บอร์ด สปสช. นัดประชุมวาระพิเศษ อนุมัติงบกองทุนบัตรทอง เพื่อปิดรายจ่ายปีงบประมาณ 2567 ทั้งค่าบริการ 30 บาทรักษาทุกที่ และรายการบริการที่งบประมาณไม่เพียงพอ พร้อมให้ความเห็นชอบหากงบคงเหลือให้เพิ่มเติมค่าบริการผู้ป่วยในให้หน่วยบริการอัตราไม่เกิน 8,350 บาทต่อ Adj.RW มอบ สปสช. ดำเนินการทันที
เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 - นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 10 (3) 2567 วาระพิเศษ “การปิดงบประมาณรายจ่าย ปีงบประมาณ 2567 และการใช้งบกลางคงเหลือ” ว่า ตามที่รัฐบาลได้อนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปีงบประมาณ 2567 จำนวน 5,924.31 ล้านบาท เพื่อเพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล 30 บาทรักษาทุกที่ ประจำปีงบประมาณ 2567 โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้นำรวมกับงบรายการรายได้สูง (ต่ำ) กว่าค่าใช้จ่ายสะสมของปีงบประมาณ 2566 และรายรับอื่นระหว่างปีรอปิดบัญชีปี 2567 ที่ไม่มีภาระผูกพัน ที่ประชุมบอร์ด สปสช. เห็นชอบให้นำมาจ่ายชดเชยสำหรับค่าบริการ โดยเรียงตามรายการดังนี้
ค่าบริการตามนโยบายรัฐบาล 30 บาทรักษาทุกที่ ค่าบริการกรณีที่จำเป็นในการเข้ารับบริการยังหน่วยบริการอื่นนอกเครือข่ายกรณีเหตุสมควร กรณีรายการค่าบริการที่งบประมาณไม่เพียงพอ และในกรณีที่มีงบประมาณคงเหลือให้นำมาใช้จ่ายเพิ่มเติมกับค่าบริการผู้ป่วยในให้หน่วยบริการในอัตราไม่เกิน 8,350 บาทต่อ Adj.RW ทั้งนี้หากยังมีงบประมาณคงเหลือก็ให้ยกยอดไปในปีถัดไป ยกเว้นในส่วนของงบกลางฯ ให้เบิกจ่ายแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2567
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับในส่วนงบปกติ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ให้ปิดงบประมาณจากข้อมูลการเบิกจ่ายที่ส่งเบิกภายในวันที่ 15 กันยายน 2567 สำหรับข้อมูลการส่งเบิกจ่ายหลังจากวันที่ 15 กันยายน 2567 ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณในปีถัดไป ส่วนค่าบริการผู้ป่วยนอกพื้นที่ กทม. ให้กันเงินไว้ภายใต้วงเงิน Capitation ตามประชากรที่ลงทะเบียน ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 ไว้จ่ายค่าใช้จ่ายค่าบริการที่ค้างจ่ายของปีงบประมาณ 2567
นอกจากนี้ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบให้ปิดงบประมาณรายจ่ายจากข้อมูลที่ส่งเบิกภายในวันที่ 15 กันยายนของทุกปี เพื่อให้การดำเนินการโอนเงินให้หน่วยบริการมีประสิทธิภาพและเสร็จสิ้นภายในวันที่ 30 กันยายนของทุกปี ส่วนข้อมูลเบิกจ่ายหลังวันที่ 15 กันยายน ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณในปีถัดไป รวมถึงการนำงบประมาณคงเหลือจากการเบิกจ่ายให้นำไปรวมกับงบประมาณในปีถัดไป
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ บอร์ด สปสช. ยังให้ สปสช. รับข้อสังเกตของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่อาจเกิดความซ้ำซ้อนของการสนับสนุนงบประมาณ ในการจัดบริการภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพ กรณีที่ผู้มีสิทธิไปรับบริการที่หน่วยบริการอื่นที่ไม่ได้ลงทะเบียนไว้ หรือหน่วยบริการสาธารณสุขพื้นฐานใกล้บ้าน ขณะที่หน่วยบริการเดิมที่ได้ลงทะเบียนไว้ไม่ต้องจัดบริการแก่ผู้มีสิทธิรายนั้น แต่ยังได้รับงบประมาณในการดำเนินงานตามค่าเหมาจ่ายรายหัว ดังนั้นจึงควรพิจารณาหาแนวทาง ในการจัดสรรงบประมาณรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ในการจัดบริการร่วมกันระหว่างหน่วยบริการที่ประชาชนได้ลงทะเบียน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และหน่วยบริการอื่นภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงานในระยะต่อไป
“จากมติที่ประชุมบอร์ด สปสช. ในวันนี้ ยังให้ สปสช. ดำเนินการโดยทันที ซึ่งทาง สปสช. จะมีการปรับปรุงประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เกี่ยวกับการดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข ให้สอดคล้องกันต่อไป” ประธานบอร์ด สปสช. กล่าว
ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การประชุมบอร์ด สปสช. ในวันนี้ท่าน รมว.สาธารณสุข ได้สั่งการให้มีการจัดขึ้นเป็นวาระพิเศษ เพื่อเร่งแก้ปัญหางบประมาณในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เนื่องด้วยบริการในปีงบประมาณ 2567 จากการดำเนินการปรากฏว่า ได้มีประชาชนเข้ารับบริการจำนวนมาก ทำให้มีผลงานบริการมากกว่างบประมาณที่จัดสรรไว้ จึงจำเป็นต้องจัดหางบประมาณเพิ่มเติมในการปิดงบประมาณรายจ่าย รวมถึงการขอเพิ่มเติมจากงบกลางฯ ที่ทางคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบเมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนี้ สปสช. จะเร่งดำเนินการโอนค่าบริการให้กับหน่วยบริการโดยเร็ว
อย่างไรก็ตามในช่วงเริ่มต้นของการประชุมฯ ทางประธานบอร์ด สปสช. ยังได้แสดงความเป็นห่วงต่อภาระโรคค่าใช้จ่ายสูงที่ก่อให้เกิดการล้มละลายและโรคเรื้อรัง อาทิ โรคเบาหวาน ความดัน ที่นำไปสู่โรคร้ายแรงเหล่านี้ และภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล รวมถึงงบประมาณกองทุนบัตรทองฯ ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งประชาชนสามารถปรับพฤติกรรมเพื่อลดอัตราการป่วยได้ ดังนั้นจึงขอฝากให้ทุกคนช่วยกัน