เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ร่วมกับ บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) จัดแลกเปลี่ยนความเห็นเพื่อสร้างความร่วมมือในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนของกลุ่มธุรกิจในเครือ ตามเป้าหมายที่ประกาศโดยนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริหารเครือซีพี ซึ่งมุ่งนำองค์กรสู่การเป็น Carbon Neutral และ Zero Waste ภายในปี 2030 พร้อมผลักดันการลดปริมาณคาร์บอนและขยะพลาสติกในประเทศ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับโลกในอนาคต
การแลกเปลี่ยนความเห็นในครั้งนี้ นำโดย ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือซีพี และนายดนัยเดช เกตุสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP ซึ่งได้ร่วมกันหารือถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจ ESG โดยเน้น 4 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์รักษ์โลก การออกแบบบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน การนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาปรับใช้ และการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ การพบปะดังกล่าวจัดขึ้นที่ SCGP-Inspired Solutions Studio จ.ปทุมธานี
ดร.ธีระพล กล่าวถึงความสำคัญของการรวมความยั่งยืนเข้ากับการดำเนินธุรกิจว่า "เราต้องหลอมรวมความยั่งยืนเป็นหนึ่งเดียวกับการทำธุรกิจ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่แท้จริง ความร่วมมือกับ SCGP ในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ยั่งยืนให้กับกลุ่มธุรกิจในเครือซีพี ซึ่งสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเครือฯ อย่างชัดเจน"
นายดนัยเดช กล่าวเสริมว่า "SCGP ยึดมั่นในแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน เราเชื่อมั่นว่าการร่วมมือกับเครือซีพีจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและโลก"
SCGP ได้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กับกลุ่มธุรกิจในเครือซีพี เช่น ซีพีออลล์ แม็คโคร โลตัส และซีพีแรม ซึ่งในปี 2023 สามารถนำกระดาษใช้แล้วกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ถึง 79,554 ตันต่อปีและมีเป้าหมายที่จะเพิ่มเป็น 85,000 ตันต่อปีภายในปีนี้ ทั้งยังสามารถนำพลาสติกกลับสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ 1,648 ตันต่อปี และคาดว่าจะนำกลับได้เพิ่มอีกเป็น 2,050 ตันต่อปี
ความร่วมมือครั้งนี้ยังเป็นการช่วยลดคาร์บอนตามแนวทาง Zero Waste อีกทั้งยังสร้างโซลูชันร่วมกันเพื่อนำวัสดุกลับมาหมุนเวียนและรีไซเคิลในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างประโยชน์ให้กับสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมในระยะยาว