงินต้น-ดอกเบี้ยให้ลูกหนี้เอสเอ็มอีโดยอัยอัตโนมัติเป็นเวลา 6 เดือน เริ่มเม.ย.-ก.ย.63 พร้อมปล่อยสินเชื่อเติมสภาพคล่องในสัดส่วน 20% ของยอดเงินคงค้าง ณ สิ้นปี 62 คิดดอกเบี้ย 2% ปลอดดอกเบี้ย 6 เดือนแรก
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงเทพ ประกาศมาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่เดือนเม.ย.-ก.ย.2563 สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการที่มีวงเงินสินเชื่อกับธนาคารไม่เกิน 100 ล้านบาท โดยปรับอัตโนมัติ ไม่ต้องติดต่อธนาคาร และไม่ถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้ รวมทั้งไม่เสียประวัติข้อมูลเครดิต
พร้อมทั้งสนับสนุนเงินกู้เสริมสภาพคล่อง สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการที่มีวงเงินสินเชื่อกับธนาคารไม่เกิน 500 ล้านบาท โดยปล่อยสินเชื่อในในสัดส่วน 20% ของยอดหนี้คงค้าง ณ วันที่ 31 ธ.ค.2562 คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 2% ต่อปี และฟรีดอกเบี้ย 6 เดือนแรก
สำหรับประกาศมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เอสเอ็มอีของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ทั้ง 4 ดังกล่าว เป็นการดำเนินการตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) วงเงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม ระยะที่ 3 กรอบวงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้กระจายความรุนแรงไปสู่ทุกภาคธุรกิจ ธนาคารพยายามแสวงหาแนวทางให้ความช่วยเหลือเพื่อเยียวยาและประคับประคองให้ลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารทุกรายสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปอย่างดีที่สุด
โดยครั้งนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ธนาคารพร้อมตอบสนองมาตรการจากภาครัฐในทันที ด้วยมาตรการพักชำระสินเชื่อทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 6 เดือน ให้แก่ลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาททุกราย โดยจะธนาคารดำเนินการพักหนี้ให้ลูกค้ากลุ่มนี้ตั้งแต่เดือนเม.ย.2563 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระทางด้านค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการได้อีกทางหนึ่ง
ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท ธนาคารมีมาตรการสนับสนุนสินเชื่อซอฟต์โลน อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยไม่คิดดอกเบี้ยในระยะ 6 เดือนแรก เนื่องจากรัฐบาลจะเป็นผู้รับภาระดอกเบี้ยในช่วงดังกล่าวแทนผู้ประกอบการ สามารถขอสินเชื่อซอฟต์โลนใหม่ได้ไม่เกิน 20% ของยอดหนี้คงค้าง ณ สิ้นเดือนธ.ค.2562 เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการมีสภาพคล่องทางการเงินสำหรับการดำเนินธุรกิจต่อไป
ทั้งนี้ ลูกค้าเอสเอ็มอีมีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาททุกรายจะได้รับการพักชำระหนี้ 6 เดือนโดยอัตโนมัติโดยไม่จำเป็นต้องติดต่อธนาคาร เริ่มมีผลตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป สำหรับลูกค้าที่ต้องการสินเชื่อซอฟต์โลนสามารถแจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2563 – 30 กันยายน 2563 ที่ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ หรือ SCB Business Call Center โทร. 02 722 2222 หรือสาขาธนาคารไทยพาณิชย์ทั่วประเทศ และ https://scbsme.scb.co.th/
ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือลูกค้าทั้งรายย่อยและลูกค้าธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและวิกฤติโควิด-19 อย่างเต็มที่ โดยล่าสุดธนาคารกรุงไทยร่วมมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือ SME ของกระทรวงการคลังและ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งเป็นไปตามร่างพ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมฯ โดยประกาศพักชำระหนี้เงินต้น-ดอกเบี้ย 6 เดือน ให้กับลูกค้าธุรกิจที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 100 ล้านบาท เพื่อรับมือกับรายจ่ายที่จำเป็นของธุรกิจ เริ่มมีผลเดือนเม.ย.-ก.ย.2563
นอกจากนี้ ธนาคารยังสนับสนุนสินเชื่อใหม่ (Soft Loan) เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กลุ่มลูกค้าที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท โดยกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 20% ของยอดหนี้คงค้าง ณ 31 ธ.ค.2562 อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี โดยธนาคารไม่คิดดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้
นายผยง กล่าวว่า ที่ผ่านมาธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มทุกขนาด โดยออกมาตรการเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมมาโดยตลอด ด้วยการพักชำระเงินต้น 12 เดือนให้กับลูกค้ารายย่อย พักชำระเงินต้น 12 เดือน ขยายระยะเวลาชำระหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) และสินเชื่อ Trade Finance ออกไป 6 เดือน สำหรับลูกค้าธุรกิจที่มีรายได้ลดลง
พักชำระหนี้ให้ลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจที่มีสถานะชำระปกติทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยนาน 3 เดือน ทั้งสินเชื่อบุคคลภายใต้การกำกับ และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท สินเชื่อธุรกิจที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 20 ล้านบาท
รวมทั้งให้สินเชื่อกรุงไทยต้านภัยโควิด-19 ดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 2% ต่อปี คงที่ 2 ปีแรก วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม บสย. ค้ำประกัน 4 ปี ทำธุรกรรมโอน รับ จ่าย ไม่คิดค่าธรรมเนียมนาน 1 ปี สำหรับลูกค้าธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม รถเช่า ร้านขายของฝาก ของที่ระลึก ซึ่งขณะนี้ได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าไปแล้วกว่า 3,500 ราย วงเงินกว่า 40,000 ล้านบาท และมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการอีกกว่า 70,000 ราย วงเงินประมาณ 280,000 ล้านบาท รวมวงเงินช่วยเหลือ 320,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ของมาตรการดังกล่าว ธนาคารจะแจ้งให้ทราบเพิ่มเติมต่อไป ลูกค้าสามารถขอรับความช่วยเหลือได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านเว็บไซต์ krungthai.com/covid19/ และ Krungthai Contact Center โทร. 02-111-1111 ธนาคารจะตรวจสอบข้อมูลและติดต่อกลับ เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป
ส่วนนายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลและให้ความช่วยเหลือลูกค้าผู้ประกอบการ SME ซึ่งเป็นภาคส่วนที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยและเป็นแหล่งการจ้างงานหลักของประเทศ โดยธนาคารให้การสนับสนุนมาตรการเพิ่มเติมของ ธปท. เพื่อช่วยลูกค้าผู้ประกอบการให้มีเงินทุนและสภาพคล่องเพียงพอในการดำเนินธุรกิจและรักษาการจ้างงานต่อไป
โดยการช่วยเหลือประกอบด้วย 2 มาตรการ คือ 1.สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการค้าทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และมีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาท ได้พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยโดยอัตโนมัติ ระยะเวลา 6 เดือน และไม่เสียประวัติข้อมูลเครดิต เพื่อช่วยให้มีสภาพคล่องรองรับรายจ่ายจำเป็น ทั้งนี้ ลูกค้าผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ ธนาคารขอแนะนำให้ชำระหนี้ตามปกติ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
2.ธนาคารพร้อมสนับสนุนสินเชื่อใหม่ (soft loan) เพื่อเป็นเงินกู้เสริมสภาพคล่อง สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการค้าทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และมีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษ 2% ต่อปี ในช่วง 2 ปีแรก และไม่คิดดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก ทั้งนี้ลูกค้าต้องมีสถานะผ่อนชำระปกติ หรือค้างชำระไม่เกิน 90 วัน (ยังไม่เป็น NPL) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดยแต่ละรายสามารถขอกู้ได้ไม่เกิน 20% ของยอดหนี้คงค้างของลูกหนี้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562
“ในระหว่างการใช้ 2 มาตรการดังกล่าว ธนาคารพร้อมให้คำปรึกษาแนะนำลูกค้าผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิด ทั้งในการปรับโครงสร้างหนี้ ปรับแผนการผ่อนชำระหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้ และช่วยจัดโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสมกับธุรกิจของลูกค้าผู้ประกอบการ ด้วยธนาคารเข้าใจถึงสถานการณ์ความยากลำบากที่ลูกค้ากำลังเผชิญอยู่ จึงเน้นให้ความช่วยเหลือก่อนที่ลูกค้าจะกลายเป็นหนี้เสีย ซึ่งจะกระทบต่อประวัติเครดิตของลูกค้า” นายสุวรรณ กล่าว
สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการสามารถสอบถามรายละเอียดและขอใช้สินเชื่อดังกล่าวได้ตั้งแต่บัดนี้ที่สำนักธุรกิจที่ดูแลท่าน หรือสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากสื่อประชาสัมพันธ์ของธนาคารกรุงเทพทุกช่องทาง ได้แก่ https://www.bangkokbank.com/SMEs Bangkok Bank Line Official บัวหลวงโฟน โทร.1333 หรือ 0 2645 5555
อ่านประกอบ :
เบ็ดเสร็จ! ใช้เงิน 2 ล้านล้าน.สู้โควิด -ครม.ออก พ.ร.ก.3ฉบับ-โอนงบกลางอีก 1 แสนล.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/